ลุงแจ้ ยังงง"น้องต่อ"เป็นลูก ยืนยันไม่เกี่ยวเรื่องเด็กหายตัว ย้ำสังคมโฟกัสการตามหาเด็กก่อน

จากกรณีการหายตัวไปของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน 13 วัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบ แต่มีการตรวจ ดีเอ็นเอ บุคคลต้องสงสัย พบว่า น้องต่อ ดีเอ็นเอไม่ตรงกับนายพุด หรือพ่อเด็ก แต่ตรงกับชายคนสนิทของนางสาวนิ่ม


วันนี้ (18 ก.พ.) ทีมข่าว ได้ติดต่อ ลุงแจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อนางสาวนิ่ม และเคยมีประวัติสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนิ่ม แม่น้องต่อ


ลุงแจ้บอกว่า ตกใจกับการที่ถูกระบุว่า เป็นพ่อเด็ก แต่ยอมรับมีสัมพันธ์กับนิ่มแบบหลั่งข้างนอก แต่คงพลาด ซึ่งเรื่องนี้ พุดน่าจะรู้มาตลอด เพราะพุดก็เคยสงสัยและนิ่มก็บอก เรื่องความสัมพันธ์ตนเองกับนิ่ม ตอนนี้อยากเจอตัวเด็ก หากตนเป็นพ่อจริงก็ค่อยมาคุยกัน แต่ขอเจอตัวเด็กก่อน


ตอนนี้ไม่รู้ว่าน้องต่อหายไปไหน ซึ่งนิ่มก็ไม่เคยปริปากพูด ส่วนการหายตัวไปไม่เกี่ยวกับตนแน่นอน เพราะวันหายตัวไป ตนอยู่วัด มีกล้องวงจรปิด เห็นภาพและเวลาที่ระบุชัดเจน จึงอยากขอให้นิ่มและพุดออกมาบอกได้แล้วเด็กอยู่ไหน เพราะทุกคนตามหาเด็ก และเชื่อว่าเขา 2 คนรู้ดีที่สุด


ส่วนกรณีการเข้าเครื่องจับเท็จ ตำรวจไม่ได้นำไปเข้าเครื่องจับเท็จ เพราะตนพูดความจริงหมดแล้ว และตำรวจก็มาตรวจค้นบ้าน ทุกซอกมุม รวมทั้งบ้านญาติที่ต่างจังหวัดด้วย ก็ไม่เจออะไร


ส่วนเรื่องที่บอกว่าตนจะขโมยเด็กไป เพราะเป็นลูกแล้วเอามาเลี้ยงเอง ก็ตัดทิ้งไป แค่ทุกวันนี้ ตนยังไม่มีจะกิน ต้องอาศัยวัด ลูกที่มีก็ลำบากหาเช้ากินค่ำ แล้วจะเอาน้องต่อมาเลี้ยงทำไม เพียงแต่เคยช่วยเหลือนิ่ม เพราะสนิทกับพ่อ และก็มีสัมพันธ์กันจริง


“แต่ขอร้องสังคมและตำรวจอย่ามาตามประเด็นตนเป็นพ่อน้องต่อ ขอให้ไปตามหาตัวน้องต่อก่อนไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง”


ส่วนประวัติของนิ่ม พบว่าเคยทำงานที่ร้านอาหาร และพุดก็รับรู้ มาก่อน ทุก ๆ อย่างที่นิ่มทำ นายพุดรู้มาตลอดแม้กระทั่งเรื่องความสัมพันธ์ต่าง ๆ