สังคม

เหยื่อรับน้องโหด เผยกฎรุ่นพี่-รุ่นน้อง ฝังหัวให้ล้างแค้นอริ อ้างไม่กลัวมีแบ็ก ตร.ใหญ่

โดย weerawit_c

18 ส.ค. 2567

447 views

กันจอมพลัง บุกทลายซุ้ม องค์กรเถื่อนรับน้องโหด รุ่นน้องผวาเจอรุ่นพี่ล่าตัว ต้องออกจากรพ.หนี เปิดกฎรุ่นพี่-รุ่นน้อง ฝังหัวล้างแค้นอริ อ้างไม่กลัวมีแบ็ก ตร.ใหญ่ พบมีด 3 เล่ม


จากกรณีวันที่ 15 ส.ค.67 เวลา 17.00 น. นายโต้ง อายุ 54 ปี และ น.ส.ก้อย อายุ 39 ปี พ่อและแม่ของ "น้อง ไตเติ้ล" อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านจังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งความ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องโหดทำร้ายลูกชาย หลังจากลูกชายไปขอลาออกจากการเข้าระบบการรับน้อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.กรมชลประทาน ขณะที่นายโต้งคุณพ่อเองก็ถูกกลุ่มนักศึกษาทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ต่อหน้ารองอธิการบดี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่เกรงกลัวกระทืบนายโต้งกับลูกชายก่อนหลบหนีออกจากมหาวิทยาลัยหลังก่อเหตุ


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (17 ส.ค.) กันจ อมพลัง พร้อมด้วยพ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้พาน้องเติ้ล และครอบครัว ลงพื้นที่บริเวณ ซอยเปลี่ยวข้างป้ายรถเมล์หมู่บ้านธนาสิริ รัตนาธิเบศร์ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี


ซึ่งบริเวณด้านในเป็นพื้นที่กว้างเป็นป่ารกร้าง ที่ทางรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยดังกล่าวจะพารุ่นน้องกว่า 50 คนรับน้องหลังเลิกเรียน บริเวณด้านในจะเป็นทางเดินเข้าไปประมาณ 20 เมตร จะพบว่ามีผ้าใบสีน้ำเงินกั้นเป็นซุ้ม บนพื้นพบขวดเหล้าขาวตกอยู่จำนวนหลายขวด และลังกล่องเหล้าขาว ถัดไปพบกระป๋องสเปรย์สีแดงตกอยู่ 2 กระป๋อง ห่างไป 3 เมตร พบกล่องลังกระดาษของสเปรย์วางอยู่อีก 1 ลัง ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบอาวุธมีดหัวตัดขึ้นสนิมตกอยู่จำนวน 2 เล่ม และอาวุธมีดงออีก 1 เล่ม รวมจำนวน 3 เล่ม ตกอยู่ในสถานที่ดังกล่าว


ด้าน กันจอมพลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ออกจากโรงพยาบาลด่วน หลังจากน้องได้รับแจ้งว่ามีคนจะตามหาน้องที่โรงพยาบาล โดยน้องเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่เด็ก และใช้วิธีการรับน้อง ถ้าไม่ทำตามก็จะต่อย เตะ แล้วให้บอกว่า “ขอบคุณครับ” อย่างเดียว บอกให้น้องเลิกคบเพื่อน แต่ถ้าน้องทำไม่ได้ก็จะถูกรุมต่อย รุมเตะ ยึดบัตรประชาชนบังคับให้พาไปที่บ้าน บอกว่ากูรู้บ้านมึงอยู่ไหน ถ้ามึงไม่ทำตามเดี๋ยวกูจะสังหารมึงทั้งครอบครัว


ทั้งนี้ยังมีการพาน้องไปสถานที่ที่เรียกว่าศูนย์ฝึกกลางแจ้ง ศูนย์ตรงนี้ก็เป็นที่ที่โดนเอามาต่อยเอามาเตะกัน แล้วให้น้องฝึกแบบทหาร ใครทำไม่ได้จะถูกเอาสเปรย์พ่นจุดเผาตามตัว มีรุ่นพี่กระทำรอบละ 10 คน ตอนเผาทุกคนต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมด ปิดตามัดตา


