‘พอล ภัทรพล’ เล่านาทีถูกโจรล้วงกระเป๋าที่สเปน งงเงินหายทั้งที่จับตาดูตลอด

สำหรับ ‘พอล ภัทรพล’ ที่ตอนนี้พักจากงานหน้าจอ หันไปทำธุรกิจด้านการลงทุน ล่าสุดพอลได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ถูกโจรล้วงเงินในกระเป๋าของภรรยาไปแบบงงๆ ขณะไปเที่ยวกันที่ประเทศสเปน

พอล ออกมาโพสต์เล่าในติ๊กต็อกว่า ถูกล้วงกระเป๋าระหว่างเดินเที่ยวอยู่ที่พระราชวัง ในเมืองมาดริด หลังมีผู้หญิงมีอายุคนหนึ่ง ยื่นดอกไม้ให้กับภรรยาและให้เหรียญ 1 เหรียญ และบอกว่าให้ฟรี ซึ่งตอนแรกภรรยาของพอลบอกไปว่า ไม่เอา แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวบอกว่าต้องเอาไปใช้ภายในพระราชวัง ภรรยาของพอลก็เลยรับไว้ ในราคา 5 ยูโร ภรรยาของพอล ก็เปิดกระเป๋าตังค์ ตั้งใจจะให้เขา 10 ยูโร และในจังหวะที่ล้วงหาเหรียญอยู่นั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวก็เอานิ้วมาจิ้มๆ ที่กระเป๋าตังค์ของภรรยาพอล แล้วบอกว่าไม่ต้องให้ 10 ยูโรหรอก ให้แค่ 5 ยูโรก็พอ พอให้เงินเสร็จก็เก็บกระเป๋าตังค์ใส่กระเป๋าสะพาย แล้วก็เดินออกไป

แต่ปรากฏว่าหลังจากเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็มีผู้หญิงอีกคนมาแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ และบอกให้ภรรยาพอล เช็กเงินในกระเป๋าว่ายังอยู่ครบไหม ซึ่งภรรยาพอลก็บอกว่าครบนะ เพราะตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเอามือมาจิ้มที่กระเป๋า ตาก็มองอยู่ตลอด แต่พอเอากระเป๋าตังค์มาเช็กดู ก็พบว่าเงินสดที่เป็นแบงค์หายไปหมดเลย ก็เลยงงว่าหายไปไหน หายไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่ตามองอยู่ตลอด พอหันหลังกลับมองหาผู้หญิงคนนั้น ก็พบว่าถูกตำรวจคุมตัวสอบสวนอยู่

จากนั้นตำรวจก็พาพอลและภรรยาไปโรงพัก ซึ่ง พอล บอกว่า ตอนแรกก็เริ่มไม่ไว้ใจ เพราะคิดว่าเป็นขบวนการอะไรหรือเปล่า จะถูกลักพาตัวไหม ยอมรับว่ากังวลมาก แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งรถไปกับตำรวจ พอไปถึงโรงพักตำรวจก็ขอดูเอกสาร ขอพาสปอร์ต ถามชื่อพ่อแม่ และถามว่าเงินหายไปเท่าไหร่ ภรรยาพอลก็บอกไปว่าประมาณ 450 ยูโร ซึ่งตำรวจใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็เดินกลับมาพร้อมนำเงินจำนวน 450 ยูโรมาคืนให้ ส่วนผู้หญิงที่เป็นมิจฉาชีพก็โดนจับ ก็เลยรู้สึกประทับใจตำรวจสเปนมาก ที่ช่วยเหลือและจัดการปัญหาได้เร็ว ก็เลยมาแชร์ให้ฟังกัน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/VKKXfucyNZw