“หมิว พรปวีณ์” โพสต์หลังคุย “ธรรมนัส-ผู้ว่าฯ กกท.” หวังวงการแบดมินตันไทยเปลี่ยนแปลง

“หมิว พรปวีณ์” โพสต์หลังคุย “ธรรมนัส-ผู้ว่าฯ กกท.” เผยรู้สึกมั่นใจและอบอุ่นใจมากขึ้น ยันยินดีรับใช้ชาติ แต่สมาคมแบดมินตันต้องเปลี่ยนแปลงระบบการบริหาร เชื่อเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต

จากกรณีที่นางสาวพรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ หรือ หมิว พรปวีณ์ นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทยมือ 1 ได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และถูกตัดเบี้ยเลี้ยง ก่อนที่จะมีการเข้าไปพูดคุยกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหา จากนั้น หมิว พรปวีณ์ ก็เปลี่ยนใจลุยแข่งซีเกมส์ต่อนั้น

ล่าสุด หมิว พรปวีณ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าว ระบุข้อความว่า วันนี้หมิวได้มีโอกาสเข้าพบคุณอาธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล

ในการเข้าพบครั้งนี้ หมิวได้พูดคุยและปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างหมิวกับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย โดยได้เปิดใจเล่าถึงหลายประเด็นให้ท่านได้รับทราบ ซึ่งทุกท่านได้ให้ความสนใจ รับฟัง และเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้ง

หมิวได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในการเรียกร้องสิทธิ์ในครั้งนี้ว่า “หมิวยินดีรับใช้ชาติ แต่สมาคมแบดมินตันต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารของคณะกรรมการชุดนี้”

การได้พูดคุยกับผู้ใหญ่หลายท่านในวันนี้ ทำให้หมิวรู้สึกมั่นใจและอบอุ่นใจมากขึ้น ทุกท่านได้ให้กำลังใจ และขอให้หมิวกลับมาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอีกครั้ง

นอกจากนี้ ท่านยังได้รับปากว่าจะมีการจัดตั้ง “ทีมตรวจสอบและพัฒนา” ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเข้ามาดูแลและตรวจสอบการทำงานของสมาคมโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อได้ฟังรายชื่อแล้ว หมิวเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่า จะเป็นทีมที่ทำงานด้วยความยุติธรรม โปร่งใส และเที่ยงตรงอย่างแท้จริง

พร้อมกันนั้น ยังมีคำสั่งจากท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรี และท่านผู้ว่าฯ กกท. ถึงสมาคมแบดมินตันฯ ว่า “สมาคมไม่สามารถทำตัวเสมือนเป็นสโมสรได้ ขอให้รีบดำเนินการแก้ไขโดยด่วน และต้องดูแลนักกีฬาทีมชาติทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน”

มาถึงตอนนี้ หมิวรู้สึกพอใจในสิ่งที่ได้ทำเพื่อวงการที่หมิวรักอย่างสุดหัวใจ และเชื่อว่านี่อาจเป็น “จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ” ของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในอนาคต

หมิวขอยืนยันอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของหมิวในครั้งนี้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ และการตัดสินใจกลับมาเล่นของหมิว ไม่ได้เกิดจากความกลัว หรือการถูกบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เกิดจากการที่ผู้ใหญ่ทุกท่าน “รับฟัง” และ “ตั้งใจจะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง” เพียงเท่านี้ หมิวก็ดีใจมาก ๆ แล้วค่ะ

สิ่งเดียวที่หมิวต้องการ คือ การเห็น “ความยุติธรรม” และ “การพัฒนาที่แท้จริง” ในวงการแบดมินตันไทย

ต่อจากนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของสมาคมในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และหมิวขอให้ทุกคนร่วมติดตาม และเฝ้าดูการทำงานของสมาคมต่อไป

สุดท้ายนี้ หมิวขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่านจากใจจริง ที่ให้โอกาส รับฟัง และเมตตาหมิวในวันนี้ค่ะ