อาชญากรรม

ผู้เสียหายหลายร้อยคน แจ้งจับ "ใบหนาด" หลอกขายทองราคาถูก แต่ไม่ได้ทอง

โดย nutda_t

7 ต.ค. 2567

1K views

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ถูกหลอกซื้อทองจากบริษัทแห่งหนึ่ง เข้าพบพนักงานสอบสวน  เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่

น.ส.เมษา และ น.ส.บิว (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย บอกว่ารู้จักผู้ค้าทองรายนี้ผ่านทางแอปพลิเคชัน TikTok โดยมีการไลฟ์ขายทองมาเป็นปีแล้ว และผู้ขายยังเป็นลูกน้องเก่าของพิมรี่พาย เคยเห็นหน้าในไลฟ์ของพิมรี่พาย นอกจากนี้ ผู้ขายยังมีเอกสารจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นชื่อบริษัทห้างทอง และมีชื่อผู้ขายคือนายพรมธาดา หรือ ใบหนาด เป็นกรรมการบริษัท ทำให้เกิดความเชื่อถือและสั่งซื้อทอง


โดยผู้ขายรายนี้ มักจะจัดโปรโมชันขายทองในราคาถูก ผู้เสียหายจึงรวมเงินซื้อทอง เริ่มจาก 1 กรัม ในราคา 1,500 บาท ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปที่ขายในราคาเกือบ 3,000 บาท จึงตั้งใจว่าจะรวบรวมเงินซื้อสะสมไว้ โดยเมื่อถามผู้ขายว่าทำไมจึงได้ทองมาในราคาถูก ผู้ขายก็อ้างว่า รับจากโรงงานมาโดยตรง แต่เมื่อถามชื่อโรงงานก็ไม่ยอมบอก อ้างว่าถ้าบอกเดี๋ยวคนซื้อก็จะตามไปซื้อกับโรงงานเอง

ปรากฏว่า ต่อมาเมื่อซื้อทองปริมาณมากขึ้น กลับไม่ได้รับสินค้า โดย น.ส.เมษา สูญเงินไปกว่า 45,000 บาท ขณะที่ น.ส.บิว เสียหายกว่า 21,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะกลุ่ม VIP ที่มีการซื้อทองจำนวนมากหลัก 10 บาทเป็นต้นไป ทำให้ยอดความเสียหายรวมหลายล้านบาท โดยผู้เสียหายทั้ง 2 คน ยืนยันว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีแม่ตั๊ก โดยทั้งคู่ก็รู้จักแม่ตั๊ก เพียงแต่ไม่ได้ซื้อทองของแม่ตั๊ก เพราะมาซื้อเจ้านี้ก่อน เนื่องจากราคาถูกกว่า

ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองสูญเงินไปกว่า 560,000 บาท เนื่องจากตรวจสอบบัญชีการโอนเงิน พบว่าเป็นชื่อบริษัท นอกจากนี้ ผู้ขายยังมีการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการจัดงานวันเกิด ซึ่งมีการเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา นักแสดง ไปร่วมงาน ทำให้ตัดสินใจซื้อทอง โดยซื้อมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซึ่งก็เคยได้รับทองจริง เป็นทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท ขณะนั้นซื้อมาในราคา 100,000 กว่าบาท จากนั้นขายไปได้ราคา 300,000 กว่าบาท แล้วจึงซื้อทองเพิ่มอีก รวมน้ำหนัก 40 บาท มูลค่า 560,000 บาท แต่รอบนี้ ไม่ได้รับของแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 เปิดเผยว่า ผู้เสียหายมีการซื้อทองจากผู้ขายรายนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดียในราคาที่ถูก ซึ่งหากซื้อเพิ่มขึ้น ราคาทองก็จะถูกลงเรื่อยๆ เช่น ทองน้ำหนัก 1 บาท ราคาอาจจะถูกถึง 20,000 บาท ไปจนถึง 8,000 บาท ขึ้นอยู่กับโปรโมชันที่ซื้อ ซึ่งเริ่มแรกจะมีการซื้อขายตามปกติ ผู้เสียหายก็ได้รับของจริงๆ จนทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก แต่ต่อมาเมื่อซื้อเพิ่มก็จะไม่ได้รับของ

โดยพฤติกรรมแบบนี้ พล.ต.ต.นิพล เปิดเผยว่า ลักษณะเป็นการหมุนเงิน นำเงินจากผู้เสียหายรายหลัง ไปจ่ายให้กับกลุ่มแรก หมุนเวียนไปจนเรื่องแดงขึ้น โดยผู้ขายยังอ้างว่า การที่ขายทองราคาถูกได้ เพราะเป็นเจ้าของห้างทอง แต่จากการตรวจสอบพบว่า ที่อ้างเป็นห้างทอง มีเพียงฉากหลังที่นำมาถ่ายรูปหลอกเท่านั้น แต่ทองที่ผู้เสียหายได้เป็นของห้างทองอื่น

ขณะที่ พลตำรวจตรี จิระวัฒน์ พยุงธรรม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจทราบว่าคดีนี้มีผู้เสียหายประมาณ 500 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 85 ล้านบาท โดยมีประมาณ 200 คน ที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้รวมคดีผู้เสียหายทั้งหมด โดยมอบหมายให้ บช.สอท. เป็นผู้รับผิดชอบ ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

ด้าน พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า การกระทำของผู้ขายทองดังกล่าว มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคด้วย โดย บช.สอท. ได้เตรียมพนักงานสอบสวนจำนวน 35 นาย ไว้รองรับในการสอบปากคำผู้เสียหาย โดยหลังจากสอบปากคำผู้เสียหายในวันนี้เสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานเตรียมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทันที

แท็กที่เกี่ยวข้อง  หลอกขายทองออนไลน์ ,ใบหนาด

คุณอาจสนใจ