อาชญากรรม

สุดเศร้า! พ่อแม่การ์ดผับชื่อดัง ร่ำไห้รับศพลูกชาย เผยยังติดใจปมเหตุกล้องวงจรปิดถูกทำลาย

โดย gamonthip_s

22 มิ.ย. 2567

853 views

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นางรจนา อายุ 47 ปี พร้อมด้วยนายวารินทร์ อายุ 45 ปี มารดาและบิดา เดินทางเข้ารับร่าง นายณัฐพล หรือนาษ อายุ 23 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้เสียชีวิตถูกนายธวัชชัย อายุ 40 ปี เจ้าของผับ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ 5 นัด ยี่ห้อรูเกอร์ กระสุนขนาด .357 แม็กนัม ยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ทำให้เสียชีวิต เมื่อวันที่ (20 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า



นางรจนา แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยังติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากหลักฐานสำคัญคือ ภาพจากกล้องวงจรปิดถูกทำลาย โดยทางเจ้าของผับอ้างว่า กล้องวงจรปิดเสีย ทั้งที่เป็นผับใหญ่มีชื่อเสียง อีกทั้งในที่เกิดเหตุ เจ้าของผับอ้างว่ามีการต่อสู้กัน เนื่องจากลูกชาย ซึ่งเป็นการ์ดพกอาวุธปืนเข้าไปเจรจา หลังมีปากเสียงกับลูกค้าในผับ จึงถูกเจ้าของผับตำหนิ ทำให้ลูกชายโมโห ชักปืนออกมายิง ก่อนที่เจ้าของผับจะแย่งปืนไปแล้วเกิดปืนลั่น ทำให้ลูกชายเสียชีวิต ซึ่งคำอ้างนี้เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะทำเช่นนั้น เนื่องจากลูกชายเป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกับนายจ้าง ดังนั้นมูลเหตุที่ลูกชายต้องเสียชีวิตครั้งนี้ อาจเป็นเพราะลูกชายไปรู้เห็นบางเรื่องที่อาจทำให้เจ้าของผับไม่พอใจ



นางรจนา กล่าวอีกว่า ไม่เชื่อว่าในที่เกิดเหตุ จะมีเพียงลูกชายกับเจ้าของผับ 2 คน เพราะลูกชายมีร่างกายแข็งแรง และเคยต่อยมวย จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนอื่นร่วมก่อเหตุด้วย หรือจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุปืนลั่น ดังนั้นจึงอยากให้นำกล้องวงจรปิดออกมาเปิดเผย เพราะหากทะเลาะกันแค่ 2 คนจริง กล้องวงจรปิดก็จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของผับเช่นกันในการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนอาวุธปืนตนเองก็ไม่ทราบว่าลูกชายมีอาวุธปืนได้อย่างไร เพราะลูกชายเพิ่งเข้ามาทำงานได้สัปดาห์เดียว และทุกวันก็ยังต้องขอเงินตนเองวันละ 200 เพื่อเป็นค่าอาหาร จึงไม่เชื่อว่าลูกจะมีอาวุธปืน




ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้รับการประสานจากทนายความของเจ้าของผับ ว่าจะเข้าขอขมาศพ ทางครอบครัวก็ยินดี แต่ในส่วนการดำเนินคดีก็จะดำเนินการถึงที่สุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย



ด้าน พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาแล้ว และได้ส่งตรวจกล้องวงจรปิดกับกองพิสูจน์หลักฐานว่าถูกทำให้เสียหาย หรือว่าพังอยู่แล้ว และจะสามารถกู้คืนข้อมูลได้หรือไม่ โดยจะต้องใช้เวลาตรวจสอบสักระยะ และจะตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อคลี่คลายข้อสงสัย และชี้แจงกับครอบครัวที่ติดใจในทุกประเด็นแน่นอน

คุณอาจสนใจ

Related News