อาชญากรรม
เปิดปมยิงคาบ่อนไก่มรณะ ฉุนไก่แพ้เดิมพันหลักล้าน เจ้าของประกาศขายไก่ชน 3 แสน หาเงินช่วยงานศพเหยื่อ
โดย thichaphat_d
10 ต.ค. 2566
86 views
ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ยิงกันในสนามชนไก่ พื้นที่จังหวัดนครปฐม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ได้จะเห็นว่า หลังจากมีการชนไก่เสร็จสิ้นแล้ว กลุ่มผู้แข่งขันชนไก่ทั้งสองฝ่ายต่างมีอารมณ์ และชี้หน้ากันก่อนจะเริ่มเปิดศึกตะลุมบอนชกต่อยกันก่อน โดยไม่มีอาวุธ จากนั้นก็นำเก้าอี้มาฟาดใส่กันไปมาสองฝ่าย จนกระทั่งมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เป็นการยิงขึ้นฟ้าและต่อมาก็มีการยิงฝั่งคู่อริ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย และได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
วานนี้ (9 ต.ค.66) ตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค7 พร้อมด้วยชุดสืบสวนจังหวัดนครปฐม ประชุมและลงพื้นที่ขอหมายค้นบ้านพัก นายเบ็น เหล่างาม หรือเบ็น มาบแค หรือเบ็น พะเนียงแตก อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิง นายพิรุณ ยศเครือ อายุ 33 ปี ภายในสนามชนไก่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า หลังจากก่อเหตุ นายเบ็นได้ขับรถมาที่บ้าน แล้วมีพี่ชายพาออกไป โดยขี่รถจักรยานยนต์ออกไปด้านนอก จากนั้นก็ขาดการติดต่อ
เมื่อเปิดบ้านเข้าไป ก็พบว่ามีรถยนต์หรู BMW จอดอยู่ภายในบ้านหนึ่งคัน หลังจากนั้นตำรวจตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือผิดกฎหมาย จึงทำการถอดเมมโมรี่กล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ โดยขณะที่ตำรวจได้ซักถามพ่อแม่ของนายเบ็น ช่วงจังหวะหนึ่งแม่ของนายเบ็น มีอาการเครียด บอกกับตำรวจว่าตนเองก็อยากให้ลูกมอบตัว ตนก็ติดต่อลูกไม่ได้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะติดต่อทางไหน ตนไม่ได้โกหก อยากให้ลูกเข้ามอบตัวมากกว่าถูกตำรวจติดตามจับกุมแบบนี้
จากนั้น ภรรยาของนายเบ็น ได้ขับรถมาที่บ้านด้วยรถหรู BMW ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว หลังจากนั้นก็พาตำรวจไปตรวจค้นบ้านพัก มีการสร้างเป็นกรงไก่ชนนับสิบตัว ส่วนด้านหลังทำธุรกิจเกี่ยวกับรับซื้อไขมันหมู ทำน้ำมัน ส่วนหนังหมูขายทำแหนม เเละรับซื้อไส้หมู ส่งขายทำไส้กรอก
สำหรับนายเบ็น มีรายงานว่า เป็นกลุ่มที่มีความสนิทสนมกับนักการเมืองท้องถิ่น พื้นที่ตำบลลำพยา เขตติดต่อกับ ตำบลตาก้อง เมืองนครปฐม เเต่เป็นคนละกลุ่มกับกำนันนก หลังการก่อเหตุ นายเบ็น ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เข้ามาจอดไว้หลังบ้าน ก่อนที่พี่ชายจะพาหลบหนี
------------------------------------------------------
