อาชญากรรม

‘ปู-หาญส์’ แจง ปมเงิน 2 ล้าน ยันพร้อมใช้หนี้ ลั่น ดำเนินคดีทุกคนทำให้เสียชื่อเสียง

โดย olan_l

4 ก.ค. 2567

59 views

วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่สน.ทองหล่อ น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ลูกหมี และลิลลี่ เหงียน เดินมา สน.ทองหล่อ เพื่อรอเจรจา น.ส.มัณฑนา หิมะทองคำ หรือ ปู และ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ

จากนั้นเวลา 14.00 น. น.ส.มัณฑนาและนายภักดีหาญส์ พร้อมทีมทนายความนำโดย นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช หรือทนายประมาณ และ น.ส.ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช หรือ ทนายกิ่ง

ต่อมาเวลา 15.25 น. ทนายประมาณ แถลงข่าวว่า ยอดหนี้วันนี้ เมื่อเทียบลูกหมีโอน และ คุณปู โอนกลับไปมา เหลืออยู่ 1.4 ล้านบาท ปัญหาคือ คุณทำลายชื่อเสียงไปขนาดนี้แล้ว จะชดเชยอย่างไร? ไม่เอาความจริงมาพูด ไปโกหกประชาชน จนกระทั่ง คุณปู กลายเป็นอาชญากร เสียหายมาก ตลอดระยะเวลามกราคม-กุมภาพันธ์ ก็เก็บทั้งต้นทั้งดอกมาตลอด เมื่อถึงเดือนเมษายน คุณปูถูกเพื่อนโกง เงินขาดมือ ไม่ใช่เหตุที่ไม่ใช่ชำระหนี้ แต่เป็นเหตุที่เจ้าหนี้ลูกหนี้ถ้อนทีถอดอาศัย ไม่ใช่มาแจ้งความเลย และจำนวน 2 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่มูลหนี้ที่มีอยู่จริง ไม่เกี่ยวกับมูลหนี้ทางคดีอาญา แต่ที่ตนไล่มามีดอกเบี้ยผิดกฎหมายรวมอยู่ในนั้นด้วย

วันนี้จำเป็นที่ต้องพาคุณปูมา สน.แห่งนี้ พร้อมยื่นข้อเสนอว่า 1.4 ล้านบาท คุณหาญส์และปู พร้อมรับผิดชอบ แต่ปัญหาที่คุณประจานจนสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง จะรับผิดชอบอย่างไร ส่วนวันนี้การพูดคุยยังไม่มีข้อสรุป ดังนั้นวันนี้ จะแจ้งความหมิ่นประมาท และฟ้องร้อง กับคู่กรณี และคนที่เมนต์ในโซเชียล

ด้านนายภักดีหาญส์ กล่าวว่า คนเรามีหนี้จำเป็นต้องใช้ เพียงแต่ว่า วงเงินหนี้ที่เขาบอกว่า 2 ล้านบาทนั้น ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าเรียกว่าเรื่องนี้เป็นคดี เพราะยังไม่ได้เป็นคดี แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นสามารถประนีประนอมได้ ถ้าไม่ได้ค่อยมาว่ากัน ที่เราขอเลื่อนรับไปเพราะตนยังไม่พร้อม และตนเพิ่งมาทราบเรื่องจากคุณปู เมื่อทราบสิ่งที่ตนทำคือ ตั้งแต่ง บริษัท u summit group ขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องเงินทั้งหมด มีอะไรมาพูดคุยผ่านทางนี้ได้เลย และเราจะดำเนินการให้ ดังนั้นใครที่มีปัญหาเกี่ยวข้องกับคุณปู สามารถติดต่อได้เลย แล้วตนจะให้

