สังคม
รวบ 'ใบหนาด' ไลฟ์ตุ๋นขายทองเกรดต่ำ เสียหายกว่า 85 ล้าน เจ้าตัวสารภาพทุกข้อหา ยันพร้อมรับผิดชอบ
โดย nattachat_c
10 ต.ค. 2567
151 views
จากกรณี 'ใบหนาด' ได้ไลฟ์ผ่านทาง TikTok เพื่อโฆษณาชักชวนให้ซื้อสินค้าจำพวกทองคำ และทองรูปพรรณ จาก บริษัท ห้างเพชรทองธาดาโกลด์ จำกัด แต่ปรากฏว่า ผู้เสียหายบางรายไม่ได้รับสินค้า หรือบางรายได้รับสินค้าแต่มีคุณภาพไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ จนมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ และระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา รวมมีผู้เสียหายกว่า 200 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 85 ล้านบาท (เฉพาะผู้ที่เข้ามาแจ้งความ)
วานนี้ (9 ต.ค. 67) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (ตำรวจไซเบอร์) คุมตัว นายพรมธาดา นาคเจริญ หรือ 'ใบหนาด' กรรมการบริษัท ห้างเพชรทอง ธาดาโกลด์ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปค้นโกดังอีกแห่งหนึ่ง ในอำเภอลาดสวาย จังหวัดปทุมธานี เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ก่อนจะคุมตัวเข้ามาที่กองบัญชาการเวลา 12.50 น. ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า 'ใบหนาด' เดินมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า อยากขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ แต่ 'ใบหนาด' ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน พูดแค่เพียงว่า "จะขอชี้แจงกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น"
จากนั้น เวลา 15.00 น. พลตำรวจตรี จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ทั้งหมด 4 จุด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ได้แก่
จุดที่ 1
บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยผลจากการตรวจค้น ไม่พบผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้าน
จุดที่ 2
เป็นบ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี แต่เป็นผู้เช่ารายใหม่ และพบพัสดุจากผู้เสียหาย ที่ส่งกลับมายังบ้านหลังดังกล่าว
จุดที่ 3
เป็นบ้านพักหลังหนึ่งใน ม.5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผลการตรวจค้นพบเฟอร์นิเจอร์สำหรับเก็บทอง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์ที่ปรากฏใน TikTok live และยังพบ อุปกรณ์สำหรับเก็บทอง, อุปกรณ์สำหรับ Live, เอกสารสำคัญอีกหลายรายการ
จุดที่ 4
บ้านพักหลังหนึ่งใน ม.4 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สามารถจับ 'ใบหนาด' ได้ โดยหนีมากบดานที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่มายังหมู่บ้านหรูย่านรังสิต ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของใบหนาด โดยทางหมู่บ้านไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านใน แต่ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 8 โมง ได้มีตำรวจ 1 ชุด เดินทางมา และเข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการ ก่อนกลับออกไปตอนประมาณ 10 โมง เนื่องจากไม่พบใคร
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ลงพื้นที่ที่อาคารพาณิชย์ ภายในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดที่มีการจดทะเบียนเป็นห้างเพชรทองธาราโกล์ด พบว่า เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปิดประตูเงียบ ด้านในมีเพียงเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น และมีกล่องพัสดุจำนวนมากเรียงเก็บไว้ในโกดัง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านละแวกนี้ บอกว่า ตนเองมาอยู่ที่นี่ได้เพียง 3 เดือน ก็เห็นว่ามีโกดังนี้เปิดอยู่ก่อนแล้ว จะมีเพียงแค่ 'ใบหนาด' และเพื่อน ประมาณ 4 คน ที่มาที่นี่ แต่จะปิดประตูอยู่ตลอด ไม่เคยรู้ว่าข้างในทำอะไร เห็นแค่มีการแพ็คของ
จนเมื่อกลางเดือนกันยายน มีเจ้าหน้าที่จากอำเภอมาสอบถามตนว่า รู้ไหมว่าอาคารนี้เปิดทำอะไร เพราะเขาไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่อำเภอเข้าไปตรวจสอบ บอกว่าไม่สะดวก
นอกจากนี้ สังเกตเห็นว่า เวลาที่มีคนมา ก็จะเอาป้ายมาบริษัทมาติดด้านหน้า เป็นชื่อห้างเพชรทองธาราโกลด์ แต่ที่อยู่ไม่ใช่ที่นี่ อยู่ที่สวนพริกไทย แต่จะติดป้ายอยู่แค่ 10 นาที แล้วก็เอาออก เหมือนติดแค่เพื่อถ่ายรูป-ถ่ายคลิป เท่านั้น
ทั้งนี้ ตนเพิ่งมาเห็นจากข่าวว่า มีการหลอกขายทองออนไลน์ เลยเพิ่งรู้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เห็นมาทุกวัน ก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าจะอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้
ขณะที่พลตำรวจตรี อรรสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยว่า 'ใบหนาด' รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ตั้งแต่ปี 2561 เคยเป็นลูกจ้างร้านทองที่ จ.สุราษฎร์ธานี จนเรียนรู้วิธีการขายทอง
จนถึงปี 2566 ก็เริ่มอยากทำกิจการของตนเอง เลยไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อขายทอง ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แล้วเริ่มไลฟ์เพื่อขายทอง โดยจะใช้วิธีการโฆษณาจูงใจ ให้ลูกค้าซื้อทองในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 50% เช่น ...
- ราคาทอง 1 บาทอยู่ที่ 40,000 บาท ก็จะขายลงมาที่ประมาณ 20,000 บาท
- ทอง 2 สลึงราคา 20,000 บาทก็จะขายที่ราคา 9,999 บาท
นอกจากนั้น ยังใช้วิธีหลอกจูงใจลูกค้าหลายอย่าง เช่น หาผู้โชคดีที่ซื้อทองเร็วที่สุด 3 ราย เพื่อขายเพียงแค่ราคา 9,999 บาท ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก
ส่วนสาเหตุที่เรื่องแดง เพราะราคาทองคำปรับตัวสูง ทำให้ไม่สามารถหมุนเงินมาซื้อทองได้ทัน พอผู้เสียหายไปแจ้งความ แล้วบอกต่อกัน เลยทำให้เรื่องแดงขึ้น จนสุดท้ายไม่มีใครเข้ามาซื้อทองคำ และต้องปิดกิจการ
จากการตรวจสอบพบว่า ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีใบหนาดถึง 200 ล้านกว่าบาท แต่กลับพบเงินในบัญชีทั้ง 3 บัญชีของ 'ใบหนาด' ล่าสุด มีไม่ถึงหมื่นบาท เชื่อว่าน่าจะมีพฤติการณ์ฟอกเงินอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ตำรวจยังสงสัยแอดมิน 3 คน ที่ดูแลระบบว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องการกับฉ้อโกง หรือฟอกเงินด้วย
ส่วนกรณีที่มีนักร้องชื่อดัง ได้ไปร้องเพลงให้กับใบหนาด จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเพียงแค่การว่าจ้าง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความ
ภายหลังจากตำรวจไซเบอร์ได้สอบปากคำ 'ใบหนาด' เสร็จ ได้ควบคุมตัวลงมาจากอาคารกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ มุ่งหน้าไปยังศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อสอบปากคำต่อ
โดยในระหว่างนำตัวขึ้นรถนั้น 'ใบหนาด' ยอมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ต้องขอโทษลูกค้าทุกคน และพร้อมรับผิดชอบ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามหลายประเด็นเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ 'ใบหนาด' ตอบเพียงแค่ว่า "ขอให้การในชั้นศาล" และได้พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะขึ้นรถไปว่า "ขอโทษทุกคน และพร้อมจะรับผิดชอบ"
สำหรับความผิดของใบหนาด พบว่า ขายทองจริง จึงไม่เข้าข่ายโฆษณาเกินจริง แต่ไม่ส่งทองให้จึงมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่โฆษณาไว้
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-_4B2CMx7Bc