ครอบครัวผู้เสียชีวิตขอความเป็นธรรมยืนยันลูกชายไม่ได้ อันธพาล เห็นเหตุชุลมุนตีกันจึงเข้าไปห้ามแต่กลับถูกยิง วอนนายเบ็นเข้ามอบตัวรับกรรมที่ทำไว้
สำหรับเหตุการณ์ชุลมุน จนถึงขั้นมียิงทำร้ายร่างกายกันเสียชีวิตนั้น เป็นเพราะเรื่องการเดิมพันการชนไก่ทั้งนี้ในราคา 100,000 บาท แต่มีรายงานว่ามีการตั้งราคากันเองในวงภายนอกของสนามชนไก่ราคาสูงถึงหลักล้านบาท ทำให้เมื่อมีฝ่ายแพ้ก็ย่อมเกิดความแค้นและไม่ต้องการจ่ายเงิน
ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้เข้าไปพบกับครอบครัวของนายพิรุณ ยศเครือ อายุ 33 ปี ที่บ้านกำลังจัดเตรียมงานศพเป็น โดยนางลัดดา ยศเครือ แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดใจ ว่ายังรับกับเหตุการณ์ไม่ได้ เพราะต้องมาสูญเสียลูกชายซึ่งเป็นเสาหลักของบ้าน
ไก่ตัวที่เกิดเรื่องนั้นไม่ใช่ของลูกชาย แต่ลูกชายช่วยดูแลกับน้องๆในกลุ่ม จนกระทั่งวันที่จะไปชนที่สนาม ลูกชายก็พาภรรยาและลูกไปด้วย จากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเค้าก็มายิงลูกแม่
จากการสอบถามคนที่ไปด้วยบอกว่า ลูกชายแม่กำลังจะเข้าไปห้ามและช่วยเหลือน้องในกลุ่ม แต่ถูกยิงมาก่อนหนึ่งนัด แม่ก็ว่าหนักแล้วยังยิงซ้ำอีก อยากรู้เขาโกรธแค้นอะไรลูกแม่ ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรให้อยากขอให้เขามอบตัวและชดใช้กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ
หากเป็นไปได้แม่อยากให้แลกชีวิตระหว่างแม่กับลูก เพราะลูกชายแม่เป็นคนดี หาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด รุ่นน้องในหมู่บ้านให้ความเคารพนับถือ จึงมีคนรักจำนวนมาก ยืนยันลูกชายก็ไม่ได้รู้จักนายเบ็นมาก่อน และไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง
ลูกแม่และน้องในกลุ่ม ตั้งใจแค่ไปแข่งไก่ชนเท่านั้น ไม่ได้ไปหาเรื่องใคร แต่พอเห็นข่าวและคลิปเหตุการณ์แล้วแม่รับไม่ได้โดยเฉพาะตอนจังหวะที่มีเสียงปืนดังขึ้น
หลังจากนี้ไม่มีเสาหลักแล้วก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตอย่างไร ส่วนคนที่ทำก็หลบหนีไป บ้านเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ทางเราไม่มี และกังวลเรื่องผู้มีอิทธิพล เพราะฝั่งครอบครัวผู้ก่อเหตุมีฐานะ รู้จักผู้ใหญ่มากมายในจังหวัดนครปฐม จึงกังวลเรื่องความยุติธรรมและอยากวิงวอนขอให้สื่อช่วยตรวจสอบและติดตามคดีนี้เพื่อความเป็นธรรมกับลูกชายของแม่ด้วย
-----------------------------------------------
เปิดใจเจ้าของไก่ชนเจ้าปัญหา ประกาศขายไก่ 3 แสน ระบุเป็นเพียงซุ้มไก่ไม่มีชื่อเสียง แต่ชนะไก่ที่มีชื่อ เดิมพันหลักล้าน
ทีมข่าวไปที่พบกับนายนนทนันท์ พันธ์ยุโดด เจ้าของไก่ชนเพชรเอก ไก่ตัวที่ชนะเสือเตี้ย ไก่ของนายเบ็น
