คมนาคมเร่งศึกษาเก็บ ‘ค่าธรรมเนียมรถติด’ คาดชัดเจนปี 2568

'กระทรวงคมนาคม' เร่งศึกษามาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด จากประเทศที่ประสบความสำเร็จ ชี้ช่วยดึงดูดประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในปี 68


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เร่งศึกษาแนวทางการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) ในประเด็นต่าง ๆ เช่น ...

  • ข้อดี-ข้อเสีย
  • พื้นที่ที่จะดำเนินการ
  • อัตราค่าธรรมเนียม
  • รูปแบบการชำระค่าธรรมเนียม
  • รูปแบบการดำเนินการในต่างประเทศ


จากนั้น จำนำมาเปรียบเทียบความน่าจะเป็นกับความเหมาะสมในประเทศไทย รวมถึงระบบทางเศรษฐกิจทุกภาคส่วน


ทั้งนี้ จากการรายงานของ สนข. ถึงผลการศึกษาเบื้องต้น ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2562 - 2565 สนข.ได้ความร่วมมือจากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศเยอรมนี (GIZ) ในการดำเนินการศึกษา และพิจารณารายละเอียดของการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด


ขณะนี้ สนข.ได้ทบทวนผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เบื้องต้นไ ด้ศึกษาถึงมาตรการที่เหมาะสมกับบริบทของกรุงเทพฯและปริมณฑลในพื้นที่ที่มีการพัฒนาระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้า และรถขนส่งสาธารณะอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะระบบขนส่งสาธารณะรอง (ฟีดเดอร์) ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการจราจร สามารถกำหนดระยะเวลาในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติดนั้น จะนำเงินที่ได้รับดังกล่าวมาสนับสนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย


ทั้งนี้ สนข. ได้นำรูปแบบการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติดใน 4 ประเทศที่ประสบความสำเร็จมาเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้กับประเทศไทยให้มีความเหมาะสม ได้แก่


1) ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีการใช้ระบบกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ (ANPR) เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ ในพื้นที่ศูนย์กลางของเมือง รัศมีขนาด 21 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.)


จัดเก็บในช่วงวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00 - 18.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 12.00 - 18.00 น. แต่ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยจัดเก็บในราคา 15 ปอนด์ต่อวัน (ประมาณ 658 บาท) ส่วนวิธีการชำระเงินนั้นสามารถชำระได้ในช่องทางแอปพลิเคชันและออนไลน์


ซึ่งผลลัพธ์จากการศึกษามาตรการเก็บค่าธรรมเนียมใช้ถนนที่ลอนดอน พบว่า การจราจรติดขัดลดลง 16% และมีปริมาณผู้โดยสารขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น 18%


2) ประเทศสิงคโปร์ จัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ ในพื้นที่ศูนย์กลางของเมือง ทางด่วน และพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น ในวันจันทร์ - เสาร์ ช่วงเวลา 06.00 - 22.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในราคา 1 - 6 ดอลลาร์สิงคโปร์ (26 - 158 บาท) ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ช่วงเวลา และพื้นที่


สามารถชำระเงินได้ที่ชุดควบคุมภายในรถ (IU) โดยเชื่อมต่อกับเครื่องชำระเงินผ่านบัตรแทนเงินสด หรือบัตรเดบิต/เครดิต ส่วนระบบการทำงานนั้นจะใช้เทคโนโลยีวิทยุระบุความถี่ (RFID) เพื่อทำการเก็บค่าธรรมเนียมความแออัดโดยอัตโนมัติจากยานพาหนะที่ติดตั้ง IU ที่ผ่านไปใต้ประตู ERP


โดยผลลัพธ์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ พบว่า การจราจรติดขัดลดลง 15%


3) สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน จัดเก็บในพื้นที่ศูนย์กลางของเมืองทางหลวงพิเศษเอสซิงเกเลเดน (Essingeleden Motorway) ในวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 06.30 - 18.29 น. ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในราคา 11 - 45 โครนาสวีเดน (35.53 - 145.35 บาท) ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ช่วงเวลา และพื้นที่


โดยกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ จะตรวจจับค่าผ่านทางบนถนน บันทึกยานพาหนะทั้งหมด และมีการส่งใบแจ้งหนี้ไปยังเจ้าของยานพาหนะในช่วงสิ้นเดือน


ทั้งนี้ ผลลัพธ์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ พบว่า จราจรติดขัดลดลง 20% มีการใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่ม 5%


ขณะที่ โกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ได้มีการจัดเก็บในพื้นที่ใจกลางเมืองโกเธนเบิร์กทั้งหมด และถนนสายหลัก E6 ในวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 06.30 - 18.29 น. ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในราคา 9 - 22 โครนาสวีเดน (29.07 - 71.06 บาท) ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ช่วงเวลา และพื้นที่


ส่วนรูปแบบการชำระเงินและการดำเนินการจะเป็นเช่นเดียวกันกับสต็อกโฮล์ม โดยการดำเนินการในโกเธนเบิร์กนั้น พบว่า จราจรติดขัดลดลง 10% และใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่ม 6%


4) มิลาน ประเทศอิตาลี ได้ติดตั้งกล้องตรวจจับการรับรู้ป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ ในพื้นที่ใจกลางเมืองมิลาน บริเวณเซอร์เคีย เดย บาสติโอนี่ (Cerchia dei Bastioni) แบ่งเป็นวันจันทร์ อังคาร พุธ และศุกร์ เวลา 07.30 - 19.30 น. ส่วนวันพฤหัสบดี เวลา 07.30 - 18.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) จัดเก็บในราคา 2 - 5 ยูโรต่อวัน (76.42 - 191.05 บาท) ขึ้นอยู่กับประเภทรถ


สามารถชำระเงินได้ผ่านตู้ชำระเงินบริเวณที่จอดรถ เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชัน และระบบออนไลน์


โดยการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว พบว่า การจราจรติดขัดลดลง 34% ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าประเทศที่ดำเนินการ จัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด พบว่า มีปริมาณผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าก่อนเริ่มใช้มาตรการนั้น ประชาชนจะตั้งข้อสังเกตุในหลายกรณี แต่เมื่อหลังเริ่มใช้แล้วพบว่าประชาชนให้การสนับสนุนและให้การยอมรับ


ในผลการศึกษาฯ ยังระบุอีกว่า ก่อนที่จะเริ่มใช้มาตรการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติดของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวข้างต้นนั้น มีประชาชนไม่เห็นด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ภายหลังจากเริ่มแล้วกลับมาให้การยอมรับและเห็นด้วยอย่างมาก เช่น สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ก่อนเริ่มมาตรการฯ ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับ 21% และภายหลังเริ่มมาตรการให้การยอมรับเพิ่มเป็น 67%


ขณะที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนเริ่มมาตรการฯ ประชาชนในพื้นที่ให้การยอมรับ 39% และภายหลังเริ่มมาตรการให้การยอมรับเพิ่มเป็น 54% อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการอย่างละเอียด รอบคอบ เป็นธรรม และพร้อมรับฟังทุกเสียงของพี่น้องประชาชนอย่างเท่าเทียมแน่นอน


ล่าสุดในปี 2567 สนข.อยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนในการศึกษา Congestion Charge โครงการของ UK PACT โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักร เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดนโยบายเพื่อใช้กำหนดรูปแบบ วิธีการ และค่าธรรมเนียม ในการนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาในเขตพื้นที่ที่มีการติดขัดของการจราจรสูง


โดยจะต้องศึกษามาตรการที่เหมาะสมกับบริบทของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในพื้นที่ที่มีการพัฒนาระบบขนส่งด้วยรถไฟฟ้า รถขนส่งสาธารณะอย่างครอบคลุม และมีความสะดวกในการใช้งานแล้ว โดยระยะเวลาดำเนินโครงการศึกษาคาดเห็นความชัดเจนในปี 2568

โดย nattachat_c

12 พ.ย. 2567

93 views

EP อื่นๆ