เลือกตั้งและการเมือง

ฝ่ายค้านซัดเดือด! นโยบายรบ. "ไม่ตรงปก" นายกฯ ลุกแจง ขอเลิกใช้วาทกรรมด้อยค่า

โดย panwilai_c

12 ก.ย. 2566

46 views

การแถลงนโยบายรัฐบาล อยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ประเด็นสำคัญในช่วงค่ำฝ่ายค้านเน้นอภิปราย นโยบายการเมือง โดยเฉพาะการปฏิรูปกองทัพและการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่ตรงปก ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง ขอสมาชิกรัฐสภาเลิกใช้วาทกรรมด้อยค่า ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานแบบผู้ใหญ่



การอภิปรายของนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายอย่างเข้มข้นถึงนโยบายการปฏิรูปกองทัพ ที่ไม่มีในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล แม้จะระบุว่าจะเป็นการพัฒนากองทัพ เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นแบบสมัครใจ ลดกำลังพลให้สอดคล้องกับปัจจุบัน แต่คำนิยามรัฐบาลเศรษฐา ไม่ต่างจาก ส่วนต่อขยายของระบอบประยุทธ์ ที่มีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนผ่าน เหนี่ยวรั้งสังคมไทยให้อยู่กับระบบการเมืองแบบเดิมที่อำนาจสูงสุดไม่เป็นของประชาชน และการแต่งตั้งนายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นพลเรือน ไม่ได้ทำให้เห็นความหวังได้ แต่อาจเป็นได้เพียง เขตทหารห้ามเข้า ยกเว้นเรื่องที่กองทัพอนุญาต

และไม่มีหลักประกันที่จะป้องกันการรัฐประหารที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยได้



ขณะที่นายจิรัฎฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.พรรคก้าวไกล ก็อภิปรายผิดหวัง นโยบายรัฐบาลว่าเป็นนโยบายไร้ร่องรอย โดยเฉพาะคำสัญญาปฏิรูปกองทัพ ที่คาดหวังว่านายสุทิน คลังแสงจะ เป็นมากกว่าแค่แมสเซนเจอร์หรือโฆษกกองทัพ



ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี ต้องลุกขึ้นชี้แจงว่านโยบายปฏิรูปกองทัพจะมีอย่างสร้างสรรค์และการพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพก็คุยแบบผู้ใหญ่ นโยบายทางการทหาร เช่นการเกณฑ์ทหารจะให้ผู้ชายมีสิทธิเลือกเป็นทหารได้เอง ส่วนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์จะพิจารณาภายใต้กรอบงบประมาณที่จำเป็น แต่จากการฟังอภิปรายในวันนี้ อยากให้เลิกใช้วาทกรรมด้อยค่า กันเพราะโตๆกันแล้ว ขอเวลาในการทำงานดีกว่า



จากนั้นนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกลได้ลุกขึ้นประท้วงว่านายกรัฐมนตรีก็ไม่ควรด้อยค่าการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาด้วย ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานในที่ประชุมต้องขอให้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงต่อและยืนยันว่าจะทำให้กองทัพกลับมามีศักดิ์ศรี และทำให้ประเทศเกิดความสามัคคี และเมื่อได้ทำงานร่วมกันภาครัฐบาลและทหารจะแถลงข่าวร่วมกัน



นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายถึงนโยบายสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ไม่ระบุไว้ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยนายรอมฏอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ย้ำว่า การคำว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้แสดงว่าไม่สำคัญ จึงเรียกร้อง 7 ข้อ ทั้งการคืนความยุติธรรมคดีตากใบที่จะหมดอายุความในเดือนตุลาคมปีหน้า ซึ่งครบ 20 เหตุการณ์ รัฐบาลจะต่อพรก.ฉุกเฉินและกฏอัยการศึกหรือไม่ และจะเอาอย่างไรกับการเจรจาสันติภาพ



นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรมก็อภิปรายเรื่องนี้นโยบายไม่ตรงปก เพราะรัฐบาลไม่ตรงปก การสร้างสันติภาพปาตานีเป็นความหวังของประชาชน และต้องแก้ปัญหาบนหลักนิติธรรม หากจะเป็นผู้นำสันติภาพโลก ต้องไม่ลืมการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงนโยยายการต่างประเทศที่ต้องชูบทบาทมนุษยธรรมโดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทยเมียนมา



ขณะที่พันตำรวจเอก ทีวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน แม้ไม่มีอยู่ในคำแถลง เพราะเป็นเรื่องที่ทำอยู่แล้ว และจะยกระดับให้สำเร็จ



ไฮไลต์การอภิปรายนโยบายรัฐบาลตลอดทั้งวัน นายกรัฐมนตรีได้ลุกขึ้นชี้แจง 5 ครั้ง ทั้งนโยบายการพักหนี้เกษตรกร การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และที่สำคัญมีการชี้แจงนายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิปรายในฐานะฝ่ายค้าน ยืนยันไม่เข้ามาทำงานเพื่อธุรกิจการเมือง และสวนกลับกรณีนายชวน เรียกชื่อนายกรัฐมนตรีผิดเป็น เชษฐา ด้วย

กลายเป็นคู่เอกในการอภิปรายวันนี้สำหรับ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่อภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยกล่าวว่า นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถูกตรวจสอบมากที่สุด ก็ขอให้พิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อธุรกิจการเมือง และทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุรจริต และจะหนีชะตากรรมที่ไม่ให้เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยรักไทยถึงพรรคเพื่อไทยที่ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศบ้าง ถูกดำเนินคดีบ้าง จนถูก สส.พรรคเพื่อไทยประท้วง และอภิปรายต่อถึงการไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย โดยในช่วงต้นนายชวน พูดชื่อนายเศรษฐา เป็นเชษฐา จนนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นมาชี้แจงตอบโต้ในทันที



นายเศรษฐา ขอบคุณนายชวนที่ให้โอวาท โดยยืนยันว่า แม้เป็นนักธุรกิจมาก่อน แต่ตั้งใจมาทำงานเพื่อประเทศชาติ จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แม้ไม่มี สส.ในภาคใต้ แต่จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดแรกที่ลงพื้นที่หลังได้เป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้



ก่อนหน้านั้นนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านรวม 5 ครั้ง ในนโยบายสำคัญ เช่น การพักหนี้เกษตรกร ที่การประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก จะมีมาตรการพักหนี้เกษตรกรเป็นเรื่องเร่งด่วน จะดำเนินการภายในสิ้นปีนี้ แต่จะมีขึ้นพร้อมการสร้างรายได้ให้ผลผลิตเกษตรกร



นอกจากนี้ยังมีประเด็นกรณี ที่นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าเป็นนายกรัฐมนตรีส้มหล่น ทำให้ สส.พรรคเพื่อไทย นางสาวสรัสนันท์ อรรณพพร ลุกขึ้นประท้วงขอให้ถอนคำพูดในที่สุด และนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงขอให้ใจเย็นๆ พร้อมยืนยันให้ความสำคัญกับแรงงานฟรีแลนซ์ รวมถึงกลุ่มไรด์เดอร์ จะต้องมีการคุ้มครองแรงงานและผู้บริโภคื ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เป็น 400 บาทโดยเร็วที่สุด รวมถึงนโยบายยาเสพติด ที่ให้ความสำคัญ



ส่วนรัฐมนตรีหลายกระทรวงก็ชี้แจง เช่น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันจะมีการแก้ไขราคาพลังงานอย่างเร่งด่วน และสนับสนุนพลังงานทางเลือก



ขณะที่นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าจะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค และนโยบายสาธารณสุขมีเอกภาพ ตั้งเป้าเปลี่ยนจากกระทรวงขอเงิน สู่กระทรวงสร้างรายได้ โดยจะประกาศภารกิจใน 100 วันแรก เช่นการกำหนดเขตสุขภาพนำร่องใช้บัตรประชาชนใบเดียว เชื่อมโยงข้อมูลครบวงจร

คุณอาจสนใจ

Related News