เลือกตั้งและการเมือง

“สายน้ำ” คาใจราชทัณฑ์แถลงไม่ตรงกัน กรณีช่วยชีวิต “บุ้ง ทะลุวัง” ขณะเกิดเหตุ หวั่นหลักฐานถูกทำลาย

โดย gamonthip_s

16 พ.ค. 2567

78 views

นายนภสินธุ์ ตรียาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักกิจกรรมทางการเมืองในฐานะเพื่อนของ น.ส.เนติพร กล่าวภายหลังกรมราชทัณฑ์ออกมาแถลงเกี่ยวกับการเสียชีวิตโดยบอกว่า คาใจหลายประเด็น และมองว่าก่อนที่ราชทัณฑ์จะแถลงควรเตรียมตัวและมีหลักฐานที่แน่ชัดมากกว่าการที่แถลงแล้วพูดไม่เหมือนกัน ไม่ยอมระบุรายละเอียดใด ๆ เลย มองว่ายิ่งทำให้เรื่องน่าสงสัยมากขึ้นไปอีก ขณะที่อีกคนบอกว่าปั๊มหัวใจตรงนั้นเลย ด้านอีกคนบอกว่าพาตัวลงไปปั๊ม แล้วพาลงไปอย่างไร มีการประคองหรือไม่ หรือทำถูกหลักการหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราสงสัยกันอยู่



เมื่อถามว่าตามหลักการช่วยชีวิตคน ควรปั๊มหัวใจให้ขึ้นก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายหรือไม่ นายนภสินธุ์ ระบุว่า ตนไม่ได้เรียนด้านการแพทย์มา แต่เท่าที่รู้ หากจับสัญญาณชีพไม่ขึ้นควรที่จะ PCR โดยทันที โดยอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมทุกอย่างที่ราชทัณฑ์บอก ซึ่งไม่ได้มีการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจในการช่วยชีวิต ซึ่งสิ่งเป็นมาตรฐานโรงพยาบาล และบางสถานที่ เช่น มหาวิทยาลัยฯ และที่สาธารณะอื่น ๆ ก็มีเครื่องนี้แล้ว ซึ่งราชทัณฑ์บอกว่าไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้ ตนเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ได้ใช้



นายนภสินธุ์ กล่าวว่า กล้องวงจรปิดจะเป็นตัวตัดสินทุกอย่างว่า ขั้นตอนในการกระทำถูกต้องหรือไม่, ใครเป็นคนกระทำ , ใครเป็นคนปั๊มหัวใจ และปั๊มถูกวิธีหรือไม่ ปั๊มนานเท่าไหร่ต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุจนไปถึงรพ.ธรรมศาสตร์ฯ หรือไม่ รวมทั้งสัญญาณชีพขณะนั้นเป็นอย่างไร ทั้งหมดนี้มองว่าต้องมีข้อมูลและรายละเอียดที่เป็นหลักฐานออกมา เราถึงตรวจสอบและยืนยันกันได้



เมื่อถามถึงกรณีที่ราชทัณฑ์ระบุว่า หลังจากที่ส่งตัว น.ส.เนติพร จาก รพ.ธรรมศาสตร์กลับไปรักษาตัวที่รพ.ราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 4 เมษายน น.ส.เนติพร ได้กินข้าวตลอด เช่น ข้าวต้ม ไข่เจียว ฯลฯ และอยู่อย่างสุขสบาย ประเด็นนี้ นายนภสินธุ์ กล่าวว่า “ถ้าสุขสบาย เพื่อนผมคงไม่ตาย หากบอกว่าสุขสบาย อยากถามว่าสุขสบายยังไง ถึงทำให้ตอนนี้ผมมาอยู่ที่วัดได้” ทั้งนี้ขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะกินหรือไม่กิน สุดท้ายเพื่อนก็ตายในอ้อมอกและการดูแลของราชทัณฑ์



นายนภสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้สงสัยทุกประเด็น และยังไม่ตัดประเด็นใดออก จนกว่าจะมีรายละเอียดออกมา แต่บอกได้ชัดเจนว่าผลการเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร ครั้งนี้ มาจากการคุมขังโดยไม่ชอบ จนทำให้เข้าไปอยู่ในเรือนจำและเสียชีวิต



นายนภสินธุ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์นี้ประชาชนคงได้เห็นกับตัวแล้วว่า การที่ราชทัณฑ์ดูแลอดีตนายกรัฐมนตรีอีกแบบ และดูแลเพื่อนของตนอีกแบบหนึ่ง คงเป็นตัวบ่งชัดที่ดีว่ามีการดูแลสองมาตรฐานหรือไม่



นายนภสินธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากฝากให้รัฐบาลบอกกรมราชทัณฑ์ว่าให้เก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ และให้ส่งมอบให้ทางครอบครัวหรือทนายความ เพื่อนำมาใช้ในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าสุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้น เพราะส่วนตัวกังวลว่าหลักฐานจะถูกทำลาย เนื่องจากว่าหลักฐานส่วนใหญ่เป็นกระดาษ เพราะในอดีตที่ผ่านมาสำหรับคดีใหญ่ ๆ ก็มีการถูกทำลายหลักฐานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งเอกสารหรือกล้องวงจรปิด



เมื่อถามถึงประเด็นที่ราชทัณฑ์ส่งตัว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องขังคดีป่วนขบวนเสด็จ มารักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ เพราะว่ากลัวเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา มีการพยายามขอมารักษา แต่บางครั้งก็อนุญาตให้มาก่อนจะให้ส่งตัวกลับ นายนภสินธุ์ กล่าวว่า มองว่าราชทัณฑ์เคยมาเสมอว่า รพ.ราชทัณฑ์ เพียบพร้อมในการดูแลแต่ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พร้อมนั้นแล้ว



ขณะเดียวกันวันนี้มีนักกิจกรรมหลายคน เช่น รุ้ง ปนัสยา และ มายด์ ภัสราวลี เข้ายื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชี้แจงอย่างโปร่งใสนั้น ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับใครเลยเพราะยุ่งกับการจัดงานศพ คิดว่าหลังจากนี้อาจจะมีการพูดคุยกัน

คุณอาจสนใจ

Related News