คลิปเต็มรายการ

ผมเป็นไรเดอร์ครับ ไม่ใช่แพะ! หนุ่มสู้คดีจนศาลยกฟ้อง แต่ถูกฟ้องซ้ำอีก สุดท้ายติดคุกฟรี

8 ชั่วโมงที่แล้ว

63 views

โหนกระแสวันนี้ (4 พ.ย. 2568) พูดคุยกับคุณโอ้ หนุ่มไรเดอร์ ที่มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีถูกจับเป็นแพะในคดีปลอมแปลงทะเบียนและป้ายภาษี ทั้งที่ตอนเกิดเหตุ ตนทำงานอยู่ประเทศเกาหลีใต้



โอ้ ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และแต่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ขาย ใช้ชีวิตอย่างปกติเรื่อยมา กระทั่งถูกอัยการจังหวัดเชียงราย ออกหมายจับในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ตอนปี 2560 ซึ่งขณะนั้นตัวเขาเองไปทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลี และเดินทางออกไปตั้งแต่ปี 2559 แล้ว



คุณโอ้ เล่าต่ออีกว่า ตนบินกลับมาประเทศไทยเมื่อปี 2562 ซึ่งผ่าน ตม.ที่สนามบินสุวรรณภูมิปกติไม่มีปัญหา แต่พอกลับมาได้สักพัก ตนเองจะพาครอบครัว ข้ามด่านแม่สายไปเที่ยวประเทศเมียนมา ตม.บอกว่า ตนเองมีหมายจับในคดีดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหาร่วมกันทั้งหมด 3 คน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันไม่ได้รู้จักกับใครในคดีมาก่อน จึงต่อสู้ตามกระบวนการ ยืนยันให้ศาลเห็นว่าในช่วงเกิดเหตุปี 2560 ตนเดินทางไปทำงานอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ปี 2559 และกลับมาในปี 2562 พร้อมหลักฐานจากพาสปอร์ตยืนยัน กระทั่งศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะไม่มีพยานหลักฐานใดเชื่อมโยงมาถึงตน



คุณโอ้ เล่าถึงที่มาของคดีว่า ตอนที่ นาย ก. ถูกจับกุมพร้อมของกลางรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวา สีขาว เมื่อปี 2560 เขาถูกดำเนินคดีในฐานะจำเลยที่ 1 ซึ่ง นาย ก. ก็ให้การซัดทอดว่า ได้รถกับทะเบียนปลอมมาจาก "นาย ข." ซึ่งถูกกันตัวไว้เป็นพยาน และ นาย ข. ก็ให้การซัดทอดมาที่คุณโอ้ ว่าเป็นเจ้าของทะเบียนปลอมที่แท้จริง คุณโอ้จึงตกเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีนี้



สำหรับ นาย ข. คุณโอ้บอกว่า เป็นคนมีชื่อเสียง กว้างขวางในชุมชนที่ตนอยู่ แต่ตนไม่เคยเจอหน้ากัน แค่รู้จักชื่อว่าคนนี้ชื่อนี้ แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ส่วน นาย ก. ที่เป็นจำเลยที่ 1 นั้น ตนไม่รู้จัก ไม่เคยเจอหน้า และไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลย ตนเพิ่งเจอกันครั้งแรกตอนที่เบิกตัวไปขึ้นศาล ตอนนั้นตนไม่พูดกับเขาเลย เพราะโกรธทุกคนที่ทำให้ตนต้องตกมาอยู่ในสภาพแพะแบบนี้



หลังจากศาลยกฟ้อง ตนก็ใช้ชีวิตปกติและคิดว่าเรื่องจบแล้ว แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 กลับมีหมายเรียกจากอัยการจังหวัดเชียงราย ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาใหม่ในคดีเดิม แต่ครั้งนี้มีการเพิ่มข้อหา "รับของโจร" ทำให้ตนถูกส่งฟ้องต่อศาล ศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวในวงเงิน 50,000 บาท แต่เนื่องจากตนไม่มีทรัพย์สิน จึงขอศาลติดกำไร EM ซึ่งศาลก็อนุญาต แต่ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ ตนกลับถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางเชียงราย เป็นเวลา 2 คืน 3 วัน จนภรรยาต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเช่าหลักทรัพย์จากเอกชน เพื่อมาประกันตัวตนออกไป



โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ซึ่งมาร่วมในรายการ อธิบายว่า คดีในเรื่องการปลอมแปลงเอกสารถือว่าสิ้นสุดแล้ว แต่ได้ให้ความรู้ว่า สิ่งที่คุณโอ้เสียเปรียบคือ ตอนที่มีหมายเรียกไปที่บ้านในตอนแรก คนที่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องเลย ทำให้ในสำนวนคดีไม่มีคำให้การของคุณโอ้ ตำรวจและอัยการจึงพิจารณาตามพยานหลักฐานเท่าที่มีในขณะนั้น ซึ่งคือคำให้การของพยาน (นาย ข.) ที่อ้างว่าคุณโอ้เป็นคนเอารถไปมอบให้ เมื่อไม่มีคำให้การของคุณโอ้ไปสู้ในชั้นสอบสวนและชั้นอัยการ จึงทำให้คุณโอ้ถูกสั่งฟ้องไปตามหลักฐานที่มี

แท็กที่เกี่ยวข้อง  โหนกระแส ,รายการโหนกระแส

คุณอาจสนใจ

Related News