คปท.นัดชุมนุม 2 ก.พ. ลั่นปักหลักยาว จนกว่าข้าราชการช่วย 'ทักษิณ' จะติดคุก

วานนี้ (14 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ทำเนียบรัฐบาล ที่จัดกิจกรรมการชุมนุมทวงคืนความยุติธรรม กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกิน 120 วัน โดยเป็นการชุมนุมแบบปักหลักพักค้างคืนเป็นวันสุดท้าย ตามที่ทางกลุ่มได้แจ้งขออนุญาตจัดการชุมนุมไว้

นาย พิชิต ไชยมงคล แถลงการณ์สรุปการชุมนุมว่า การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ความเท่าเทียม ซึ่งกรณีของนายทักษิณ ได้เห็นชัดเจนแล้วว่า กรมราชทัณฑ์ได้ขยายเวลารักษาตัวในโรงพยาบาลไปแบบไม่มีกำหนด ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องพิทักษ์ไว้ คือ การทำให้ข้าราชการที่ร่วมกันทุจริต ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ-ส่วนที่ทางกลุ่ม แจ้งขออนุญาตจัดการชุมนุมไว้ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-14 ม.ค. 67 ก็จะรักษาสัญญา ซึ่งกิจกรรมเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) จะเปิดเวทีปราศรัยไปจนกว่าจะส่งผู้ที่มาร่วมชุมนุมให้เดินทางกลับบ้านจนถึงคนสุดท้าย

และหลังจากนี้จะขอผู้ให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุม กลับไปเตรียมความพร้อม และออกมาร่วมกันอีกครั้ง ในวันที่ 2 ก.พ. 67 เวลา 15.00 น. ที่สะพานชมัยมรุเชฐ โดยจะเป็นการชุมนุมยาวต่อเนื่องอย่างไม่มีกำหนด

และตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคมนี้ คาราวาน คปท. จะเดินทางไปยังต่างจังหวัดทั่วประเทศ เริ่มจากภาคตะวันออก เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ให้พี่น้องที่ต่างจังหวัดมาร่วมชุมนุมในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ และจะทำการล่ารายชื่อขั้นต่ำ 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อนำไปยื่นคัดค้านการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณต่อรัฐสภา

ด้าน นายนัสเซอร์ ยีหมะ ระบุด้วยว่า การทำกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อรักษากระบวนการยุติธรรม และที่นัดหมายวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ปริมาณของประชาชนที่จะมา จะเป็นตัวชี้วัดว่า ประชาชนต้องการปกป้องกระบวนการยุติธรรมแค่ไหน

ทั้งนี้ บรรยากาศการชุมนุมตลอดช่วงบ่าย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการเปิดเวทีปราศรัย เพื่อพูดถึงวัตถุประสงค์ของการออกมาชุมนุม และประกาศเจตนารมย์ พร้อมกับมีการนัดหมายกำหนดการในวันอังคารที่ 16 มกราคมนี้ จะเดินทางไปที่ สำนักงาน ป.ป.ช เพื่อทวงถามความคืบหน้า หลังจากยื่นคำร้องให้ตรวจสอบสอบข้าราชการ ตั้งแต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ / นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ / ปลัดกระทรวงยุติธรรม / และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบหรือไม่ กรณีให้นายทักษิณนอนโรงพยาบาลตำรวจ ก่อนที่จะยุติการชุมนุมในช่วงค่ำ

--------------
วานนี้ (14 ม.ค. 66) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กทนายวันชัย สอนศิริ ระบุว่า "เป็นมนุษย์เดินดินดีกว่าที่จะเป็นเทวดาชั้น 14

เมื่อช่วงปีใหม่ ผมเป็นโควิดต้องกักตัวอยู่ในห้องที่บ้านเกือบ 10 วัน อึดอัดจะบ้าตาย นี่ขนาดเป็นบ้านตัวเอง พอจะเดินบนดาดฟ้า ออกกำลังได้บ้างก็ยังรู้สึกว่าเมื่อไหร่มันจะหายสักทีจะได้ไปไหนมาไหนได้ แล้วคุณทักษิณป่วยอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจปาเข้าไปเกือบ 5 เดือน จะกว้างหรือแคบแค่ไหนไม่รู้ เป็นผมก็คงจะบ้าตายไปแล้ว... จะไปไหนมาไหน จะกินจะเที่ยว จะไปไหว้พระวัดไก่เตี้ยก็ไปไม่ได้ นั่งๆนอนๆกินๆเดินๆอยู่อย่างนั้น ไม่ติดคุกก็เหมือนติดคุก จะป่วยหรือไม่ป่วยก็เหมือนป่วยอยู่ดี เป็นแบบนี้ผมขอเป็นมนุษย์เดินดินดีกว่าเป็นเทวดาชั้น14 นะ... ที่พูดๆ กันนั่นก็ลองกักตัวเองสักเดือนดูสิ คงอึดอัดแทบบ้ากันทั้งนั้น...

ถ้าเราทำใจนิ่งๆ ลด ละ เลิก ความโกรธความเกลียดลงไปได้ อาการคลุ้มคลั่งที่จะไปลุยโน่นลุยนี่คงลดน้อยถอยลง จิตใจคงจะปรองดองสมานฉันท์ขึ้น ถ้ามีความรักต่อกันก็จะเข้าใจกัน นึกถึงประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศสำคัญกว่า เราจมอยู่กับความโกรธความเกลียด ความขัดแย้งความอาฆาตมาเป็นสิบๆปี ฝังหุ่นจนประเทศเดินไปไม่ได้ มาถึงขนาดนี้แล้ววางใจให้เป็นกลาง เอาประเทศเป็นที่ตั้งจะไม่ดีกว่าหรือ...

ลองคิดดู...ตอนเผด็จการครองเมืองมีเทวดาอยู่ตั้งหลายชั้น ทำอะไรใหญ่โตอยู่ตั้งเยอะแยะ ยิ่งกว่านี้เสียอีก ไม่เห็นมีใครพูดว่าทำลายกระบวนการยุติธรรม... ตรวจสอบก็ไม่ได้ ไม่เห็นมีใครว่าอะไรนี่ เงียบฉี่กันไปหมดกลัวหรือว่ารักเผด็จการเลยพูดไม่ออก แต่พอตอนเป็นประชาธิปไตย เรื่องแค่เนี้ยจะเอาเป็นเอาตาย สารพัดกล่าวหาถาโถมกันเข้ามา ตกลงว่าเกลียดทักษิณหรือตั้งตนเป็นเจ้าหลักการแห่งความถูกต้องกันแน่...

วันนี้คนเขาเบื่อการทะเลาะเบาะแว้งแตกแยกแตกสามัคคี เลิกได้ควรเลิก จบได้ควรจบ ให้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ดีกว่าหรือ... จะสร้างความขัดแย้งกันขึ้นมาทำไม..."
----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/d4ylHGjk8nc