วิน จยย.ขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหมวกกันน็อก หลังเริ่มปรับแล้ววันที่ 2 ชี้คนจ่ายค่าปรับคือคนขับขี่

วันที่ 2 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บังคับกฎหมายจราจรทางบก ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท แต่ถ้าคนซ้อนไม่สวมหมวกด้วย เพิ่มโทษเป็น 2 เท่า โดยผู้ขับขี่จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าปรับ ทีมข่าวสำรวจ พบว่า ยังมีผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายไม่สวมหมวกกันน็อก



ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจการจราจร ย่านถนนสุขุมวิท หลังศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก (มาตรา 122 ) ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ด้วยการกวดขันจับปรับ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกอย่างเข้มงวด ด้วยอัตราโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท และหากคนซ้อนไม่ใส่หมวก ผู้ขับขี่จะต้องรับผิดชอบ จ่ายค่าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า



เท่าที่สังเกตด้วยสายตา พบว่า ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ สวมหมวกกันน็อก ร้อยละ 70-80 จะมีผู้ขับขี่ส่วนน้อยเท่านั้น ที่ไม่สวมหมวกกันน็อก โดยเฉพาะผู้ขับขี่ที่เป็นชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ พบว่า ก็มีบ้างที่ไม่ใส่หมวกกันน็อก



จากการพูดคุยกับมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ย่านถนนสุขุมวิท ระบุว่า เท่าที่คุยกับกับวินรถจักรยานยนต์ หลายคนเห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพราะเป็นเรื่องของระเบียบวินัยของคน และช่วยเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน



เมื่อกฎหมายเข้มข้นก็ต้องปรับตัว โดยได้เตรียมหมวกกันน็อกไว้ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ เพราะคนจ่ายค่าปรับเป็นผู้ขับขี่ ที่ต้องจ่ายไม่ใช้ผู้ซ้อน ดังนั้นจากนี้ต้องทำความเข้าใจกับผู้ใช้บริการมากขึ้น และขอร้องให้สวมหมวกกันน็อก เพราะคนโดนปรับไม่ใช่คนซ้อนแต่เป็นคนขับขี่ แต่ก็ยอมรับว่าถ้าไปบังคับลูกค้ามากๆ ก็อาจจะไม่ใช้บริการจักรยานยนต์รับจ้าง



แต่ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือดี ถ้าบอกให้สวมหมวกกันน็อก แต่ก็จะมีผู้ใช้บริการ 3-4 กลุ่ม ที่ไม่อยากสวมหมวกกันน็อก เช่น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พนักงานบริษัทที่ทำงานใกล้ๆ เพราะคิดว่านั่งรถไม่นาน ลูกค้าที่เซ็ตทำ ทำผมมา ก็ไม่อยากสวมหมวกเพราะกลัวผมจะเสียทรง และลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่อยากใส่ โดยให้เหตุผลว่า กังวลเรื่องความสะอาดของหมวกกันน็อก



ในโซเชียล มีความเห็นของคนดัง อย่างสารวัตรเอก - พันตำรวจเอกเอกราช หุ่นงาม นายตำรวจที่มีแฟนเพจจำนวนมาก โพสต์ข้อความว่า " ไม่สวมหมวกกันน็อก ปรับคนละ 2,000 ปรับคนซ้อนท้าย 2,000 รวมเป็น 4,000 ผมไม่รู้ว่า คนที่ผ่านกฎหมายน้ออกมาบังคับใช้ เขาคิดบ้างหรือเปล่าว่า ถ้าตัวเขาทำผิดข้อหานี้ แล้วปรับมากขนาดนี้ เขาจะรู้สึกอย่างไร ถึงกฎหมายนี้จะมีเจตนารมณ์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยก็จริง แต่ก็ควรคิดบ้างว่า คนที่ขับ จยย. คือ คนยากจนเสียส่วนใหญ่ ถ้ามีเงินคงขับรถหรูกันไปแล้ว เมื่อเขาเป็นชาวบ้าน ตาสีตาสา คุณปรับเขาขนาดนั้น เขาอาจต้องขายรถคันนั้น เสียค่าปรับเลยนะครับ มันไม่เป็นการทำร้ายกันเกินไปหรือครับท่าน"



ขณะที่เพจทนายคลายทุกข์ ของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่าย ทนายคลายทุกข์ ระบุว่า "ไม่อยากจ่ายค่าปรับ ไม่ใส่หมวกกันน็อก คนละ 2,000 บาท ง่ายนิดเดียวใส่หมวกกันน็อกก็จบแล้วครับ"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/q04p55chD60