มองอย่างเพชร EP.13 เอาช้างมาฉุดก็หยุดไม่อยู่ ‘เออร์ลิง ฮาแลนด์’ จะหยุดยิงกี่โมง

เกินไปมากกก ไปเล่นคนเดียวเลยเพื่อนไม่อยากเล่นด้วยแล้ว! สำหรับ "หลานยายชา-จอมมารบู" เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่มาถึงก็เริ่มเลยนะ เอาเลยหรอ 

เพราะพรีเมียร์ลีกเพิ่งเปิดฉากแค่ 3 นัดพี่แก็ก็จัดดับเบิลแฮตทริกไปแล้ว ซัดแฮตทริกไป 2 นัดรวด เกมชนะ อิปสวิชและเวสแฮมต์ รวม 3 นัดยิงไป 7 ประตู ยิงเยอะกว่า “แมนยู” ทั้งทีมยิงรวมกันอีก   

นั่นเลยทำให้ เขากลายเป็น นักเตะคนแรกที่ยิงได้ 7 ประตูจากการลงเล่นแค่ 3 นัด  รวมก็ยิงไปแล้ว 70 ลูกจาก 69 นัดของพรีเมียร์ลีก คือค่าเฉลี่ยยิงนัดละมากกว่า 1 ประตู เล่นไป 102 นัดให้แมนฯซิตี้ ยิงไป 97 ประตูแล้ว

และจนถึงตอนนี้ 69 นัดในลีก เขาทำไปแล้ว 8 แฮตทริก มีลุ้นทำลายสถิติ ซัดแฮตทริกเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แซงหน้ากองหน้ารุ่นพี่อย่าง “กุน อเกวโร่” ที่ทำไว้ 12 แฮตทริก จากการลงเล่น 275 นัด  

ดูท่าว่าดีไม่ดี จะทำลายสถิติได้ในซีซั่นนี้เลยด้วย ทำเป็นเล่นไป เพราะยังเหลือเกมให้เตะอีกถึง 35 นัด กับอีก 5 แฮตทริก ระดับจอมมารบู จะทำไม่ได้จริงๆหรอ  เพราะด้วยฟอร์มตอนนี้มันเกินไปมาก นี่มันปีศาจชัดๆ ไม่ใช่มนุษย์เดินดินแล้ว

ส่วนเหตุผลที่ฟอร์มปังขนาดนี้ ฮาแลนด์บอกว่า เพราะเขาได้หยุดยาว ได้พักอย่างเต็มที่ในช่วงปรีซีซั่น คือไม่ต้องไปกรำศึกเล่นฟุตบอลยูโรหรือบอลอเมริกาใต้แบบสตาร์คนอื่นๆ พอได้พักเท้า พักกาย พักใจ เครื่องยนต์ก็เลยเต็มสูบฟิตพร้อมลุย

เคยมีคนกล่าวว่า เก่งมาจากไหน ลองมาเล่นพรีเมียร์ลีกดู มันไม่ง่าย จะมายิงถล่มทลายที่นี่ไม่ได้ แต่นายคนนี้ “ฮาแลนด์” เขาได้ทำลายกฎเหล่านั้น ไปเรียบร้อยแล้ว เขากำลังทำให้พรีเมียร์ลีกกลายเป็นลีคบอท อะไรๆก็ง่ายไปหมด ยิงเป็นตุง ไม่มีอะไรจะหยุดเขาได้

แม้แต่ “เป๊บ กวาร์ดิโอล่า” ยังเอ่ยปากเลยว่า “แม้แต่ปืนก็หยุดเขาไม่ได้ ไม่มีอะไรหยุดเขาได้ทั้งนั้น”  

แต่อันนี้แฟนบอลหลายคนขอเถียงนะ ทำไมจะไม่มี มีสิ ก็เป๊บไง คนเดียวที่จะหยุด เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ได้ ก็คือ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า คุณนั่นแหละ คุณคนเดียวเท่านั้น

ฟอร์มยอดเยี่ยมของฮาแลนด์ ทำให้หลายคนพูดถึงเรื่องการคว้าบัลลงดอร์แล้วว่า เขาสามารถขึ้นแท่นเป็นตัวเต็งได้เลย มันต้องถึงเวลาของเขาสักทีแล้วมั้ย  ผลงานระดับสโมสรไม่มีอะไรคาใจกับความยอดเยี่ยมของกองหน้าวัย 24 ปี แต่ปัญหาอยู่ที่ผลงานกับทีมชาตินี่แหละ ที่เขาอาจจะเสียเปรียบนักเตะคนอื่นๆ อย่าง วินิซิอุส จูเนียร์, เอ็มบัปเป้ , จู๊ด เบลลิ่งแฮม หรือ โรดรี

ดังนั้นเพื่อทดแทนตรงนี้ เขาจำเป็นต้องทำผลงานส่วนตัวและสโมสรให้ปังยิ่งกว่าเดิม คือ ต้องเอาให้ขาด กวาดแชมป์แบบไม่ค้านสายตา ไม่มีข้อกังขา ไม่มีคำถาม

เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า คนที่คว้าบอลลงดอร์หลายๆคนในอดีต ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา ผลงานทีมชาติก็เป็นส่วนหนึ่ง ไม่มากก็น้อยในการได้คะแนนโหวต

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่เคยมีคนที่ปังกับแค่สโมสร แล้วได้บัลลงดอร์เลยนะ  กรณีแบบนี้ก็มีค่ะ นั่นก็คือ “จอร์จ เวอาห์” ดาวยิงเปแอสเช ทีมชาติไลบีเรีย ที่ได้บัลลงดอร์ในปี 1995  

ดังนั้น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ก็มีโอกาสแน่นอน แม้ช่วงเวลาที่เขาจะได้เฉิดฉายกับทีมชาติมีไม่มากนัก เพราะก็ต้องยอมรับว่า นอร์เวย์ไม่ใช่เบอร์ต้นๆของยุโรป ที่ผูกขาดการได้เข้าไปเล่นบอลยูโร และบอลโลกรอบสุดท้าย    

แต่ถ้าหาก วัดกันที่ผลงานส่วนตัวและส่วนรวมกับสโมสรดีมาก ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ จะชนะใจเหล่าโหวตเตอร์ ให้คว้ารางวัลบัลลงดอร์มาครอง

ต้องมาลุ้นกันว่าปีนี้ เขาจะสังหารไปกี่ประตู จะพาซิตี้คว้ากี่แชมป์ แล้วจะทุบสถิติอะไรอีกบ้าง แต่ยังไงก็แล้วแต่ ณ วันนี้ ตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆค่ะว่า เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ คือกองหน้าเบอร์ 9 ที่ดีที่สุดในโลก