‘หนุ่มเมืองจันท์’ ชม กทม.แปรปัญหาเป็นความสนุก ชวนคนเล่นเปลี่ยนข้อความป้าย Bangkok

วานนี้ (30 พ.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุ "เรื่องสวยหรือไม่สวยนี่ผมว่าแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับ

แต่แค่เสียดายว่าถ้าต้องจ้างออกแบบ 3 ล้านบาท กลับกันเอามาเป็นรางวัลแล้วให้คนออกแบบแข่งกัน จะน่าสนุกและเห็นภาพหลากหลายมากขึ้น เดี๋ยวนี้ศิลปินเก่งๆ เยอะมากครับ…คนจะได้มีส่วนร่วมกับเมืองที่เค้าอยู่ #กรุงเทพฯดีกว่านี้ได้"

ต่อมาได้โพสต์อีกว่า "จากโพสต์ที่แล้วอาจจะเข้าใจผมผิดว่าเน้นไปที่ 3 ล้านบาทมันแพง…ผมว่านั่นเป็นเรื่องรองครับ เข้าใจครับว่าแพคเกจ 3 ล้าน มันมีหลายอย่างที่ผ่านกระบวนการคิดที่ไม่ใช่แค่สติกเกอร์

ส่วนศิลปะก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน บางคนอาจจะมองว่าสวยอีกคนอาจจะเห็นต่างก็ได้ คุณค่าทางศิลปะก็ตีค่าเป็นเงินได้ยาก ไม่งั้นคงไม่มีคนเสียเงินซื้อภาพวาดราคาเป็นหลายล้านบาทโดยไม่เสียดายเงิน เอาจริงๆ ผมว่าที่ออกแบบมาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร ก็สวยในแบบของมัน สีสันสดใส

แต่ที่ผมติดก็คือการออกแบบอย่างนี้ น่าจะเปิดโอกาสให้นักออกแบบเก่งๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย ได้มีโอกาสออกแบบแข่งขันกัน และมีส่วนร่วมกับเมืองที่เขาอาศัยอยู่ ลองคิดดูสิครับว่ามันจะน่าสนุกแค่ไหนที่นักออกแบบจะได้โชว์ของแข่งกัน ผู้บริหาร กทม. ก็จะได้เห็นไอเดียที่หลากหลาย และถึงแม้ผลงานออกแบบส่วนมากจะไม่ชนะ แต่ผลงานเหล่านั้นก็อาจจะเอาไปใช้ในด้านในอื่นที่เกี่ยวเนื่องในงานของกรุงเทพมหานครก็ได้ ผมแค่อยากเห็นการมีส่วนร่วมของคนกับเมืองครับ  #กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้"

ขณะที่ นายสรกล อดุลยานนท์ หรือ คอลัมน์นิสต์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "หนุ่มเมืองจันท์" โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ "แปร “ปัญหา” เป็น “ความสนุก”  หลังจากเกิดดราม่าเรื่องป้าย “กรุงเทพ-Bangkok” เมื่อวานนี้ว่าแบบใหม่สวยสู้แบบเก่าไม่ได้พื้นสีเขียวเหมือนสีรถขยะกทม. ฟ้อนท์เชย ไม่สวย และอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็มีบางส่วนที่เห็นต่าง มองว่าป้ายใหม่สวยกว่า

ในฐานะคนที่มีความรู้ด้านศิลปะระดับที่ตั้งคำถามตลอดเวลาว่าภาพ “โมนาลิซ่า” สวยตรงไหน ผมไม่กล้าฟันธงว่าป้ายใหม่สวยหรือไม่สวยกว่าป้ายเก่า แต่รู้เพียงว่าบริษัทฟาร์มกรุ๊ปที่ออกแบบป้ายนี้เป็นบริษัทที่มีฝีมือ  มีผลงานที่ได้รับการยอมรับในวงการ  ถ้าใครจำภาพสัญลักษณ์ Apple ตอนที่จะเปิดตัว Apple store ในเมืองไทยที่ทำรูปแอปเปิลโดนกัด ให้เป็นตัวอักษรภาษาไทย “อ”เท่มาก…

