สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 11 มี.ค.67 อุ๊งอิ๊งร่วมคณะเศรษฐาที่ฝรั่งเศส-เก๋งเมาขับพุ่งกวาดนักปั่น-ปาบึ้มร้านกาแฟกลางวันแสกๆ

โดย thichaphat_d

11 มี.ค. 2567

65 views

1. คนร้าย ปาบึ้มร้านกาแฟดังกลางวันแสกๆ ทำนายกเล็กเจ็บ

เปิดคลิปนาที คนร้าย ปาระเบิด 2 ลูก เข้าร้านกาแฟดังในปั๊มน้ำมัน ขณะที่ นายก อบต.-ตำรวจ 2 นาย นั่งดื่มกาแฟอยู่ ต้องกระโดดหมอบหนีตายระทึก ก่อนระเบิดดังสนั่น ทำนายก อบต.น้ำดำ เจ็บ ตำรวจอีก 2 นาย รอดหวุดหวิด คาดลอบสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน ขณะที่ผู้การปัตตานี ส่งชุดสืบล่ามือปาระเบิดพร้อมคุมเข้มทุก ด้านแม่ทัพน้อยที่ 4 เร่งประสานหน่วยงานรักษาความปลอดภัย ก่อนเผยต้องคำนึงบรรยายกาศที่ดีในช่วงสุดท้ายของเดือนรอมฎอน

2. วินาทีชีวิต เก๋งเมาขับพุ่งกวาดนักปั่นดับ 2 ราย

สลดก๊วนจักรยานเสือภูเขา ปั่นออกกำลังกายริมถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ถูกหนุ่มเมากลับจากสถานบันเทิง ’ซิ่งเก่ง’ พุ่งชนกลางขบวน ร่างลอยฟาดเสาไฟ ร่วงกระแทก ทำนักปั่นเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 3 เจ้าหน้าที่พบขวดเหล้า ซุกพุ่มไม้ใกล้จุดเกิดเหตุ ด้านตำรวจ ส่งตัวผู้ก่อเหตุให้โรงพยาบาลสุรินทร์ ตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์แล้วคาดผลออกเช้าวันนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้มีผู้เสียชีวิต ส่วนข้อหาเมาแล้วขับยังต้องรอผล

3. เด็ก ป.6 ถูกรุมทำร้าย จิตใจย่ำแย่ ด้านผู้ปกครองลั่นเอาผิดถึงที่สุด

พ่อไม่ทนหลังเจอคลิปลูก ถูกรุมตบคาห้องเรียน กระชากหัว ก่อนถูกจับหัวโขกที่โต๊ะซ้ำอีก เพียงเพราะเพื่อนจะเอาโทรศัพท์ไปแอบถ่ายในห้องน้ำ แต่ถูกเอาปัด จึงโกรธเลยตามมาหาเรื่องถึงในห้อง ก่อนจี้โรงเรียนในดังนครศรีธรรมราชรับผิดชอบ ไม่ใช่นัดคุยกับแบบลับๆ ก่อนเผยลูกมีสภาพจิตใจย่ำแย่ มีอาการปวดศีรษะ บวมช้ำตามใบหน้า ลั่นเอาผิดถึงที่สุด ชี้คนผิดต้องได้รีบโทษ ขณะที่ผู้ว่าโพสต์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

4. สาวเผยนาที ถูกหนุ่มขวางรถกระชากประตูขอขึ้นรถ บนทางด่วน

ผวา! ขับรถกลับคอนโดฯ เจอชายแปลกหน้ายืนขวางหน้ารถบนทางด่วน พยายามเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกเพราะประตูล็อก ใช้มือตีกระจกตะโกน “ไปลงด้วยได้มั้ย! ผมขอลงหน่อย! ผมขอไปลงข้างหน้าหน่อยเด้!” เอาหมวกกันน็อกฟาดกระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง เจ้าของรถหวาดกลัวรีบขับหนี เผย สติคือสิ่งสำคัญ ล่าสุดได้แจ้งความแล้ว วอนมามอบตัว เผยควรพูดจาดีๆ ขอร้องดีๆ เพื่อให้สอบถามที่มาที่ไปก่อน แบบนี้คือการคุกคาม

5. เศรษฐินีหัวหินถูกยิงดับ พร้อมเลขาฯ ตายคาบ้าน - จดหมายสารภาพผิด

ผงะ เศรษฐินีร้านผ้าม่านดังเมืองหัวหิน พร้อมเลขาฯ สาวถูกยิงดับปริศนา คาห้องพัก 2 ศพ หลังลูกชายไม่สามารถติดต่อแม่ได้หลายวัน จึงตามมาดูที่ร้าน เรียกไม่มีเสียงตอบ จึงปีนทางหน้าต่าง เห็นร่างคนนอนและมีกลิ่นเน่าโชย จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ เบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-7 วัน ก่อนพบ จดหมายสารภาพผิดของเลขา ระบุ “เอาปืนมาเล่นโชว์ แล้วปืนเกิดลั่น ทำอะไรไม่ถูก” นอกจากนี้ยังไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน พร้อมไล่กล้องวงจรปิดทั้งหมดเพื่อสรุปสาเหตุ

6.พ่อร้อง รร.จัดกีฬาสี จับเด็ก 4-5 ขวบแก้ผ้า แข่งใส่เสื้อผ้า

พ่อโวย โรงเรียนจับเด็ก 4-5 ขวบขึ้นเวทีแข่งใส่เสื้อผ้า เด็กชายแก้ผ้าล่อนจ้อนบนเวที เด็กหญิงเหลือแค่กางเกงใน คุณพ่อโวย กลับถูกเพื่อนผู้ปกครองรุมตำหนิ แถมแห่saveครูคนจัดงาน ชี้อย่าเอาแต่สนุกเด็กไม่ใช่ของเล่น กิจกรรมอื่นมีอีกเยอะ นายกฯ อบต.นอกเมือง กราบขอโทษผู้ปกครองแล้ว หลังจัดแข่งกีฬาให้เด็กแก้ผ้าล่อนจ้อนแข่งแต่งกาย ยันไม่มีเจตนาละเมิดสิทธิ์ ต่อไปจะหลีกเลี่ยงเกมที่ทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี

7. อุบลราชธานี อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ อย่างยิ่งใหญ่

กองทัพอากาศอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากเชียงใหม่ ถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 ขณะที่จังหวัดอุบลราชธานี จัดริ้วขบวนธรรมยาตรา มหานทีคงคาสู่ลุ่มแม่น้ำโขง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ อย่างยิ่งใหญ่ ไปประดิษฐานที่พระวิหาร วัดมหาวนารามพระอารามหลวง พร้อมเปิด ประชาชนเข้าสักการะ 10-13 มี.ค.67



เรื่องเล่าการเมือง

-เศรษฐา แจงอุ๊งอิ๊ง ร่วมคณะที่ฝรั่งเศส ดูงานซอฟต์เพาเวอร์


เริ่มที่ความเคลื่อนไหวนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ยังมีภารกิจอยู่ที่ยุโรป เมื่อวานก็ยังปรากฏภาพคุณอุ๊งอุ๊ง ไปร่วมภารกิจกับนายกฯ เศรษฐา ที่ฝรั่งเศส ซึ่งนายกฯชี้แจงว่า คุณอุ๊งอิ๊ง ไปดูงานด้านซอฟต์เพาเวอร์ เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าไทย

โดยเมื่อวาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการซอฟเพาเวอร์ ได้ร่วมพูดคุยกับ นายชองมาร์ค ประธานห้างสรรพสินค้าแพงตอง (Printemps) ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีก สินค้าประเภทแฟชั่น

โดยทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเพื่อความร่วมมือ เกี่ยวกับการจัดแสดงสินค้า (display) การนำสินค้าไทยมาจัดแสดง ซึ่งระหว่างการลงพื้นที่ห้างฯนายกฯได้ใช้ผ้าขาวม้าจากจังหวัดอุดรธานีด้วย ขณะที่นางสาวแพทองธารถือกระเป๋าสานจากกระจูด เป็นของดีขึ้นชื่อประจำถิ่นจากจังหวัดนราธิวาส

ต่อมา นายกฯ กล่าวถึงการร่วมคณะ ของ นางสาวแพทองธาร ว่า ให้มาดูเรื่องของซอฟต์เพาเวอร์ ซึ่งได้ไอเดียมาหลายไอเดียและจากนี้นางสาวแพทองธารคงจะไปทำการบ้านต่อ

ส่วนที่สื่อให้ฉายานายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำแฟชั่นร้านผ้าเขาม้า นายเศรษฐา ระบุว่า ตนอายุมากแล้ว ไม่ใช่แฟชั่น แต่มันคือหน้าที่ เพราะการลงพื้นที่หลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ไปเยือนทีนึง มีการผูกผ้าขาวม้าให้ 20-30 ผืน ส่วนตัวเห็นแล้วว่าสวยดีและสามารถนำมาแมตช์กับชุดได้ ซึ่งหากติดตลาดแล้วผ้าขาวม้าของไทยก็จะมีราคาเพิ่มขึ้นจาก 50-60 บาท เป็นอาจผืนละ 1000 -2000 บาท ก็ได้

จากนั้น นายกฯเศรษฐา ยังได้โพสต์คลิปและภาพผ่าน Tiktokพร้อมข้อความ ระบุว่า “มาฝรั่งเศสเมืองแห่งแฟชั่น ผมตั้งใจเอาผลิตภัณฑ์กระจูดของดีขึ้นจังหวัดนราธิวาส และผ้าขาวม้า จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสินค้าท้องถิ่นที่มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์มาด้วย"



-เพื่อไทย แจงนายกฯ วางแผนล่วงหน้าแก้ฝุ่นเชียงใหม่ ปัดนัดพบทักษิณ

กรณีการจับตาเรื่องการลงพื้นที่เชียงใหม่ของนายกฯ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นายทักษิณจะไปเชียงใหม่ และนายกฯ ก็บอกเองว่าอาจจะได้เจอคุณทักษิณ เมื่อวานนี้ทางโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาชี้แจงว่าท่านนายกฯ ได้วางแผนล่วงหน้าในการแก้ปัญหาฝุ่น ไม่ใช่การนัดพบกับนายทักษิณ

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ชี้แจงภารกิจของท่านนายกฯ ในการลงพื้นที่แก้ปัญหาฝุ่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค.นี้ ว่า ท่านนายกฯ ได้ประชุมมอบนโยบายกับส่วนราชการ

และในวันที่ 20 มกราคม 2567 ได้ทิ้งท้ายว่าจะมาติดตามสถานการณ์อีกครั้ง จึงเป็นการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อติดตามงานแก้ปัญหาฝุ่น

“ไม่ใช่การนัดหมายพบกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่หลายฝ่ายคาดเดาและให้ข้อมูลในแง่ลบ จนทำให้ความมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ประชาชนของนายกฯ ถูกเข้าใจคลาดเคลื่อนไป”

ซึ่งโดยส่วนตัว ยังไม่ทราบว่า ดร.ทักษิณ จะไป จ.เชียงใหม่ จริงหรือไม่ และยังไม่ได้พูดคุยกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า “แม้ท่านนายกฯ ไม่ได้นัดหมายพบนายทักษิณ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสพบกัน เพราะนายกฯ ก็เคยเข้าพบเพื่อขอคำปรึกษาหารือกับนายทักษิณมาแล้ว ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หากจะพูดคุยปัญหาในเชิงพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ ก็ย่อมเป็นประโยชน์มากกว่า”

ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ก็บอกว่าสำหรับ สส.พรรคเพื่อไทย ยังไม่มีการพูดคุยกัน ว่าใครจะเดินทางไปพบนายทักษิณ ในช่วงเวลาดังกล่าวบ้าง แต่ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ ไม่มีข้อห้าม เพียงแต่ขออย่าไปในช่วงการประชุมสภา พร้อมขอให้หยุดเชื่อมโยงจับผิด กับการที่ สส. หรือนายกฯ จะไปพบนายทักษิณ โดยบอกว่า “ให้ก้าวข้าม - หยุดลากเป็นประเด็นการเมือง และเอาเวลาไปทำงานดีกว่า”



