คลิปเต็มรายการ

ครอบครัวผู้ตายไม่ขออโหสิกรรม ‘หนุ่ม 18’ แฉเคยพูดอยากฆ่าคน ยันเอาเรื่องถึงที่สุด

โดย chutikan_o

6 มิ.ย. 2567

313 views

วันที่ 6 มิ.ย. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ พี่สาวและแม่ของผู้เสียชีวิต, ยอด อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู, ไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ, ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โฆษกกรมสุขภาพจิต, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต และในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ ได้โฟนอินคุยกับ พ่อของผู้ก่อเหตุ กรณี “หนุ่ม 18” ฆ่าปาดคอ-ตัดข้อมือแฟนสาว หอบร่างทิ้งอำพรางศพ

จัมพ์ พี่สาวของผู้เสียชีวิต เผยในรายการโหนกระแสว่า น้องสาวคบกับผู้ตายมาประมาณเกือบ 2 ปี เคยเจอกับแซน (คนก่อเหตุ) เคยเล่าให้ตนฟังว่า กรณีที่เคยมีคดีทำร้ายอนาจารกับเด็กวัย 13 ปี เมื่อปี 2565  ตื่นเต้นที่ได้กระทืบคน อยากฆ่าคน หวังจะพาไปฝังดินแต่เด็กวัย 13 หนีไปได้

“น้องจะขอเลิกแต่เขาไม่ยอม จับน้องเรามัดมือมัดเท้า ไม่ให้ออกไปไหน น้องเราทักแชทมาหาวันรุ่งขึ้น ว่าจะกลับบ้าน มารับหนูหน่อย หนูโทรไป น้องบอกเมื่อคืน แซนจับมัดมือ มัดเท้า คัตเตอร์จ่อคอ เราบอกกลับบ้านเถอะ น้องขอคุยกับมันก่อน สรุปไม่ได้กลับ ก็คืนดีกัน”

นอกจากนี้ยังเผยอีกว่า ตนพยายามเตือนน้องให้ตีตัวออกห่างตลอด แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิกรา เวลาฝ่ายหญิงมานอนที่บ้านเราไม่กี่วันฝ่ายชายก็มาตามกลับให้ไปอยู่ด้วย น้องก็เกิดความเกรงใจ ไม่อยากให้เราเดือดร้อน น้องก็บอกว่าไม่เป็นอะไรเพราะคิดว่าฝ่ายชายไม่กล้าทำอะไรเขา ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุได้กระทำลงไปนั้นตนไม่ขออโหสิกรรมให้

ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการ พ่อของหนุ่ม 18 ได้โฟนอินเข้ามากล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมเผยว่า เสียใจเป็นอย่างมากที่ลูกได้กระทำไป แต่ยืนยันว่าตอนลูกอยู่กับพ่อ-แม่ ไม่มีพฤติกรรมอะไรที่ผิดปกติ พร้อมเผยอีกว่า หลังก่อเหตุลูกชายต้องการฆ่าตัวตาย เพราะได้มีการไลน์มาหาแม่และส่งข้อความแปลกๆ เมื่อมาถึงที่บ้านพบว่าลูกได้กินยาเกินขนาดเพื่อหวังจบชีวิต

“อยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ผมไม่มีอะไรจะพูด นอกจากเสียใจขอโทษ กับเหตุการณ์ที่ลูกทำ” พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าว...

เมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า แซน (ผู้ก่อเหตุ) เคยรักษาอาการทางจิตเวชหรือไม่ พ่อของผู้ก่อเหตุยืนยันว่า “ใช่ครับ ยังคงรักษาอยู่ต่อเนื่องครับ”

ในกรณีนี้ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต มองว่า หลังจากก่อเหตุมีการอ้างว่า ป่วยจิตเวช ต้องแยกระหว่างคนไข้จิตเวชกับคนที่ทำตัวเป็นคนไข้จิตเวช จากที่ดูการกระทำของผู้ก่อเหตุเบื้องต้นวางแผนมาอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จักรยานยนต์คันก่อเหตุก็ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อให้ตามยากหรือไม่ ลักษณะการก่อเหตุก็มีการอำพรางศพ

“ร่องรอยการถูกเฉือนมากแค่ไหน นั่นคือวิธีการคิดของผู้ก่อเหตุที่ต้องการปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ เพื่อให้การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ยากขึ้นหรือไม่ ก็สะท้อนให้เห็นว่าวิธีการคิดแบบนี้ คนไข้จิตเวชจะคิดได้หรือ” นักอาชญาวิทยา ตั้งคำถาม...

คุณอาจสนใจ

Related News