ข่าวโซเชียล

คุมเพลิงได้แล้ว! ไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟ รพ.พระมงกุฎเกล้า จนท.เร่งเคลื่อนผู้ป่วยออกจากอาคาร

โดย chiwatthanai_t

23 ก.ค. 2566

424 views

วันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ผู้ใช้ทวีตเตอร์ ศูนย์วิทยุพระราม199 ได้รายงานการเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยได้โพสต์ข้อความว่า "วันที่ 23 กรกฎาคม 2566 เวลา 18.18  น. รับแจ้งจากสายด่วน 199 เหตุไฟฟ้าลัดวงจร อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไทกำลังไปที่เกิดเหตุ


เวลา 18.35  น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจร อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไทถึงที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบ


เวลา 18.38  น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจร อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตรวจสอบแล้วเป็นไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการใช้น้ำ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้


เวลา 18.58 น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มควันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเด็กออกจากตัวอาคาร (ข้อมูลจากห้องวิทยุ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า)


เวลา 19.03 น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ขณะนี้เพลิงสงบ ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวอาคาร


เวลา 19.06 น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพิ่มเติม นำพัดลมระบายควันเข้าพื้นที่เกิดเหตุ และ ชุดปฏิบัติการภายในอาคารเข้าดำเนินการ


เวลา 19.19 น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเนื่องจากแกนอุปกรณ์ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าด้านใน ไม่สามารถใช้น้ำฉีดดับได้ทันที ต้องทำการใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยงทำให้ยังคงมีกลุ่มควันอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการระบายควันออกจากตัวอาคาร


เวลา 19.24 น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพิ่มเติม ขณะนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ได้ทำการอพยพผู้ป่วยวิกฤตจากชั้น 2-4 เข้ามายังอาคารเฉลิมพระเกียรติ (ข้อมูลจากห้องวิทยุ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า)


เวลา 19.35 น. เหตุไฟฟ้าลัดวงจรตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า อาคารพัชรกิติยาภา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากอุปกรณ์ด้านในยังคงมีความร้อนสะสม เจ้าหน้าที่ต้องทำการใช้น้ำ และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง"

คุณอาจสนใจ

Related News