กลุ่มนี้ตนบอกเลยมันไม่ใช่แก๊งทะลุถุงธรรมดาแล้ว มันเป็นพวกแก๊งอาชญากรย่อมๆ เพราะมีเงินกองกลาง มีการเก็บเงินกองกลางกันเป็นรายอาทิตย์ แล้วเวลาใครมีปัญหาก็จะเอาเงินนี้คอยช่วยเหลือ หลังจากที่น้องเขาถูกกระทำต่างๆ นานาจนเขาทนไม่ไหว เขาก็เลยบอกพ่อบอกแม่ เขาก็พาไปลาออกที่โรงเรียน แต่แก๊งนี้ไปดักรุมกระทืบพ่อกระทืบน้องที่โรงเรียนจนพ่อกับแม่ต้องก้มกราบเท้าขอชีวิต นี้คือมันเถื่อน


กันจอมพลัง กล่าวต่อว่า อีกอย่างหนึ่งข้อมูลที่ได้มาต้องฝากถามมหาวิทยาลัยว่า คนที่เป็นหัวโจกรุมซัดเขายังเป็นนักศึกษาของสถาบันอยู่หรือไม่ ถ้าเขาไม่ใช่นักศึกษาสถาบันนี้ แต่เขาใส่ชุดนักศึกษาไปกระทืบผู้ปกครอง ทำร้ายคนอื่นได้ในมหาวิทยาลัยท่าน ถามว่าหละหลวมไหม วันนี้มีมาตรการอะไรออกมาหรือยัง ท่านบอกว่าเรื่องตรงนี้ไม่ได้สนับสนุน แต่น้องเขาบอกว่ามีรุ่นพี่เก่าๆ ทำแบบนี้มานานแล้ว มีมาตรการอะไรออกมาจัดการกับเรื่องนี้หรือยัง


“วันนี้น้องมาถึงจุดนี้ได้คือว่ามันเหลืออดเหลือทนแล้ว ตัวเองโดนรุมพ่อโดนรุมกระทืบ ตัวของคนกลุ่มนี้อ้างรู้จักคนนั้นคนนี้ วันนี้ตนประสานทางผู้การตำรวจนนทบุรี ท่านบอกจะช่วยเต็มที่ พร้อมสั่งเรียกผู้กำกับสภ.เมืองนนทบุรีมานั่งคุยกันเพื่อดำเนินการ โดยทราบว่ากลุ่มนี้มีอยู่ 40-50 คน” กันจอมพลัง กล่าว


นายไตเติ้ล ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังเลิกเรียนเกือบจะทุกวันทางกลุ่มรุ่นพี่จะพาพวกเด็กที่รับน้องมารับน้องกันที่สถานที่นี่ บางวันก็แยกไปรับน้องกันที่อื่นโดยมีการขึ้นหอพักต่างๆ ไม่ซ้ำที่ ในการรับน้องที่จุดนี้ จะมีรุ่นพี่ยืนล้อมรอบให้ท่องกลอนของโรงเรียน ท่องจำชื่อเพื่อน ถ้าเราท่องไม่ได้ก็จะโดนซ่อม เช่นเอาหัวปักพื้น วิดพื้น ลุกนั่ง เตะและต่อย หากโดนแล้วจะบังคับต้องบอกว่า "ขอบคุณครับ" ถ้าพูดว่าไม่ครับ จะลากไปข้างหลังแล้วจะถูกใช้สเปรย์จุดไฟแช็คเผาขนที่อวัยวะเพศ เวลาใครโดนลักษณะนี้ก็จะให้คนอื่นก้มหน้าและหลับตา ซึ่งเวลาทำร้ายจะปิดด้วยผ้าใบสีฟ้า เพื่อไม่ให้ใครเห็น ซึ่งการรวมตัวกันคนที่รับน้องตอนนี้ประมาณ 50 คน ส่วนรุ่นพี่จะมีประมาณ 10 กว่าคนบางครั้งจะมีศิษย์เก่ามาด้วย ทุกคนจะพกอาวุธมีดทุกคน เพื่อให้ป้องกันตัว โดยมีการบังคับให้พวกตนพกมีดทุกครั้งเพื่อป้องกันตัวจากสถาบันคู่อริ โดยพูดว่า ”พกไปถ้าโดนตำรวจจับเดี๋ยวจ่ายค่าปรับให้แค่ 100-200 แค่นั้น”