“เมื่อทราบเรื่อง ผมบอกให้ปูรีบโทรหาลูกหมีทุกช่องทาง แต่โทรไปไม่รับ ไลน์อ่านไปตอบ เขายังมาอ้างว่าผมรับรู้เรื่องทุกอย่างของปู แต่ผมเพิ่งเคยเจอหน้าคุณ 2 ครั้ง พูดคุยไม่เกิน 10 คำ แต่คุณมาแอดไลน์ผม และส่งบันทึกประจำวันมาให้ ข้อมูลที่เขาพูด เขาจะหยิบมาบ้างส่วนที่พูดแล้วให้ตัวเองดูดี เขาพูดวันนั้นว่าไม่มีดอกเบี้ย แต่ข้อมูลที่มีอยู่ ผ่านไป 2 ชั่วโมง เรียกเงิน 2 พัน ถ้าบอกว่าเอาเงินตรงนั้นมาลงทุน บอกอาชีพผมหน่อยว่าคืออะไร ผมจะได้มาลงทุนบ้าง เราไม่เคยบอกให้ไปลงทุนอะไรเลย สิ่งนี้คือดอกเบี้ยอย่างเห็นได้ชัด แต่คุณไปบอกว่าคิดดอกเบี้ยไม่เป็น แต่ในไลน์ก็เห็นชัดแล้ว คุณจะรับผิดชอบอย่างไร” นายภักดีหาญส์ กล่าว

“ผมโมโห คือ เป็นเรื่องระหว่างปู และลูกหมี พอมาฟ้อง คนที่กระทบ 3 คน คือ ลูกตน 3 คน บรรลุนิติภาวะ 1 คน อีก 2 คนเรียนหนังสือ ลูกเจอคำถามว่า “แม่จ่ายเงินหรือยัง” เอาลูกตนมายุ่งทำไม ตระกลู “หิมะทองคำ” มี 200-300 คน ก็ได้รับความเสียหาย ถ้าเรื่องวันนี้ ภรรยาผมไม่มีงานเพราะเรื่องที่ลูกหมีไปพูดและเป็นความเท็จ จะรับผิชอบอย่างไร ตระกูลตนเสียหาย ผมขอความเป็นธรรมด้วย วันนี้ยังไม่เป็นคดีความ วันนี้มาไกล่เกลี่ยและมารับทราบข้อกล่าวหา แต่วันนี้โซเชียลมีเดียกระจายไปแล้ว ตนจะไล่ฟ้องรายตัว” นายภักดีหาญส์ กล่าว

ด้านน.ส.มัณฑนา กล่าวว่า เริ่มต้นรู้จักในเพื่อนๆ จากเพื่อนที่ตีกอล์ฟ ตนได้คุยกันแล้วเขาบอกปัญหาของเขาว่าไม่มีงานทำเลย ไม่มีงานละคร และมีนักเรียนที่เรียนเดินแบบ 2-3 คนเท่านั้น มีค่าใช้จ่ายกับพ่อแม่ แฟนก็เลิก ซึ่งเขามาคุยกับตนว่าได้ปล่อยเงินกู้กับร้านแว่น และได้ดอกเบี้ย 10% 15% 20% ซึ่งร้านแว่นไม่ได้จ่ายเงินมาหลายเดือนและเขาได้ดำเนินการแจ้งความแล้ว นอกจากนี้ เขามีฝากเงินเพื่อนชื่อ ก. และ อ. ลงทุนเกี่ยวกับหุ้น ซึ่งเขาบอกว่าถ้าตนมีงานอะไรเพื่อมีรายได้เพิ่มเติมให้บอกตน ตนจึงช่วยเหลือเขา พาเขาไปคุยกับผู้ใหญ่ พูดคุยเรื่องละคร พาเขาไปหาคอนเนคชั่นทุกอย่าง

