นักศึกษา ป.โท เจอโปรโหดคอร์สเสริมความงาม สูญเงิน 200,000 บาท เล่านาทีพนักงานถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์

นักศึกษา ป.โท เจอโปรโหดคอร์สเสริมความงาม ถูกหว่านล้อมเชิงบังคับให้สมัคร VIP สูญเงิน 200,000 ในคืนเดียว เล่านาทีพนักงานถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ไปแล้วถามรหัสโอนเงิน แถมพบประวัติเจ้าของคลินิกต้องคดีฉ้อโกง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ส.ค. 2568 นางสาวพลอย (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง นำหลักฐานเอกสารต่างๆ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี หลังไปเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน แล้วถูกคลินิกเสริมความงามชื่อดังซึ่งตั้งอยู่ภายในห้าง หลอกให้เป็นสมาชิก ซื้อโปรแบบ VIP ทั้งๆ ที่ไม่ได้เต็มใจ ต้องสูญเงินเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท

น้องพลอย เล่าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 68 เธอมาเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าดังกล่าว บริเวณชั้น 1 ระหว่างนั้นมีพนักงานของสถานเสริมความงาม เข้ามาพูดคุยพร้อมทั้งให้กรอกแบบ สอบถาม และชักชวนให้ตนเองมาร์กหน้าขยายรูขุมขน โดยเสียค่าใช้จ่ายจำนวนเงิน 2,500 บาท พนักงานพยายามพูดจาหว่านล้อมให้เธอขึ้นไปทดลองดูสักครั้ง รับรองว่าใบหน้าจะเนียนและเต่งตึง รูขุมขนขยายอย่างแน่นอน

เธอจึงได้ตอบตกลงและขึ้นไปมาร์กหน้าขยายรูขุมขน ภายในคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 11 ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว หลังนอนทำอยู่บนเตียงนานหลายชั่วโมงจนห้างใกล้ปิด เธอกำลังจะกลับบ้าน แต่พนักงานภายในคลินิกหลายคนได้ดึงเธอเข้าไปและทำสปามือ พร้อมพูดจาหวานล้อมให้ซื้อคอร์สเสริมความงามเพิ่ม รับรองสวยแน่ โดยให้โอนเงิน 10,000 บาท หลังโอนเงินไปแล้วกลับไม่จบแค่นั้น พนักงานในคลินิกพยายามพูดจาให้ซื้อคอร์สใหญ่ เป็น VIP ราคาโปรพิเศษ อีก 90,000 บาท โดยถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์มือถือตนเองไป และนำมาสแกนหน้าตน พร้อมทั้งถามรหัสโอนเงิน ซึ่งเธอพยายามบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง ว่ามืดแล้วต้องกลับบ้านเพราะจอดรถอยู่ชั้น 2 เดี๋ยวออกจากห้างไม่ได้ แต่พนักงานก็พยายามพูดจาชักชวน และบอกว่าให้รีบโอนเงินอีก 100,000 บาทได้ไหมจะได้เป็น Super VIP เลย รับรองว่าสวยจบครบวงจร ซึ่งในคลินิกมีเพียงเธอคนเดียว รู้สึกกลัวและไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำถึงขนาดนี้ด้วยการกดยืนยันและใส่รหัสโอนเงินไปอีก 100,000 บาท ทำให้ต้องสูญเงิน 200,000 บาทในคืนนั้น

หลังจากวันรุ่งขึ้น เธอเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ติดตามเงินจำนวนดังกล่าวคืนกับเธอ ด้วยเพราะไม่สมัครใจและไม่ต้องการจะเป็น VIP ตามที่สถานเสริมความงามแห่งนี้หว่านล้อมให้เป็นสมาชิก เธอพยายาม Search หาข้อมูลทาง facebook ของคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ พบว่าการสมัครโปร และเป็น VIP ไม่ได้ใช้เงินสูงขนาดนี้ เธอยังศึกษาอยู่ปริญญาโทเงินจำนวนดังกล่าวมีความหมายกับตนเองมาก อยากให้เขาคืนเงินให้กับเธอด้วย เพราะต้องใช้เก็บไว้เป็นทุนในการศึกษาเล่าเรียนต่อ

สำหรับคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ ทางผู้เสียหายได้พยายามติดต่อขอเงินคืนหลายครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธโดยอ้างว่า เปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว อีกทั้งที่ผ่านมาพบว่ามีผู้เสียหายหลายราย ถูกพูดจาหว่านล้อม เชิงบังคับ ให้สมัครเป็น VIP หลายราย แต่ไม่ได้รับการเสริมความงามตามโปรแกรมที่แอบอ้างไว้ จนมีการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ไว้หลายรายแล้ว อีกทั้งยังพบว่าเจ้าของสถานเสริมความงามแห่งนี้ซึ่งเป็นสองผัวเมีย เคยต้องคดีฉ้อโกงและถูกแจ้งความไว้ โดยมักจะใช้ดารามีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการโฆษณา จึงอยากฝากเตือนถึงสาวๆ ที่รักความงามทุกคน ให้พิจารณาให้ดีเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลด้านเสริมความงามที่ไว้ใจและมีชื่อเสียงจะได้ไม่สูญเงินแต่ไม่สวยตามที่โฆษณาไว้