ส่วนในการรับน้องที่นี้รุ่นพี่จะยึดมีดยึดโทรศัพท์ก่อนเข้าไปข้างใน โดยวางไว้บริเวณปากทางเข้าให้เข้าไปตัวเปล่า แล้วก็ทำการซ่อม ร้องเพลง ตามที่ตนบอก มีการร้องเพลงปลุกระดมปลูกฝังให้คาดแค้นกับคู่อริ เคยเล่าประวัติว่าทางกลุ่มรุ่นพี่เคยถูกสถาบันคู่อริยิงตายไปแล้ว อยากให้แก้แค้น ให้รักในสถาบัน การกระทำลักษณะนี้เหมือนมีการสานต่อกันมาเรื่อยๆ บางคนก็ทนได้ยังอยู่ที่มหาวิทยาลัยบางคนก็ไม่ได้เรียน ส่วนถ้ากลุ่มอื่นไม่ได้มารับน้อง ก็จะถูกหาเรื่องในโรงเรียน เพื่อจะบีบให้เข้าระบบ ถ้าไม่เข้าจะโดนหาเรื่อง เวลาให้ไปไหนจะเปิดโลเคชั่นแล้วก็จะลบทิ้ง เช็คชื่อทุกรอบ ทำเหมือนเป็นอาจารย์ จะมาที่นี่ประมาณ 5 โมงเย็น หลังเลิกเรียน


ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุไม่ได้โดนโทรมาขู่ มีแต่อาจารย์ โทรมาบอกแม่ของตนว่าให้รีบเอาเด็กออกจากโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าจะไปป่วนที่โรงพยาบาล ตอนเกิดเหตุอาจารย์ก็ยืนอยู่ด้วยแต่ห้ามลูกศิษย์ไม่ได้ ตอนนี้ตัดสินใจลาออกเรียบร้อยแล้ว บางคนใส่ช็อปเข้ามาแต่ไม่ได้เรียนแล้ว ตอนนี้ตนอยากให้ทางโรงเรียนช่วยเหลือเรื่องการเรียน เพราะตนต้องเสียเวลาไป 1 ปี คนที่ทำร้ายตนมาทั้งหมด 4 คนจำหน้าได้ทุกคน


จากนั้นน้องไตเติ้ล และครอบครัว ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ พร้อมสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำน้องไตเติ้ลประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลังสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ได้ทำการรวบรวมหลักฐาน แต่เนื่องจากนายไตเติ้ล ยีงมีการการมึนศีรษะ จึงให้เดินทางไปพบแพทย์เพื่อล้างแผลและดูอาการ ก่อนนัดสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ที่ สภ.บางบัวทอง


ขณะเดียวกันของกลางมีดดาบยาวจำนวน 3 เล่ม ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่เจอบริเวณป่ากระถิน เจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยหลังจากนี้จะเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง และประสานเจ้าของที่เพื่อสอบถามถึงกรณีที่กลุ่มนักศึกษาเข้าไปใช้สถานที่ในการรับน้องโหดว่ารู้เห็นหรือไม่ นอกจากนี้ยังให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ที่ทำการรับน้องโหดอีกด้วย


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมกล่าวว่า หลังจากที่ตนลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ มทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี วันนี้ทราบว่าทางครอบครัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ ซึ่งก่อนเดินทางมาตนก็ได้ติดต่อกับทางด้านพล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ก็ให้ความมั่นใจว่าทางตำรวจจะดำเนินการเต็มที่


ส่วนทางกระทรวงเองได้เห็นว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงควรจะถูกพักการเรียนทันที หรือไล่ออก ตอนนี้ทางกระทรวงได้พูดคุยกับทางมหาลัยโดยให้เวลา 2 วัน ในการตอบคำถามสังคมในเรื่องนี้โดยรายงานส่งเรื่องมาที่กระทรวง ส่วนประเด็นผู้ก่อเหตุบางรายที่อาจจะไม่ใช่นักศึกษา ขอเท็จจริงตอนนี้อยู่ระหว่างรอทางมหาลัยรายงานมาที่กระทรวง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนทางสื่อมวลชนหรือสังคมไม่ต้องกังวลเรื่องดังกล่าว ทางมหาลัยได้ยืนยันว่าจะดำเนินการเต็มที่ทุกขั้นตอนเพราะมีทางตำรวจได้ทำงานควบคู่กันไปด้วย ในเบื้องต้นทราบจากทางมหาลัยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลภายนอกจำนวน 2 คน แต่ส่วนมากจะเป็นเด็กในมหาวิทยาลัย


https://youtu.be/7gtBWwuxFpg

คุณอาจสนใจ