นอกจากนี้แนะนำเพื่อนให้ทำธุรกิจร่วมกัน ตนให้เขาคุยกันเองเลย ซึ่งเขาไม่อยากคุยโดยตรงกับเพื่อนของตน ขอให้เป็นระหว่าง “พี่ปูกับเขา” แล้วกัน ถ้าพี่ปูไปทำธุรกิจอะไร ก็ให้ส่งดอกกับลูกหมี 2 คน เพื่อจะไม่ต้องไปคุยหลายคน และเพื่อความสบายใจ ขอเช็คของตนค้ำประกันเอาไว้ ตนให้ทุกอย่าง และวันที่ 2 มีนาคม เขาให้เซ็นสัญญาเงินกู้ โดยบอกว่า ให้เซ็นชื่อไว้เฉยๆ ให้กระดาษเปล่ามาให้เท่านั้น และไม่ต้องระบุดอกเบี้ยอะไร เพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวจะผิดกฎหมาย เขาจะดำเนินการเอง และวันที่ 18 มีนาคม เขาให้ตนส่งสัญญาเงินกู้นี้ไว้ และต่อมาเขาแจ้งความตนว่าขาดส่งดอกเบี้ย 1 วัน

เมื่อถามว่า เป็นการยืมเงินหรือไม่ ปู มัณฑนา กล่าวว่า ตนช่วยเขาเพื่อหาเงิน เพราะเขามาขอความช่วยเหลือ ส่วนทำไมถึงตกมาเป็นลูกหนี้ได้นั้น ก็เขาไม่ยอมคุยกับเพื่อนของตน ที่ตนแนะนำทำธุรกิจไป เขาขอมาคุยกับตน และขอเช็คตนค้ำประกันเพื่อเป็นหลักประกัน และสัญญาเงินกู้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนก็ทำตามนั้น ซึ่งตนเคยของเขามาว่ามีทำธุรกิจอะไรบ้าง ซึ่งเขาไม่สนใจว่าตนไปทำธุรกิจอะไร เพียงแต่มองว่าเป็นเรื่องกู้ยืมเงินระหว่างกัน

“ยอดหนี้ที่ค้างอยู่ยังไงต้องใช้อยู่แล้ว แต่ทุกสิ่งที่เขาทำกับปู กับลูก กับครอบครัวปู  ทั้งนี้ ตนยังไม่เคยบอกว่าจะไม่ใช้ เขาส่งตัวแทน ส.ส.ท่านหนึ่งมาคุยกับปู ในเรื่องของหนี้ที่เหลือ และในระหว่างนั้น ช่วงเดือนเมษายน ปูโดนโกงที่ดิน 100 ล้านบาทพอดี ซึ่งตนบอกว่าจะนำที่ดินไปขายฝาก เพื่อให้ได้ยอดเงิน 2 ล้าน ซึ่งตอนนั้นตนพร้อมคืนทั้งก้อน แต่เขากลับไปแจ้งความก่อน และเขาเอาปูพูดกับพรรคการเมืองหลายพรรคมาก ว่า เมียหาญส์ เช็นต์เช็คเด้ง 2 ล้านบาท ทุกคนเอาไปนินทา เอาไปเม้าท์ พร้อมกับไปพูดกับ ส.ส. ไปพูดกับผู้ใหญ่ระดับพลเอก ระดับรัฐมนตรีด้วย ส่วนเช็คเด้งนั้น เป็นเช็คค้ำประกันเพื่อความสบายใจ เขาให้เขียนอะไร ก็เขียนหมดทุกอย่าง ตนจริงใจกับเขา ในระยะเวลา 4 เดือน ตนหาเงินให้เขา 6 แสนบาท ตนเขาโรงพยาบาล 5 ครั้ง น้ำหนักลงไป 6 กิโล ก็เพราะเขา” น.ส.มัณฑนา กล่าว

ส่วนจะฝากอะไรถึง ลูกหมีหรือไม่ ปู มัณฑนา กล่าวว่า ทุกสิ่งที่อย่างที่ทำกับพี่ปู และลูก และครอบครัว จะดำเนินคดีทุกคนให้ถึงที่สุด เวรกรรมมีจริง

คุณอาจสนใจ

Related News