เศรษฐกิจ
คลังเล็งปัดฝุ่นแนวคิดเก็บ VAT 2 อัตรา ในสินค้าฟุ่มเฟือย หลังรายได้ประเทศไม่พอรายจ่าย
โดย nattachat_c
26 ก.ย. 2565
413 views
ในปีงบประมาณ 2566 ทางรัฐบาลมีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โดยจะมีรายจ่ายที่ 3.185 ล้านล้านบาท ขณะที่จะมีรายได้เพียง 2.49 ล้านล้านบาท
ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องหาแนวทางการจัดเก็บรายได้เพิ่ม เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ จึงมีการหยิบนโยบายการจัดเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มแบบ 2 อัตรา มาหารือกันอีกครั้ง เนื่องจากเป็นอัตราภาษีที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด
ซึ่ง รัฐบาลบอกว่าในหลายประเทศก็ใช้ลักษณะเดียวกัน
1. โดยสินค้าจำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะไม่กระทบประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งจัดเก็บภาษีอัตราปกติ 7%
2. ส่วนสินค้าฟุ่มเฟือย สุรา ยาสูบ เบียร์ สินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารราคาแพง จัดเก็บในอัตราที่สูงกว่า 7%
ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้เข้ารัฐมากกว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามหลักการของการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น เก็บจากการบริโภค ซึ่งถือว่าเป็นระบบภาษีที่มีความเป็นธรรมและไม่ซ้ำซ้อน โดยเก็บในอัตรา 7% สำหรับทุกสินค้าที่มีการบริโภค ยกเว้นบางสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น พืชผลทางการเกษตร ปุ๋ย อาหารสัตว์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน
ในสมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความพยายามปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งสามารถประกาศใช้กฎหมายได้ ดังนี้
- ภาษีการรับมรดก แต่ยกเว้นมรดกที่ไม่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนมรดกที่เกินกว่า 100 ล้านบาท เสียภาษีอัตรา 5%
- กรณีผู้รับเป็นบุพการี หรือผู้สืบสันดาน และกรณีเป็นบุคคลอื่น เก็บในอัตรา 10%
- ประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่
ซึ่งภาษีต่างๆ เหล่านี้ ไม่ได้ทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกำหนดข้อยกเว้นจำนวนมากและอัตราภาษีต่ำ จึงทำให้ต้องมีการคิดระบบการจัดเก็บภาษีรูปแบบใหม่
ทั้งนี้ ช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค. 64 - ก.ค. 65) กรมสรรพากรสามารถเก็บภาษีได้ 1.67 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม 766,000 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
-------------
วานนี้ (25 ก.ย. 65) ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 26-30 ก.ย. อยู่ที่ระดับ 37.00-37.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ย. 2565 ที่ระดับ 37.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ
หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 16 ปีที่ 37.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fMIzvcvX788