สังคม

สภาฯ มีมติไม่รับข้อสังเกตรายงานกรรมาธิการศึกษาแนวทาง นิรโทษกรรม

โดย parichat_p

24 ต.ค. 2567

23 views

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับข้อสังเกตรายงานกรรมาธิการศึกษาแนวทาง นิรโทษกรรม โดยเสียงส่วนใหญ่ที่โหวตไม่รับคือฝ่ายรัฐบาล


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาลงมติรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแนวทางการตราร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อเนื่องจากการพิจารณาสัปดาห์ที่แล้ว มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนการลงมตินายพิเชษฐ์เปิดโอกาสให้กรรมาธิการและสมาชิกอภิปรายเพิ่มเติมได้อีกเล็กน้อย


น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า สนับสนุนการนิรโทษกรรมทุกคดี ไม่มีข้อยกเว้นคดีใด ที่ผ่านมากรรมาธิการเชิญแกนนำทุกสีมาให้ข้อมูลการนิรโทษกรรม คดีมาตรา112 ทุกคนเห็นด้วยให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา112 แต่เหตุใดกรรมาธิการที่ไม่เห็นด้วยจึงมีปัญหา ไม่อยากให้ถ่วงการก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยทิ้งใครไว้ข้างหลัง มีกี่คนที่รู้ถึงรายละเอียดพฤติการณ์ความผิดของผู้มีคดีมาตรา112 ว่าแต่ละคดีเป็นอย่างไร หลายคดียกฟ้อง หลายคดีเป็นคดีกลั่นแกล้งทางการเมือง บางคนเป็นผู้ป่วยจิตเวช คดีความผิดมาตรา112 มีเป็นพันคดี ไม่ใช่แค่หลักร้อย ขอให้เปิดใจให้โอกาสประชาชนที่มีคดีมาตรา112 ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนที่พวกท่านจับมือกันตั้งรัฐบาล


นายชัยธวัช ตุลาธน อภิปรายว่า คดีมาตรา112 เกี่ยวข้องความขัดแย้งทางการเมืองแบบแยกไม่ออก การมองนิรโทษกรรม คดีมาตรา112 จะส่งเสริมให้คนทำผิด บ้านเมืองไม่มีขื่อแป ถ้ามองเช่นนี้ไม่ควรนิรโทษกรรมคดีใดเลย การยกเว้นนิรโทษกรรม เฉพาะคดีมาตรา112 ต้องคิดให้รอบคอบ ไม่ให้เกิดความรู้สึกทางลบต่อสถาบัน การนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 มีข้อดีคือ ฟื้นความสัมพันธ์อันดีของประชาชนต่อสถาบัน ถ้าไม่นิรโทษความผิดนี้จะบรรลุไปสู่เป้าหมายความปรองดองได้หรือไม่


นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอให้สภาตั้งสติเรื่องการนิรโทษกรรม ควรตั้งคำถามคดีมาตรา112 ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งทางสังคม การเมือง ก็ต้องไปศึกษาจะมีกระบวนการทางกฎหมายอย่างไร วาระนี้ไม่ใช่วาระที่พรรคการเมืองจะมาแข่งกันแสดงความจงรักภักดี จะแก้ปัญหาความขัดแย้งแบบนี้หรือ ที่ผ่านมาเคยนิรโทษกรรม คดี 6 ต.ค.2519 ก็มีคดีมาตรา112 อยู่ด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่า นักศึกษาทำผิดมาตรา112 แต่ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย จึงได้รับการนิรโทษกรรม ถ้ากลัวว่านิรโทษกรรมแล้วจะทำผิดซ้ำ ขอให้ไปดูประชาชนไม่เคยทำผิดซ้ำในประวัติศาสตร์หลังนิรโทษกรรม มีอยู่เรื่องเดียวที่ได้รับนิรโทษกรรมแล้วทำผิดซ้ำคือ การรัฐประหาร จึงไม่ต้องห่วงประชาชนจะทำผิดซ้ำ


นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพิจารณารายงานศึกษานิรโทษกรรม สภาชุดที่แล้วเคยตั้งกรรมาธิการศึกษาแนวทางปรองดองและนิรโทษกรรม ให้มีการนิรโทษกรรมทุกคดียกเว้นคดีทุจริต คดีฆ่าคนตาย และคดีมาตรา110 และ112 รายงานดังกล่าวก็ผ่านความเห็นชอบสภาฯ แต่ไม่เคยถูกแปรไปสู่การนิรโทษกรรมจริงๆ ส่วนรายงานการพิจารณาแนวทางออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของกรรมาธิการครั้งนี้มีความสับสนในตัวรายงาน ข้อสังเกตกรรมาธิการไม่มีข้อยุติจะนิรโทษกรรมหรือไม่นิรโทษกรรมคดีใดบ้าง ทุกอย่างไม่มีข้อสรุป


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ไม่เห็นชอบรายงานและข้อสังเกตกรรมาธิการเพราะเชื่อว่า ปลายทางจะนำไปสู่ความแตกแยกครั้งใหญ่ในประเทศ เหมือนตอนผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ถ้านำรายงานฉบับนี้ไปใช้เป็นสารตั้งต้นออกกฎหมายนิรโทษกรรมจะนำไปสู่ความแตกแยกในบ้านเมืองอีกครั้ง


นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในประธานกรรมาธิการอภิปรายสรุปว่า เรื่องนี้มิใช่การเสนอกฎหมายหรือพิจารณากฎหมาย และไม่ใช่พิจารณาว่านิรโทษกรรมมาตราอะไร ทุกคนคงเข้าใจตรงกัน และรายงานนี้เป็นเพียงการศึกษาแนวทางในการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งกมธ.ฯไม่ได้บอกว่าให้นิรโทษกรรมอะไรบ้าง แต่โดยนัยยะความหมาย คือนิรโทษกรรมทางการเมืองที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ข้อความตรงนี้ไม่มีใครคัดค้าน ไม่มีใครไม่เห็นด้วย ส่วนว่าทำไมไม่ฟันธงว่าจะมีนิรโทษกรรมมาตรา 112 หรือไม่ กรรมาธิการมีความเห็นไว้ 3 ทาง ซึ่งเราสรุปไว้ในข้อสรุปสุดท้ายว่าเรื่องนี้ยังเป็นประเด็นอ่อนไหว ยังมีประเด็นความขัดแย้ง กมธ.ฯ จึงยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งหากเราไม่รับรู้ รับทราบข้อเท็จจริงของทุกฝ่ายว่ามีความเห็นอย่างไรถ้าเราจะตรากฎหมายอะไร หากเราไม่ทราบข้อเท็จจริงและไม่รับทราบเหตุการณ์การกระทำที่เกิดขึ้น ผลก็คือเราจัดทำกฎหมายโดยไม่รอบคอบไม่ระวัง


จากนั้นที่ประชุมลงมติข้อสังเกตรายงานกรรมาธิการปรากฏว่า ที่ประชุมลงไม่เห็นชอบข้อสังเกตกรรมาธิการด้วยคะแนน 270 ต่อ 152 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ทำให้ข้อสังเกตตกไป โดยสภาผู้แทนราษฎรจะส่งเฉพาะตัวรายงานให้คณะรัฐมนตรีเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News