อาชญากรรม

รวบบัญชีม้าแก๊งคอลฯ หลอกเป็นตำรวจ ตุ๋นเงิน 1.4 ล้าน สารภาพรับจ้างเปิดบัญชีละ 1,500 บาท

โดย chutikan_o

12 ก.ย. 2567

71 views

ตำรวจรวบบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อว่าเป็นตำรวจ ตุ๋นเงินกว่า 1.4 ล้าน สารภาพรับจ้างเปิดบัญชีละ 1,500 บาท

ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกันจับกุม น.ส.วารี อายุ 44 ปี บริเวณริมถนนในซอยพหลโยธิน 113 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับ ดังนี้

1. หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 489/2567 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคใดบุคคลหนึ่ง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

2. หมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ จ.123/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

3. หมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 98/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สนับสนุนในการกระทำผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยทุจริตหรือหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดการเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาเพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด”

4. หมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.402/2567 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด, เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า มีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งโทรมาหาผู้เสียหายและแจ้งผู้เสียหายว่าได้เปิดบัญชีกับธนาคารไว้และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จากนั้นให้โอนสายไปคุยกับบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งว่าให้โอนเงินมาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปรวมจำนวนกว่า 1,400,000 บาท จนเมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านพักในซอยพหลโยธิน 113 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งพบผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมผู้ต้องหา จากนั้นจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้บัญชีของผู้ต้องหาหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน จนเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับอีก 3 หมายจับ

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยรับค่าจ้างในการเปิดบัญชี บัญชีละ 1,500 บาท

คุณอาจสนใจ

Related News