“จักรภพ” เผย “ทักษิณ” รู้จัก “เบน สมิธ” ผ่านการแนะนำของ “ฮุน เซน” ยันไม่เคยร่วมธุรกิจ

“จักรภพ” เผย “ทักษิณ - เบน สมิธ” รู้จักกันผ่านการแนะนำของ “ฮุน เซน” ยืนยันไม่เคยร่วมธุรกิจ เพียงแค่ให้คำปรึกษา มองพรรคเพื่อไทยคะแนนความนิยมลดลงหลังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ย้ำตอนนี้ทักษิณยังไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะเคารพในพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์

วันที่ 18 ต.ค.2568 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม โดยระบุว่า วันนี้ให้กำลังใจพี่น้องเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม และอีกอย่างหนึ่งตัวเองได้นำสื่อมวลชนต่างประเทศมาจำนวนหนึ่ง เพื่ออ่านคำแถลงการณ์ เพราะมีหลายสำนักอยากจะรู้กรณีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับนายทักษิณ

เมื่อถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ปรากฏภาพข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้เคยมีการไปนั่งพูดคุยสนทนากับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ “เบน สมิธ” ทั้งคู่รู้จักกันได้อย่างไร นายจักรภพ ระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หรือ สมเด็จฮุน เซน ได้เป็นคนแนะนำนายเบน สมิธ ให้นายทักษิณ รู้จัก ในช่วงที่นายทักษิณ และสมเด็จฮุน เซน ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ เพราะตอนนั้น นายทักษิณ ตั้งใจที่จะส่งเสริมการทำงานด้านการลงทุนธุรกิจระหว่างประเทศไทย และประเทศกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน จึงแนะนำนายเบน สมิธ ให้เป็นคนประสานงานระหว่างสองประเทศ

โดยช่วงแรกมีการใช้งานกันในเรื่องของการประสานข้อมูลการลงทุนในกัมพูชาควรลงทุนด้านไหน หรือพื้นที่ไหนต้องการการพัฒนา แต่พอรู้ว่านายเบน สมิธ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ นายทักษิณก็ได้ห่างออกมา

ส่วนตัวนายจักรภพ ระบุว่าก็เคยเจอนายเบน สมิธ บางครั้ง ก็พบว่าเป็นคนที่ฉลาด แต่อะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านี้ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ได้รู้จักขนาดนั้น ยืนยันว่าทั้งนายทักษิณ และนายเบน สมิธไม่เคยร่วมลงทุนธุรกิจกันมีเพียงแค่ปรึกษากันเท่านั้น

เมื่อถามว่ากรณีของนายทักษิณ ที่มีข่าวเช่นนี้ออกมาจะทำให้คะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลงหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่าความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมาสิ่งที่พรรคเพื่อไทยโดนการโจมตีพรรค รวมถึงเอานายกที่มาจากการเลือกตั้งออกจากตำแหน่ง ประมาณ 2-3 คน มองว่าเป็นถ้าหากเป็นที่ต่างประเทศก็ถือว่าเป็นสงครามทางการเมืองขนาดใหญ่

แต่ในประเทศประเทศไทยประชาชนอยากอยู่อย่างสงบ อยากให้รัฐธรรมนูญแก้ปัญหาเหล่านี้ เชื่อว่าผลจากการถูกโจมตีมาตลอดอาจจะทำให้คะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลง แต่ถ้าเราสามารถอธิบาย และสามารถเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนให้เห็นถึงประโยชน์ต่อประเทศให้เข้าใจได้เชื่อว่าคะแนนความนิยมก็อาจจะกลับมาได้

ส่วนเรื่องที่มีการยื่นการทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายของนายทักษิณ นายจักรภพ ระบุว่าเรื่องนี้ได้ทราบผ่านทนายความของนายทักษิณ ว่าในตอนนี้นายทักษิณเองก็มีสิทธิ์ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เท่าที่ทราบนายทักษิณไม่ได้มีเจตนาที่จะขอพระราชทานอภัยโทษในตอนนี้ เพราะเคารพในพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์ เพราะท่านเป็นถึงอดีตผู้นำท่านจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมไม่ได้คิดเฉพาะเรื่องของตัวเอง

เมื่อถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าในอนาคตอาจจะเกิดปัญหากับนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย นายจักรภพ ระบุว่าคิดว่าปัญหาคงมีไปตลอด บ้านเรามีเพดานของการพัฒนาไม่ต้องการให้ประเทศไทยพัฒนาไปสูงกว่าขีดนั้น เรียกว่าเป็นเพดานแก้วที่มองไม่เห็น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคให้นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยที่ต้องการจะทำทุกอย่างให้ประเทศไทยปฏิรูปได้อย่างเต็มที่แต่ไม่เป็นไรได้แค่ไหนเราก็สู้ต่อไป

และยังมีความกังวลใจว่าจะใช้เกมสกปรกกันอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะในบ้านเราการสื่อสารข้อเท็จจริง บางครั้งก็ไม่ถึงหูของคน บางครั้งคนก็เชื่อข้อมูลที่เป็นข่าวเท็จ ซึ่งคนที่ไม่ชอบนายทักษิณก็จะตัดสินใจเชื่อข้อมูลเหล่านั้นโดยที่ไม่สนว่าจะจริงหรือเท็จ สิ่งเหล่านี้ทำให้ความวุ่นวายทางการเมืองไม่มีที่สิ้นสุด และไม่อยากให้สื่อกระแสหลักไปสนใจดราม่าที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียล