เลือกตั้งและการเมือง
“โรม” ยกระดับเตือน “อนุทิน” ปราบสแกมเมอร์ เสนอปลด “ธรรมนัส” พ้นรัฐมนตรี
18 ต.ค. 2568
146 views
“โรม” ยกระดับเตือน “อนุทิน” เรียกร้องปลด “ธรรมนัส” พ้นรองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ปม “เบน สมิธ” พร้อมสั่งการ ปปง.สอบเส้นเงินยกแก๊ง หากพบเป็นเงินที่มาจากกระทำผิด อายัดทันที ไล่บี้ใช้กลไกของศาล ICC เอาผิด “ผู้นำกัมพูชา” ด้วย
วันที่ 18 ต.ค.2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ว่า “เราต้องยอมรับจริงๆ ว่าตอนนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสแกมเมอร์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปประชุมหรือพูดคุยกับนักการเมืองที่ไหน ทุกคนล้วนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวของประเทศไทยกลับตามหลังประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยยะสำคัญ
ไม่นานมานี้ ท่านนายกตั้งคณะทำงานที่จะปราบปรามเรื่องแก๊งสแกมเมอร์ ความเคลื่อนไหวแบบนี้ฟังเหมือนจะดูดี แต่ผมเป็นห่วงจริงๆ ว่าจะเป็นแค่เพียงการซื้อเวลาเท่านั้น เพราะนอกจากการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว เรายังไม่เห็นความเคลื่อนไหวอย่างเอาจริงเอาจังของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่จะทลายศูนย์กลางของแก๊งสแกมเมอร์แต่ประการใด ไอ้ที่จับๆ ไปที่มีให้เห็นอยู่บ้าง ก็เทียบไม่ได้กับบรรดาแก๊งสแกมเมอร์ที่ใกล้ชิดกับสมเด็จฮุน เซน อันนั้นน่ะหลายแสนล้านบาท เผลอๆ นับล้านล้าน เป็นเครือข่ายใหญ่มาก ทุกวันนี้เราก็เห็นแค่เพียงการส่งสัญญาณฟอกขาวของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐต่ออาชญากรตัวเป้งที่กัดกินสังคมไทยมาเป็นเวลานานเท่านั้น น่าผิดหวังจริงๆ
ผมขอเสนอต่อท่านนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยเหตุที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีถ้าท่านต้องการเอาจริงเอาจังและไม่ได้มีส่วนได้เสียใดๆ กับแก๊งสแกมเมอร์ ท่านต้องสั่งการดังต่อไปนี้ได้แล้ว
1. ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสให้คณะทำงานของตัวเองเป็นทนายความให้กับนายเบน สมิธ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเฝ้าระวังจากสหรัฐอเมริกาที่ถูกเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุน เซน อาจทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าทำหน้าที่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบของกรรมาธิการ อีกทั้งยังใช้อำนาจในลักษณะของการข่มขู่การฟ้องปิดปาก ต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ทำให้ขาดความเหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นใดอย่างยิ่ง
2. สั่งการให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนาย เบน สมิธ และภรรยา, ร.อ.ธรรมนัส ตลอดจนเครือข่ายของนายยิม เลียก หากพบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดก็ต้องยึดอายัดทันที
3. สั่งการให้ ตร.เร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการปราบปรามและดำเนินคดีเครือข่ายทุนเทายึดประเทศพวกนี้ หากเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา ก็ต้องมีการใช้กลของศาล ICC เพื่อเอาผิดต้องผู้นำของ กัมพูชาด้วย
ผมในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นฯ หวังว่าท่านนายกจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนตัวผมก็จะทำหน้าที่ของตัวเองในการเชิญท่านธรรมนัส ท่านนฤมล และท่านวรภัค เพื่อมาชี้แจงต่อกรรมาธิการความมั่นคงในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย โปรดมาด้วยตนเองนะครับ อย่าส่งใครมาแทน
สุดท้ายนี้ในฐานะที่ผมได้ติดตามคณะรัฐสภาไทยในเวทีการประชุม IPU หรือสหภาพรัฐสภา ณ นครเจนีวา ผมก็จะหยิบยกเรื่อง Scam Center เพื่อเป็นหนึ่งในเรื่องเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่การยกระดับความร่วมมือในการจัดการแก๊งสแกมเมอร์ต่อประเทศต่างๆ ต่อไปด้วยครับ”
แท็กที่เกี่ยวข้อง รังสิมันต์ โรม ,นายกรัฐมนตรี ,อนุทิน ชาญวีรกูล ,เบน สมิธ ,สแกมเมอร์