นั่นก็ฝีมือ “ฟาร์มกรุ๊ป” เวทีราชดำเนิน ไทยลีก ฯลฯ ก็ฝีมือเจ้านี้ แม้ว่าในแวดวงการออกแบบเขายอมรับฝีมือบริษัทนี้  แต่ไม่ได้หมายความว่างานที่ออกมาทุกงานจะได้รับเสียงปรบมือ อย่างเช่น ป้าย “กรุงเทพ-Bangkok” ป้ายนี้

ผมเพิ่งได้อ่านบทสัมภาษณ์ขนาดยาวมากกก..ของทีมงานที่พูดถึงวิธีคิด "ฟอนต์เสาชิงช้า" และการออกแบบ brand identity ของกทม. ต้องยอมรับว่าคนกลุ่มนี้คิดละเอียดจริงๆ ต่อไปเขาจะต่อยอดออกมาเป็นบิลบอร์ด เสื้อ ถังขยะ ถุง  ป้ายห้อยคอฯลฯ และอาจแปลงกายเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวซื้อกลับบ้านเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวของต่างประเทศ แต่ไม่ว่าจะคิดละเอียดแค่ไหน  รสนิยมเรื่องความสวยความงามของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันเหมือนผมที่สงสัยจนถึงทุกวันนี้ “โมนาลิซ่า” สวยตรงไหน

ต้องยอมรับว่ากระแสดราม่าเมื่อวานนี้แรงมาก  และส่วนใหญ่ออกมาในแง่ลบ แทนที่กทม.และทีมงานจะออกมาตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เขากลับพลิกเกมใหม่

“ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปเดินชมป้ายและสอบถามความคิดเห็นของคนที่เดินผ่านไปมาว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เขาบอกว่าเราต้องยอมรับความเห็นที่แตกต่าง เป็นความหลากหลายเหมือนกับคอนเซ็ปท์ของป้ายกทม. นอกจากนั้น “ศานนท์ หวังสร้างบุญ“ รองผู้ว่าฯกทม.ชวนคนมาเล่นเปลี่ยนข้อความบนป้ายพื้นเขียวโดยใช้ฟอนต์ “เสาชิงช้า” เหมือนกับป้าย กรุงเทพ-Bangkok เปิดเว็ปให้เล่นอย่างเป็นทางการ แบบนี้ก็สนุกสิครับ

สินค้าต่างๆก็โฆษณาสินค้าตัวเอง  บางคนก็เขียนความสนุกๆ หามุขขำๆมาเล่น กลายเป็นไวรัลทันที สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ กระแสดราม่าเรื่อง “สวย-ไม่สวย” เบาลง

คนส่วนใหญ่หันมาสนุกกับการใช้ “ฟอนต์เสาชิงช้า” เล่นคำบน “พื้นเขียว” พอเกิดกระแสไวรัล คนก็จะเห็น ”ฟอนต์เสาชิงช้า“ กับ “พื้นเขียว” เรื่อยๆ เห็นซ้ำ-เห็นซ้ำ-เห็นซ้ำ วันนี้วันเดียวเห็นไม่รู้กี่รอบแล้ว เพียงแค่วันเดียว จาก “สิ่งแปลกใหม่” ก็กลายเป็น “สิ่งที่คุ้นชิน”

ครับ “ความรัก” บางทีก็ขึ้นอยู่กับ “เวลา” ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมนึกถึงโลโก้ “เจ้าจำปี” ของ “การบินไทย” ในยุคแรกๆถูกล้อเลียนมาก แต่พอเห็นบ่อยๆ อยู่กับมันนานๆ “เจ้าจำปี” ก็สวยขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับ “ภรรยา” ของเรา อยู่กันมานานก็ยิ่งสวยขึ้นทุกวัน

…จบเรื่องได้งดงามจริงๆ 555"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AFJfQuaWHeg