นายนนทนันท์ เปิดเผยว่า ไก่เพชรเอกเป็นของตน แต่นายพิรุณ ผู้เสียชีวิตมาช่วยเลี้ยงและดูแล ที่ผ่านมาก็ลงแข่งสนามเล็กๆ เดิมพันหลักหมื่น ไม่เคยลงสนามใหญ่ จนกระทั่งครั้งนี้ ลงสนามใหญ่ เดิมพันเงินสด 1 แสนบาท ฝั่งละ 50,000 บาท พวกตนไม่ได้มีเงิน และเป็นเซียนไก่ เงินจะไปเดิมพัน ยังช่วยกันลงขันกัน
ส่วนตนเองและนายเบ็น ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน วันเกิดเหตุตอนยกที่ 4 ไก่ของนายเบ็นเริ่มไม่สู้แล้ว กรรมการก็ตัดสิน ให้เจ้าเพชรเอกชนะ ทุกคนก็พากันดีใจ และอุ้มไก่เตรียมเดินออกไปรับเงินเดิมพัน
ระหว่างที่เดินออกไปนั้น อยู่ดีๆ ก็มีเสียงด่า ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เป็นกลุ่มของนายเบ็น ด่าให้ของลับ
จากนั้นก็เริ่มมีการชกต่อยกัน เพื่อนๆ ก็เริ่มเข้าไปช่วยเหลือและพยายามห้ามไม่ให้ทะเลาะวิวาทกันตามในคลิป แต่ห้ามไม่อยู่จึงยกพวกตะลุมบอนกันทั้งสองฝ่าย ผู้ตายพยายามเข้าไปห้าม แต่ก็ห้ามไม่ไหว ตนเองเป็นคนที่โดนเก้าอี้ฟาดลงมาที่หลัง ก่อนจะเกิดเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงมีการนำปืนเข้าไปภายในสนามชนไก่ และนายเบ็น ไม่พอใจอะไรถึงขั้นนำปืนมายิง ซึ่งคนที่โดนยิง ก็เป็นคนที่พยายามเข้ามาห้ามไม่ให้ตีกัน
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากไก่ชนของตนเอง ถือว่าเป็นไก่รอง ไม่ได้มีชื่อเสียงมา ไม่มีซุ้มใหญ่โต แต่กลับสามารถชนะไก่ของนายเบ็นที่มีเดิมพันเป็นเงินล้านมาก่อน
อีกทั้งมีรายงานว่า ภายในและนอกสนาม มีการลงเดิมพันกับการแข่งขันไก่ชนคู่นี้หลายล้าน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น เมื่อไก่ที่ตนเองหวังว่าจะชนะ สุดท้ายกับแพ้ จึงเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น
สำหรับไก่ชนเพชรเอกนั้น เป็นไก่ชนพันธุ์ธรรมดาที่ถูกเลี้ยงดูแลมาอย่างดี และชนะมาหลายสนามแล้ว แต่เป็นสนามเล็กๆ ไม่เคยลงสนามใหญ่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
หลังจากนี้ ตนจะขายไก่ชนเจ้าเพชรเอกในราคา 300,000 บาท หากใครต้องการให้ติดต่อมาได้เลย ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็จะนำไปช่วยเหลืองานศพของนายพิรุณต่อไป
-------------------------
อนุทิน ควงชาดา ตรวจบ่อนไก่มรณะ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยพร้อมทีมงาน ลงพื้นที่สนามชนไก่จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบข้อมูลการทั้งการเปิดสนามชนไก่และซักถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีการใช้อาวุธปืนก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐมเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงระยะสองเดือนที่ผ่านมา
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เราเข้มงวดเรื่องอาวุธปืน การลงพื้นที่นี้ ไม่ได้มาดูความผิดของสนามชนไก่ แต่มาดูว่าทำไมคนที่มาที่นี้ พกพาอาวุธมาก่อเหตุ อย่างอุกอาจเช่นนี้
