เกาหลีใต้ออกกฎหมายห้ามเด็กใช้มือถือในเวลาเรียน เริ่มบังคับใช้ มี.ค. 2569

เกาหลีใต้ออกกฎหมายใหม่ห้ามเด็กนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ในช่วงเวลาเรียน เพื่อควบคุมการใช้โทรศัพท์ในเด็กวัยรุ่น เริ่มบังคับใช้ มี.ค. 2569

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (27 ส.ค. 2568) สภาแห่งชาติของเกาหลีใต้ได้ลงมติรับรองร่างกฎหมายห้ามเด็กนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (smart device) ในช่วงเวลาเรียน ด้วยคะแนนเสียง 115 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 163 คน

กฎหมายดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2569 และเป็นผลมาจากความพยายามของพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาการติดสมาร์ทโฟนในเด็ก หลังมีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ถึงผลกระทบที่เป็นอันตราย ซึ่งบรรดานักการเมือง ผู้ปกครอง และคุณครูต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันสมาร์ทโฟนทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนของเด็กนักเรียนลดลง และยังแย่งเวลาในการเรียนของพวกเขาไปด้วย

นายโช จอง-ฮุน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคพลังประชาชน ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านและเสนอญัตตินี้ กล่าวว่าเขาได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินการเรื่องนี้ หลังจากที่หลายประเทศได้ดำเนินการในแนวทางเดียวกัน เขากล่าวว่า มันมีหลักฐานทางวิทยาศาตร์และการแพทย์บ่งชี้ว่า การติดสมาร์ทโฟนมีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อการพัฒนาสมองและการเติบโตทางอารมณ์ของเด็กนักเรียน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากรัฐบาลเกาหลีใต้ เมื่อปี 2567 ระบุว่า เกือบหนึ่งในสี่ของประชาชนเกาหลีใต้ติดโทรศัพท์อย่างหนัก แต่ตัวเลขนี้พุ่งสูงถึง 43% ในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10-19 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยกว่าหนึ่งในสามของวัยรุ่นยอมรับว่าพวกเขาไม่สามารถคุมเวลาการไถฟีดโซเชียลมีเดียได้

ปัจจุบัน โรงเรียนหลายแห่งในเกาหลีใต้มีกฎข้อห้ามใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว และเกาหลีใต้ไม่ใช่ประเทศแรกที่ทำเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านั้นหลายๆ ประเทศก็ห้ามเด็กใช้โทรศัพท์ในโรงเรียนเหมือนกัน เช่น ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์ และจีน

นอกจากการห้ามใช้ในเวลาเรียนแล้ว กฎหมายฉบับนี้ยังให้อำนาจครูตัดสินใจว่าจะห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลาอื่นภายในโรงเรียนหรือไม่ และยังบังคับให้โรงเรียนสอนเด็กนักเรียนให้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเหมาะสมด้วย

ส่วนข้อยกเว้น กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้นักเรียนที่มีความบกพร่อง หรือจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการเรียน สามารถใช้งานได้ รวมถึงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาหรือในกรณีฉุกเฉิน

สมาคมครูแห่งเกาหลีสนับสนุนกฎหมายนี้อย่างแข็งขัน โดยชี้ว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้การจำกัดการใช้โทรศัพท์ในห้องเรียนเข้มงวดมากขึ้น หลังการสำรวจภายในพบว่า เกือบ 70% ของคุณครูพบว่า การใช้สมาร์ทโฟนทำให้นักเรียนเสียสมาธิ และมีพฤติกรรมก้าวร้าว

อย่างไรก็ดี สหภาพแรงงานครูและการศึกษาเกาหลี (Korean Teachers and Educational Workers’ Union) แสดงความกังวลว่ากฎหมายนี้อาจละเมิดสิทธิของนักเรียนในการเข้าถึงสมาร์ทโฟน

โช ยองซัน ครูมัธยมปลายคนหนึ่งแย้งว่ากฎหมายฉบับนี้พุ่งเป้าไปที่การใช้โทรศัพท์มากกว่าแก้ไขความท้าทายที่เด็กนักเรียนกำลังเผชิญ นั่นคือแรงกดดันจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสุดโหดที่เรียกว่า “ซูนึง” เขาย้ำว่า ปัจจุบัน นอกจากโรงเรียนกวดวิชาแล้ว ที่ๆ เด็กนักเรียนสามารถพูดคุยกันได้ก็คือแอปพลิเคชันบนมือถือไม่ว่าจะเป็น กาเกาทอล์ก (KakaoTalk) หรืออินสตาแกรม (Instagram)

ขณะที่นักเรียนวัย 18 ปี คนหนึ่งบอกว่า การห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาเรียนไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะนักเรียนจะยังคงสามารถใช้โทรศัพท์ขณะเดินทางหรือนอนอยู่บนเตียงในเวลากลางคืน

เขาเสนอว่าแทนที่จะยึดโทรศัพท์ ทางโรงเรียนควรสอนให้นักเรียนรู้ว่า พวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้างหากไม่มีโทรศัพท์ เขาย้ำว่าโรงเรียนไม่มีการสอนหรือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ยกเว้นการยึดสิ่งของ