-วิโรจน์ โยนถามราชทัณฑ์ ทักษิณเดินตลาด เหมาะสมหรือไม่

ส่วนทางพรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ บอก ก้าวไกลไม่เคยสนใจเรื่องทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ไม่สนใจตัวบุคคล แต่มองที่โครงสร้าง ย้ำ สิ่งที่นายทักษิณได้รับ คนอื่นก็ควรจะได้ด้วย ส่วนนายทักษิณไปเชียงใหม่ ถ้าไปเดินตลาดเหมาะสมหรือไม่ ต้องถามราชทัณฑ์

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ เตรียมเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ พวกเราไม่เคยสนใจประเด็นของนายทักษิณเลย แต่สนใจเนื้อหาสาระ และสิ่งที่นายทักษิณได้รับ ว่าเป็นสิทธิพิเศษหรือไม่ หรือคนอื่นที่มีเงื่อนไขคล้ายนายทักษิณพึงจะได้รับด้วย ถ้าเป็นเรื่องสิทธิมาตรฐาน เราเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร

ส่วนจะเป็นโมเดลให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาด้วยหรือไม่ คงต้องติดตามดู แต่ตนคิดว่าสังคมไทย บาดเจ็บจากการเอบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาเป็นเงื่อนไขในการขัดแย้งมากพอแล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล ทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์และนายทักษิณ ไม่ได้อยู่ในสารบบคิดของพรรคก้าวไกล แต่เราให้ความสนใจ ใส่ใจ ที่ตัวโครงสร้าง

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ในการเดินทางไปเชียงใหม่นายทักษิณอาจไปตลาดพบประชาชนด้วย จะเหมาะสมหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต้องย้อนถามกรมราชทัณฑ์ว่าทำได้หรือไม่



-นายกฯ แจงงบ 138 ล้าน ไม่ใช่แค่ปรับสนามหญ้าตึกไทย


ส่วนเรื่องการปรับปรุงสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ที่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อวานทั้งนายกฯ และทีมงานถึงกับต้องออกมาชี้แจง ยืนยันงบ 138 ล้าน ไม่ใช่แค่ปรับปรุงสนามหญ้าหน้าตึกไทย

นายกฯ ชี้แจงเรื่องนี้มาจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส บอกนายกฯเป็นคนทักผู้สื่อข่าวเองว่าไม่ถามเรื่องนี้หรือ ก่อนจะบอกว่า ถ้านำรูปสนามหญ้ามาแล้วบอกว่า 130 กว่าล้าน ก็บิดเบือนนิดหน่อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงสนามหญ้า แต่มีอีกหลายเรื่อง ทั้งมีระบบไอที ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบคอมพิวเตอร์ และอีกหลายระบบ เชื่อมั่นว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และกฎระเบียบข้อบังคับที่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายบริหารได้ชี้แจงไปแล้ว

ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบทุกอย่างและคำนึงถึงการใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนายกฯแล้ว เมื่อวาน ทั้งโฆษกรัฐบาล และ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ด้วย โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล โพสต์ชี้แจงผ่านแอปพลิเคชั่น X ระบุว่า “งบในการจัดสวนดูแลต้นไม้นั้น มีเพียงราว 20 ล้านบาทเท่านั้น งบส่วนใหญ่ใน 138 ล้านบาทนั้นถูกจัดให้เป็นค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยและระบบตรวจจับควันไฟและแจ้งเตือนหากเกิดไฟไหม้ขึ้น"

ขณะที่ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ชี้แจงในส่วนงบประมาณลงทุนเรื่องระบบไอที ว่า ระบบความปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security)สำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นไปตามแผนงานดิจิทัลที่ได้จัดทำโครงการมาตั้งแต่ปี 2565 และมาผ่านในงบประมาณปี 2567 เพื่อเป็นระบบป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์ที่เป็นเรื่องสำคัญในด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูลรัฐบาล ยืนยันว่า การดำเนินการของบประมาณเป็นไปตามระเบียบ เหตุผลความจำเป็น และผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xD4-DSVzkAs

คุณอาจสนใจ

Related News