"ทิดยอดเพชร" ขอโทษชาวบ้าน ทำวัดเสียชื่อเสียง ยันไม่ได้นำเงินไปให้ "สีกากอล์ฟ"

ที่ศาลาการเปรียญ วัดท่าบัวทอง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยตำรวจภูธรโพธิ์ประทับช้าง ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ไวยาวัจกร คณะกรรมการวัดบัวทอง และชาวบ้านท่าบัวทอง หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 5 ต.โพธิ์ประทับช้าง ได้มาร่วมเป็นสักขีพยาน และรับฟังคำชี้แจงจาก “ทิดพระมหายอดเพชร” หรืออดีตพระครูศรีรัตนวิเชียร เจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง กรณีได้ลาสิขา หรือสึก หลังจากมีคลิปวิดีโอการพูดคุยสนทนาผ่านวิดีโอคอลกับสีกากอล์ฟ

ทิดมหายอดเพชร ได้กราบและกล่าวขอโทษ ขอขมาชาวบ้าน ที่ได้กระทำพลาดพลั้งไป รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เสื่อมเสียชื่อวัด จึงได้ยอมรับผิดของการกระทำดังกล่าวด้วยการลาสิขา  พร้อมกับมาเก็บข้าวของที่กุฏิ รวมทั้งชี้แจงบัญชีทรัพย์สินของวัด รวมทั้งคืนกุญแจศาลา กุญแจวิหาร กุญแจกุฏิต่างๆให้กับไวยาวัจกรวัดดูแลต่อไป เนื่องจากในช่วงนี้เจ้าคณะอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ยังไม่ได้แต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสมาแทน ซึ่งไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัดท่าบัว จะดูแลวัดไปก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสมาแทน

จากการตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่าบัญชีของวัดท่าบัวทอง มีทั้งหมด 4 บัญชี และใช้งานได้ 3 บัญชี มีบัญชีเบิกจ่าย 2 บัญชี และอีก 1 บัญชี เป็นบัญชีวัดเกี่ยวกับเฉพาะกิจงานแข่งเรือของวัด ซึ่งบัญชีดังกล่าวมีเงินเข้าออกหมุนเวียนไม่มากนัก และทั้ง 2 บัญชี มีเหลือเงินติดบัญชีเพียงไม่กี่ร้อยบาท

อดีตพระมหายอดเพชร เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายเงินของวัดนั้น ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายไปในทางการก่อสร้างบูรณะวัดต่างๆ และการเบิกจ่ายไม่ได้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพียงแค่บอกไวยาวัจกร หรือกรรมการวัดว่าจะจ่ายอะไรบ้าง ก็จะเบิกจ่ายให้กับค่าใช้จ่ายนั้นๆ แต่ยืนยันว่า ไม่ได้นำเงินวัดไปให้สีกา และในฐานะที่เคยเป็นอดีตเจ้าอาวาส การสร้างวัด บางทีก็ไปขอหยิบยืมคนนั้นคนนี้มาบ้าง บางทีทำไปก่อนแล้วก็จ่ายทีหลังบ้าง ส่วนเงินวัดในความเป็นจริง แต่ละปีไม่ได้มีเยอะ สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ ส่วนเครื่องปั่นไฟฟ้า ทางวัดยืมมาใช้ปั่นกระแสไฟฟ้าในงานแข่งเรือยาวเมื่อปี 2566 แต่เมื่อนำมาใช้งานแล้วเกิดระเบิดขึ้น ทางวัดจึงนำส่งซ่อมที่ จ.สุพรรณบุรี แต่ตอนนี้ติดต่อผู้รับไปซ่อมไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ได้เอาไปขาย และหากติดตามมาคืนไม่ได้ ก็พร้อมจะรับผิดชอบตามกระบวนการ

ขณะที่ นายชูชาติ นาคสะอาด ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.โพธิ์ประทับช้าง ในฐานะที่ให้ยืมเครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 5 แสนบาท กล่าวว่า ตอนนี้ได้ดำเนินการติดตาม ถามพระก็ยืนยันว่าเอาไปซ่อมอยู่ ตอนนี้ก็ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โพธิ์ประทับช้าง เพื่อให้ตำรวจได้ช่วยติดตามอีกทางหนึ่งด้วย  

นายสายหยุด โพธิ์ทอง ผู้รับหมาก่อสร้างทำศาลาริมแม่น้ำ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามทวงถามค่าจ้างก่อสร้างกับอดีตมหายอดเพชร ในการก่อสร้างศาลาริมน้ำ ซึ่งตอนนี้สร้างเกือบเสร็จแล้ว และพระอาจารย์บอกว่าให้สร้างเลย เดี๋ยวจ่ายให้เอง ตอนนี้ใกล้จะเสร็จแล้ว ได้เงินมาแค่เพียง 1 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งตนเองรับเหมามาทั้งหมด 2 เรือน รวมกันเป็นเงิน 1.7 แสนบาท ยังเหลือค้างจ่ายอีก 1.6 แสนบาท การก่อสร้างมีสัญญากับพระอาจรย์อยู่ ที่ผ่านมารอกรรมการมาเซ็นเบิก แต่ไม่มีใครมาเซ็นจนมาเกิดเหตุก่อน

ด้าน นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า วันนี้ในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร มาร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบเอกสารจากอดีตเจ้าอาวาส พระมหายอดเพชร โดยทิดยอดเพชร ได้เอาสมุดบัญชีธนาคาร กับพวกกุญแจกุฏิ โบสถ์ วิหารต่างๆมาคืน เนื่องจากตอนนี้ประสานไปยังเลขาณุการรเจ้าคณะตำบลแล้ว ยังไม่ได้มีแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสองค์ใหม่ จึงมอบหมายให้ไวยาวัจกรเป็นผู้ดำเนินกิจการไปก่อน ส่วนเรื่องสมุดบัญชีของวัดมีอยู่ 4 บัญชี เป็นในนามวัด 2 บัญชี ส่วนอีกบัญชีเป็นบัญชีเฉพาะกิจที่ใช้ในงานแข่งเรือและอีกบัญชีใช้ในการศึกษาของคณะสงฆ์ บัญชีนี้ไม่ได้มีการขยับมาตั้งแต่ปี 58 แล้ว ส่วนเงินในบัญชีหมุนเวียนไม่เยอะ รายละเอียดต้องดูอีกที ตอนนี้ในบัญชีมียอดเงินไม่ถึง 100 บาท

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ประทับช้าง ได้เชิญตัวทิดมหายอดเพชร ขึ้นรถตำรวจไปสอบปากคำเพิ่มเติมกรณีเครื่องปั่นไฟฟ้า เพื่อตรวจบันทึกติดตามเครื่องปั่นไฟฟ้ามาคืนให้กรรมการหมู่บ้าน แต่หากทิดยอดเพชร นำไปขาย ก็อาจจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย      

โดยหลังจากการชี้แจงเสร็จสิ้น ชาวบ้านบางส่วนต่างกอดกันและจับมือร้องไห้ รวมถึงพระลูกวัด ที่ยังเคารพรักในตัวพระมหายอดเพชร เนื่องจากที่ผ่านถือว่าพระมหายอดเพชรเป็นพระนักพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรือง โดยมหายอดเพชร บอกกับชาวบ้านว่า หลังจากนี้ก็จะหาอาชีพทำต่อไป แต่ยังนึกอะไรไม่ออก และจะเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีต่อพระพุทธศาสนา