เรื่องอาวุธปืน สำคัญมากตอนนี้คนที่มีอาวุธปืนที่ลงทะเบียนไว้แล้วก็ไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้นอกจากเจ้าหน้าที่ วันนี้ไม่ต้องมาถามว่าคนนี้มีใบ อนุญาต หรือไม่ แต่การพกมาที่สนามชนไก่ คือที่สาธารณะ ผิดอยู่แล้ว
“แล้วใครมีปืนก็อารมณ์ร้อน ซึ่งทั้งเรื่องเกิดขึ้นนั้นก็มาจากการนำไก่มาชนกัน แล้วไก่ผู้เสียชีวิตเป็นไก่รอง แต่กลับชนะ ฝ่ายที่เคยเป็นต่อก็รู้สึกไม่พอใจก็เลยมีการตะลุมบอนขึ้นมาคนก่อเหตุก็พกปืนมาด้วย วิ่งออกมาเอาปืนข้างนอกที่ซ่อนไว้ที่ตะกร้าให้น้ำไก่ แล้วเอาเข้าไปยิงจนเกิดการเสียชีวิต หลังก่อเหตุพบว่าพี่ชายพาหลบหนีไปจึงขอให้พี่ชายพามามอบตัวหนีไม่พ้นและไม่มีทางหนีตำรวจได้
และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่เราต้องมีความเป็นจำเป็นอย่างมาก ที่ใช้นโยบายป้องกันและปราบปรามอาวุธปืนต่างๆ ไม่ให้อยู่ในมือของผู้ที่ไม่มีอำนาจในการเป็นเจ้าพนักงานให้มากที่สุด
ขนาดคุมเข้มก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เรื่อยๆ การพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะผิดอยู่แล้ว ห้ามพกไปไหนมาไหน ตำรวจเจอ สามารถจับกุมดำเนินคดีได้
“ผมต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายใครถืออาวุธปืนก็เหมือนถือของร้อนไว้ในมือเพราะถ้าเรามีอารมณ์ใครขัดใจไม่ได้หรือเราไม่พอใจก็จะเกิดอารมณ์ชั่ววูบสิ่งที่ตามมาไม่ได้ทำลายชีวิตคนอื่นอย่างเดียวแต่ทำลายอนาคตตัวเองไปด้วยครอบครัวต้องเดือดร้อนและต้องมารับเวรรับกรรมอยากจะให้ใครมีปืนก็เก็บไว้ที่บ้าน”
ปืนมีทะเบียนหรือไม่มีทะเบียน ก็ไม่มีสิทธิ์พกพาเอาไปทำร้ายคนอื่นๆ ไม่ต้องไปหาช่องโหว่ เพราะวันนี้คือเรื่องผิดไม่มีทางรอด และไม่สนใจว่าเป็นลูกนักการเมืองลูกมีอิทธิพลลูกใครผมก็ไม่สนใจ ทำผิดกฏหมายก็โดน”
ทางด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ บอกว่าวัยรุ่นที่เล่นไก่ก็จะไปฝึกไก่เดิน เดินสายกับไก่ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายชาดาว่า พื้นที่นครปฐมเกิดเหตุอาชญากรรมสะเทือนขวัญและใช้อาวุธปืนหลายคดี ในระยะ1-2เดือนนี้
นายชาดา บอกว่าทางตำรวจก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีการพูดคุยกวดขันกันอย่างเป็นระบบอีกครั้งหนึ่งแต่เหตุที่เกิด บ่อยเป็นเหตุเฉพาะหน้า
ทางด้านเจ้าของสนามชนไก่ ยืนยันว่าทำทุกอย่างถูกต้องและทำตามประเพณีของบ้านเราสิ่งที่เกิดขึ้นตื้นลึกหนาบางเราไม่ทราบ เขามาเพื่อมาใช้มาใช้สถานที่เรา เราเป็นผู้ประกอบการเราก็ต้อนรับทุกคนแต่ด้วยความที่สิ่งของที่นำมาทำผิดเราคาดการณ์ไม่ถึง
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/BJWbinW-3Do
แท็กที่เกี่ยวข้อง บ่อนไก่ ,ไก่ชน ,นครปฐม ,อนุทิน ชาญวีรกูล ,ชาดา ไทยเศรษฐ์