สังคม

ผมชอบสมุนไพร! 'ลูกทรพี' รับดื่มน้ำท่อม-เสพกัญชา ไม่ได้นอน 4 วัน พร่ำขอขมาพ่อ หลังคลั่งทำร้าย

โดย thichaphat_d

9 มี.ค. 2567

71 views

จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดจี้พ่อตนเอง ในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซอยสุเหร่าคลองตัน แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ทราบชื่อต่อมาคือนายวิศนุศักดิ์ ลำดวน อายุ 25 ปี หรือ นายบิ๊ก ส่วนผู้เป็นพ่อคือ นายพงษ์บดินทร์ ลำดวน อายุ 48 ปี  

ความคืบหน้าเมื่อช่วงสายวานนี้ (8 มี.ค.) ตำรวจ สน.คลองตัน ควบคุมตัวนายบิ๊ก ไปสอบปากคำ หลังหายคลุ้มคลั่ง โดยเจ้าตัวยอมว่าได้ก่อเหตุทำร้ายพ่อจริงเนื่องจาก 4 คืนติด ตัวเองไม่ได้หลับได้นอน ดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชาเนื่องจากชอบเพราะเป็นสมุนไพร แต่ตอนเกิดเหตุตนเองเบลอ ไม่มีสติและก่อเหตุทำร้ายพ่อ จึงอยากขมาพ่อ และอยากให้พ่อให้อภัย เพราะตัวเองมีลูกและมีเมีย รู้ว่าการกระทำแบบนี้ไม่ดี เป็นบาป แต่ถ้าตนเองติดคุกนานจะไม่มีคนส่งเสียเลี้ยงดูลูก

และก่อนจะถูกคุมตัวเข้าสอบ นายบิ๊ก ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปยังนายพงษ์บดินทร์ผู้เป็นพ่อ อยากให้พ่อยกโทษให้ และตนเองจะบวชชดใช้สิ่งที่ทำกับพ่อและจะเลิกเสพกัญชา และดื่มน้ำกระท่อมอีก ปรับเนื้อปรับตัวเป็นคนดี

ด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า ไม่ได้นอนมา 4 คืน พร้อมกับดื่มน้ำกะท่อมและเสพกัญชา ที่ซื้อมาจากเพื่อน จนทำให้มีอาการหลอนและหูแว่วว่าจะมีคนมาทำร้าย จึงชักมีดที่อยู่ภายในห้องมาทำร้ายพ่อที่พยายามเข้ามาห้ามและแย่งมีด จนตกลงมาจากชั้น 3 ได้รับบาดเจ็บ

จากการตรวจสอบประวัติ และตรวจปัสสาวะ ไม่พบประวัติอาชญากรรม แต่พบประวัติการเสพกัญชาและดื่มน้ำกระท่อมมาหลายปี ส่วนผลตรวจร่างกาย พบเพียงกัญชา ไม่พบสารเสพติดชนิดอื่น

โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายบุพการีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีโทษจำคุก 2-10 ปี และข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะในขณะเกิดเหตุตำรวจใช้ยุทธวิธีพร้อมไม้ง่ามเข้าไประงับเหตุ แต่ผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขืนจนทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว จากนี้หลังสอบปากคำจะนำตัวไปฝากขังที่ ศาลอาญาพระโขนงในวันนี้ (9 มี.ค.) ซึ่งคดีนี้แม้จะเป็นคดีภายในครอบครัว ผู้เป็นพ่ออาจจะไม่เอาความ แต่เป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้

ขณะที่ทางด้านของพ่อผู้ก่อเหตุ ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการพลัดตกตึก และถูกลูกชายทำร้าย ยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล

ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า พ่อของผู้ก่อเหตุ เท่าที่รู้จักตลอดระยะเวลาหลายสิบปี เป็นคนดี เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ และเป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน ก่อนหน้านี้เคยพักอาศัยแถวถนนเพชรบุรีก่อนจะย้ายมาอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้กับครอบครัว 3 คนพ่อแม่ลูก แต่คนก่อเหตุพบว่าไปๆ มาๆ ซึ่งไม่ได้เป็นลูกชายแท้ๆ แต่เป็นคนที่นายพงษ์บดินทร์ รับอุปการะมาเลี้ยงดูมาแต่เล็กๆ เพราะพ่อแม่ทิ้งไป จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าผู้ก่อเหตุไปเป็นทหารเกณฑ์

แต่ดูจากพฤติกรรมแล้วเป็นเพราะความรักของนายพงษ์บดินทร์ ที่มีต่อผู้ก่อเหตุ จึงปกปิดข้อเท็จจริง เพราะคนก่อเหตุมีอาการคุ้มคลั่งมาตลอด และมีความเป็นไปได้ว่ามีการใช้สารเสพติด ซึ่งเมื่อมารู้ว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายนายพงษ์บดินทร์จึงรับไม่ได้ กับการที่ผู้มีพระคุณเลี้ยงดูมาแต่เด็ก กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งชาวบ้านทันทีที่ทราบว่านายพงษ์บดินทร์ ถูกทำร้ายก็อยากจะเข้าไปรุมกระทืบผู้ก่อเหตุ แต่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุก่อน

มีรายงานว่า อาการนายพงษ์บดินทร์ ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ยังคงอยู่ในห้องฉุกเฉิน (ICU) โดยมีบาดแผลต้องเย็บที่ศีรษะและปวดบริเวณหลังต้องใช้ที่ดาม บริเวณขาซ้ายผิดรูป โดยรวมยังวิกฤต ยังไม่สามารถให้การได้ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด


https://youtu.be/vpK26U1OJ8g

คุณอาจสนใจ

Related News