“ชุติพงศ์” ถามแรง “อนุทิน” เกรงใจใคร-กังวลอะไรอยู่? ทำนิ่งปมปราบสแกมเมอร์

“ชุติพงศ์” สส.พรรคประชาชน ถามแรง “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี เกรงใจใคร-กังวลอะไรอยู่? ทำนิ่งปมปราบสแกมเมอร์ ซัดเป็นเพราะไม่ได้พูดใช่ไหม จะได้ไม่ต้องทำ จี้เร่งดำเนินการ สร้างความเชื่อมั่นนานาชาติ แนะเสนอมาตรการเชิงรุกกับ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่จะยกหูคุยวันนี้ ในฐานะไทยมีชายแดนติดกัมพูชา เผยได้รับข้อมูล “เบน สมิธ” กลับมาอยู่ในประเทศแล้ว

นาย ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน กล่าวถึง กรณีรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการแก้ไขปัญหาและปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ ชายแดนไทยกัมพูชา ว่า ถึงขณะนี้นายอนุทินยังไม่ดำเนินการใด หลังจากที่นาย รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนได้อภิปรายถึงความสัมพันธ์ระหว่างร้อยเอก ธรรมนัสส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ นายเบน สมิธ

จะเห็นได้ว่าตั้งแต่นาย อนุทินเป็นนายกฯ มานั้นเลี่ยงที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้ และแม้ที่มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้ขึ้นมาเมื่อวานนั้น แต่ในทางปฏิบัติได้เคยสั่งการไปแล้วบ้างหรือไม่ รวมไปถึงได้มีการเรียกหน่วยงานที่มีข้อมูลในปัจจุบันเข้ามาให้ข้อมูลบ้างแล้วหรือยัง เช่น AOC ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่ามาตรการและกฎหมายที่มีอยู่นั้นเพียงพอหรือไม่ รวมถึง ป.ป.ง. ในการดำเนินการยึดทรัพย์

ซึ่งล่าสุดตนได้รับข้อมูลว่า นายเบน สมิธ ได้เดินทางกลับเข้ามาในไทยแล้ว รัฐบาลจะมีการดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ส่วนตัวขอถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่าได้มีการสั่งการไปกับคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่าได้ดำเนินการปราบปรามสแกมเมอร์ไปอย่างไรบ้าง เพราะวันนี้ไม่ได้เห็นความจริงจังและจริงใจในการแก้ไขปัญหา ทั้งในประเทศและนอกประเทศของรัฐบาล

“ผมขอถามตรงตรงคุณอนุทิน เกรงใจใคร กังวลอะไรอยู่หรือเปล่า นี่มันไกลมาก คนที่อาจเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ที่ดึงเงินออกจากกระเป๋าคนไทยไปเป็นแสนล้าน ใกล้ขนาดเข้ามาอยู่ในศูนย์กลางอำนาจรัฐอยู่แล้ว เราต้องรอซุปเปอร์บอร์ดประชุม อีกหนึ่งครั้งเพื่อวางนโยบาย หรือมอบหมายใครดำเนินการ ในขณะที่เกาหลีใต้ ประกาศแล้วจะมาช่วยคนของเขา ออกจากกัมพูชา ประเทศเราติดอยู่กัมพูชาแต่นิ่งเฉยแบบนี้ นานาชาติจะมองเราอย่างไร จะมองว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือจะเกี่ยวข้องกับที่ฮุนเซน ประกาศจะปราบเว็บพนันของนักการเมืองไทยที่อยู่ในกัมพูชา” นายชุติพงศ์ กล่าว

นายชุติพงศ์ ยังกล่าวถึงคำมั่นของ นายอนุทินที่ลั่นวาจาในสภา ว่าจะขอทำงานในช่วง4เดือน เพราะพรรคภูมิใจไทยพูดว่าเป็นพรรคที่ ”พูดแล้วทำ“ จึงตั้งคำถามว่าเป็นเพราะนายอนุทินไม่ได้พูดใช่หรือไม่ จะได้ไม่ต้องทำ ในเรื่องการปราบคอลเซ็นเตอร์และ สแกมเมอร์ แต่หากเข้ามาและทำไม่ได้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะได้พิจารณาว่าผู้ที่จะมาเป็นนายกใน4เดือน ประกาศว่าจะทำอะไร นอกเหนือจาก MOA แล้วทำไม่ได้ ในการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติ

“โอกาสทองฝังเพชร ครั้งนี้อยู่ที่นายอนุทิน จะโยนมันทิ้งแล้วปล่อยให้คนไทยลำบากต่อไป ทิ้งโอกาสที่ไทย จะเป็นพันธมิตรกับคนทั้งโลก ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่โลกกำลังจับตาตรงนี้ไปหรือไม่ นายอนุทิน หากต้องการข้อมูลจากกรรมาธิการมั่นคงฯ ก็ยินดีแต่ยังไม่มีการติดต่อมา ” นายชุติพงศ์ กล่าว

นายชุติพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายย้ำว่า นายอนุทิน ต้องทำได้มากกว่าการให้กำลังใจบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ ที่ไปปล่อยเสียงหลอน และหากวันนี้ได้มีการพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ตนก็เสนอว่า ขอให้ไทยได้เสนอมาตรการเชิงรุกบ้าง แสดงบทบาทในฐานะที่ประเทศมีชายแดนติดกับกัมพูชา ดำเนินการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาของประเทศอื่น ในการฝากคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์เดินหน้าได้ และไทยก็ต้องประสานเอาคนไทยที่อยู่ในกัมพูชากลับเข้ามา ซึ่งหากยังไม่มีมีการดำเนินการไทยก็จะได้รับความเสียหาย พรรคประชาชนก็จะเดินหน้าติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป