"พระมหาทิวากร" ย่องสึกเงียบ คืนเงินวัด 30,000 เผยจุดเริ่มต้นโอนเงิน เพราะ "สีกากอล์ฟ" บอกป่วย

พระมหาทิวากร พระรูปสุดท้ายในรายชื่อจักรวาลพระของสีกากอล์ฟ ย่องสึกเงียบกับเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อคืนนี้ พร้อมมอบเงิน 3 หมื่นบาท ฝากคืนให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ยืนยันไม่ปราชิก จุดเริ่มต้นที่โอนเงิน เพราะสีกาบอกว่าป่วย ขอเงินจ่ายค่าหมอ



อดีตพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท จังหวัดสมุทรสาคร หนึ่งในจักรวาลพระ ที่พบว่ามีการโอนเงินให้สีกากอล์ฟหลักล้านบาท แล้วหายตัวออกจากวัดไปตั้งแต่วันอาสาฬหบูชา จนต้องยกเลิกงานเวียนเทียน ยอมสึกแล้วเมื่อวานนี้ ที่วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร โดยมี พระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นผู้สึกให้



เช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปพบกับเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เผยว่า เมื่อวานประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ อดีตพระมหาทิวากร เดินทางมาหาตน พร้อมพระสงฆ์ 1 รูป ลูกศิษย์วัดอีก 1 คน โดยไม่ได้ติดต่อมานัดล่วงหน้า แล้วบอกว่า จะขอสึก เพื่อให้เกิดความสบายใจของคณะสงฆ์ในจังหวัดสมุทรสาคร อาตมาจึงถามไปว่า ท่านปาราชิกหรือไม่ ก็ได้รับคำยืนยันว่า ไม่ปาราชิก จึงสึกให้ตามลำดับขั้นตอน หลังจากนั้นพูดคุยกันอยู่สักพัก ก่อนที่จะลากลับไป แต่ไม่ได้สอบถามว่าจะไปไหน หรือก่อนหน้านี้ไปอยู่ที่ไหนมา เพราะไม่ใช่เรื่องของอาตมา ซึ่งอดีตพระมหาทิวากรบอกว่า จะเดินทางไปอมก๋อย



นอกจากมาขอสึก อดีตพระมหาทิวากร ยังได้มอบเอกสารทางการเงินของวัดเกือบ 10 แผ่น ซึ่งมีการแสดงรายได้ของวัดโดยตรงตั้งแต่ปี 2564–2567 เช่น เงินกฐิน และเงินบริจาค พร้อมยังนำภาพการก่อสร้าง และการปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆ ในวัดอีกกว่า 20 แผ่น มาให้ไว้เป็นหลักฐานด้วย



นอกจากนี้ยังได้นำเงินประมาณ 30,000 กว่าบาท ใส่ซองมามอบให้กับอาตมาไว้ ฝากนำไปมอบคืนให้แก่เจ้าคณะตำบล และส่งต่อให้กับผู้ที่จะรักษาการเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาทต่อไป โดยเงิน 30,000 กว่าบาท ที่นำมาให้นี้ เป็นเงินบริจาคก้อน 70,000 บาท ที่อดีตพระมหาทิวากรนำติดตัวไปด้วย แล้วเอาไปจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนที่แล้วกว่า 30,000



ส่วนเรื่องที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟได้อย่างไรนั้น อดีตพระมหาทิวากร เล่าว่า สีกาเคยมาทำบุญที่วัด จากนั้นโทรศัพท์มาขอยืมเงิน โดยอ้างว่าป่วยเข้าโรงพยาบาล แล้วไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา จะขอยืมเงินไปจ่ายหมอ เพื่อออกจากโรงพยาบาล เห็นว่าเคยมาทำบุญที่วัด จึงตัดสินใจโอนให้ไป จากนั้นก็มีการขอยืมกันมาเรื่อยๆ แต่ละครั้งไม่มากเท่าไหร่ ตามที่บอกก็เป็นหลักหมื่น ได้คืนบ้านไม่ได้คืนบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องให้ทางตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบและสอบสวน เพราะเขาเองก็สึกไปแล้ว จึงไม่เกี่ยวกับทางสงฆ์อีก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/krxSFky3rDc