เลือกตั้งและการเมือง
‘ส.ว.วุฒิพันธุ์’ แสดงจุดยืน ออกจดหมายเปิดผนึก หนุนเลือกนายกฯ เสียงข้างมาก
โดย petchpawee_k
8 ก.ค. 2566
292 views
วานนี้ (7 ก.ค.) นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 โดยระบุ กลไกกระบวนการตามอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบของรัฐสภา ตามครรลองที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖ ได้ดำเนินการไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและเรียบร้อย นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไปครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
ในโอกาสอันเป็นมหามงคลดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อที่ประชุม และขอใช้โอกาสนี้อัญเชิญบางส่วนของกระแสพระราชดำรัสมาเน้นย้ำให้ได้รับทราบทั่วกันอีกครั้ง...
“..ประเทศชาติ จะมีความเจริญเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับสติปัญญา ความสามารถ และความสุจริตบริสุทธิ์ของท่านที่ จะปฏิบัติหน้าที่ทั้งปวง โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด หากทุกท่านจะได้สำนึกตระหนักเช่นนี้อยู่เสมอ ก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วง เป็นประโยชน์ เป็นความเจริญมั่นคงของอาณาประชาราษฎร์ และชาติ บ้านเมืองอย่างแท้จริง..”
ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่งที่ ร่วมอยู่ในรัฐพิธีอันเป็นมหามงคล ขอตั้งปณิธาน น้อมนำกระแสพระราชดำรัสข้างต้น มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความเจริญมั่นคงของชาติบ้านเมืองด้วยความแน่วแน่ กรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะมีขึ้น และเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหา กันอย่างรุนแรง และกว้างขวางเกี่ยวกับความเหมาะสมของบุคคลบางคน อาจเป็นปรากฎการณ์ปกติ ของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
อย่างไรก็ตามการแสดงความคิดเห็น ในลักษณะรณรงค์ต่อต้าน ขัดขวาง การขึ้นสู่ตำแหน่ง ของบุคคลบางคน ด้วยการสร้างมายาคติ บนความอคติ โดยก้าวล่วงสิทธิเสรีภาพบุคคลอื่น ไม่น่าจะ เป็นการกระทำที่เหมาะควรอย่างยิ่ง
ความเป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติแห่งรัฐสภา ซึ่งเป็นหนึ่งใน ๓ เสาหลักของอำนาจอธิปไตย อันประกอบด้วยนิติบัญญัติ-ตุลาการ-บริหาร พึงต้องตระหนักในเกียรติภูมิแห่งความเป็นสมาชิกรัฐสภา และพึงต้องระมัดระวังไม่กระทำการใดๆ ที่อาจเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๑๓ ว่าด้วย "สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่ หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ๆ"
หรือ มาตรา ๑๑๔ ว่าด้วย "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน โดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์"
เพื่อยืนยันถึงการน้อมนำ และยึดมั่นตามแนวทางในกระแสพระราชดำรัส จึงขอเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ตามบทเฉพาะกาล ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ยืนยันให้การสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีพรรคการเมืองที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เพื่อจรรโลงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อย ความสมานฉันท์ในบ้านเมือง และธำรงไว้ ซึ่งหลักการตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตลอดจน เพื่อความสอดคล้องกับฉันทามติของมหาชน ที่ไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง