ชาวบ้านหมู่เกาะคานารีกว่าครึ่งแสน ประท้วงปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง ทำชาวบ้านอยู่ลำบาก

ชาวสเปนบนเกาะคานารี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของยุโรป ราว 57,000 คน ได้ออกมาประท้วงบนท้องถนน เพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนโมเดลการท่องเที่ยวแบบมวลชน ที่ทำให้เกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง

ผู้ประท้วงรวมตัวกันภายใต้สโลแกนว่า 'หมู่เกาะคานารีก็มีขีดจำกัด' ผู้ประท้วงต่างร้องตะโกน พร้อมกับถือป้ายว่า “หมู่เกาะคานารีไม่ได้มีไว้ขาย” หรือป้ายที่เรียกร้องให้มีการระงับการท่องเที่ยวในเกาะ

การประท้วงดังกล่าว ถูกจัดขึ้นโดยกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ราว 20 กลุ่ม ที่ระบุว่า การท่องเที่ยวที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดรูปแบบทางเศรษฐกิจที่เป็นอันตรายต่อชาวบ้าน และทำลายสิ่งแวดล้อม

บรรดาผู้ประท้วงต้องการให้ทางการของหมู่เกาะคานารี จำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว และเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม ระงับการท่องเที่ยวเป็นเวลาชั่วคราว  และหยุดการขายที่ดินให้แก่คนนอกที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่หมู่เกาะคานารี

ทั้งนี้ หมู่เกาะคานารีตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของทวีปแอฟริกา  และเป็นที่รู้จักจากสภาพแวดล้อมที่เป็นภูเขาไฟ และสภาพอากาศที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปี

โดยในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังหมู่เกาะคานารี มากถึง 16 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่า 7 เท่าของประชากรในเกาะ ซึ่งมีอยู่ที่ 2.2 ล้านคน

โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ บอกว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากเกินไปนั้น ไม่เป็นผลดีต่อทรัพยากรของเกาะที่มีอย่างจำกัด

ผู้ประท้วงคนหนึ่ง กล่าวว่า ปัญหานักท่องเที่ยวที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดวิกฤติเรื่องบ้านพักในหมู่เกาะ ทำให้ราคาค่าเช่าบ้านพุ่งสูงขึ้นจากเดิม 

บางราย บอกว่า ไม่ได้ต่อต้านการท่องเที่ยว แต่เพียงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนโมเดลการท่องเที่ยว ที่เปิดให้การท่องเที่ยวในเกาะเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่จำกัด เหนื่อยกับการเห็นการแออัดยัดเยียด รายได้ที่น้อยเกินไป และไม่มีบ้านให้อยู่ และต้องเห็นที่ดินของเกาะคานารี ถูกชาวต่างชาติซื้อไป เพราะพวกเขามีเงินที่จะซื้อที่ดินของบรรพบุรุษของคนท้องถิ่น ที่ไม่มีเงินมากพอที่จะรักษาเอาไว้ได้

-------------