สึกแล้ว! ‘มหาแหล่’ ผช.เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ปลีกวิเวกสำนักสงฆ์กลางป่าชัยภูมิ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม ที่ถูกเปิดชื่อตั้งแต่วันแรกว่า มีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แล้วหายตัวเงียบไปตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุด โผล่สึกแล้วที่ชัยภูมิ ชาวบ้านรอบวัดโสธรโล่งอก อย่ารั้นจนทำให้ศาสนามัวหมอง

กรณีพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา หายตัวออกจากวัดตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มีตำรวจไปหาที่วัด เพราะพบหลักฐานว่า มีความสัมพันธ์ลึกซึ่งกับสีกากอล์ฟ แล้วไม่เจอตัว พบเพียงเณรนำบาตรของพระครูมาเก็บให้ที่กุฏิ

ล่าสุด มีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า พระครูสิริวิริยธาดา ลาสิกขาแล้วด้วยความสมัครใจ โดยมีคณะสงฆ์เป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 17:12 น. ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในอำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ พร้อมระบุว่า "กระผมได้แจ้งไปยังสังกัดวัดโสธร ตั้งแต่เมื่อวานนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระผมได้ลาสิกขา เพื่อดำรงไว้ซึ่งความงดงามแห่งหมู่สงฆ์ จึงกราบเรียนมาเพื่อทราบ รบกวนแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบด้วย

ผู้สื่อข่าวไปที่สำนักสงฆ์วัดป่าเจริญธรรม ไม่พบพระสงฆ์ พบเพียงมัคนายก ระบุว่า ที่นี่มีพระสงฆ์ 4 รูป ทั้งหมดออกไปรับกิจนิมนต์ที่ป่าม่วงตั้งแต่เช้า ส่วนมัคนายก เพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ จึงไม่มีใครเล่าเรื่องราวเมื่อวานนี้ได้

ส่วนบรรยากาศที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร เช้าวันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่กุฏิ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส พบว่า ประตูกุฏิทั้งด้านหน้าและด้านหลังปิดล็อก มีเพียงสามเณรที่มากวาดทำความสะอาดโดยรอบ ส่วนด้านหน้ากุฏิก็ไม่พบรองเท้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีวางไว้จำหน่ายหลายสิบคู่

เมื่อเดินสำรวจโดยรอบ พบว่า ประตูกระจกหน้าต่างห้องนอนไม่ได้ล็อก เมื่อสังเกตเข้าไปด้านใน พบว่า เจ้าของห้องไม่ได้กลับเข้ามาเก็บของ หรือกลับเข้ามาที่กุฏิตั้งแต่วันที่ตำรวจเข้ามา และยังพบบาตร ผ้าจีวร สังฆาฏิชุดใหม่ ปวารณาในวันเข้าพรรษา

นายประเสริฐ อายุ 68 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า อดีตพระครูคงรู้ตัวเองดีว่าทำอะไรลงไป จึงต้องยอมสึก ส่วนตัวนั้นรู้สึกเสียใจ ที่บวชเรียนมาตั้งนาน แล้วมาทำแบบนี้ ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง และก็ดีแล้วที่อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ยอมสึกออกไป เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนามั่วหมองไปมากกว่านี้

ขณะที่เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่บ้านเกิดของอดีตพระครูสิริวิริยธาดา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า มหาแหล่ ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ไปเจอกับนายศักดิ์ (นามสมมุติ) เพื่อนของพ่อมหาแหล่ บอกว่า มหาแหล่กลับเยี่ยมพ่อ ปีละครั้ง หรือ 2 ปีครั้ง แต่ช่วงว่า 4-5 ปีหลัง มหาแหล่ จะกลับมาพร้อมกับ หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมหาแหล่บอกว่าเป็น "แม่ออก" ซึ่งภาษาอีสาน คือ โยมอุปัฏฐาก แต่ถ้าเป็นคำแสลง ผู้ชายทางอีสานหลายคนจะเรียกแฟนหรือเมียว่า แม่ออก ซึ่งใช้ในเชิงสนุกสนาน

โดยแม่ออกคนนี้ยังสาว ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างนินทา ว่าประพฤติตัวไม่งาม เพราะพากันมาค้างอ้างแรมทีละ 2-3 วัน จนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน เคยประกาศห้ามมหาแหล่ มาพักจำวัดในหมู่บ้าน เพราะเห็นว่าพฤติกรรมไม่งาม อาจทำให้วัดพลอยเสื่อมเสียไปด้วย สุดท้ายก็เกิดเรื่องจริง ๆ เมื่อถามว่า แม่ออก กับสีกากอล์ฟ เป็นคนเดียวกันหรือไม่ นายศักดิ์บอกว่า จำไม่ได้ เพราะเห็นหน้าแค่ 2-3 ครั้ง

ชาวบ้านคนหนึ่ง มาให้ข้อมูลว่า ตนเองก็รู้จักสนิทกันกับพ่อของมหาแหล่ และเคยเห็นมหาแหล่ เอาวัว มาให้ชาวบ้านเลี้ยง ปีละ 30 ถึง 40 ตัว โดยบอกว่า เป็นวัวที่วัดหลวงพ่อโสธร ไถ่ชีวิตมา จึงเอามาให้ญาติพี่น้องและคนสนิทของครอบครัวเลี้ยง โดยให้ฟรี แต่ต้องจ่ายค่าขนส่งวัว ตัวละ 2,000 บาท ตนเองก็นำมาเลี้ยงด้วย 2 ตัว โดยจ่ายค่าขนส่งวัวไป 4,000 บาท ตอนนี้วัวทั้งสอง ตกลูก ได้วัวน้อยมา 2 ตัวแล้ว ขณะที่ชาวบ้านอีกคน บอกว่า วัวที่มาส่วนใหญ่จะเล็ก ๆ ผอม ๆ เคยมาเสนอให้ตนด้วย แต่ตนไม่เอา ยิ่งมาช่วงปีหลัง ๆ ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นเป็นตัวละ 4,000 บาท

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DqXArydTwAA