มมส.แจงข่าวลือ HIV ในกลุ่มนิสิต "ไม่จริง" จ่อเอาผิดคนปล่อยเฟกนิวส์

มหาสารคาม เฟกนิวส์หรือไม่ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งระบุชื่อน้องเดียร์ ไปโพสต์ในกลุ่มน้องใหม่ มมส 69 ว่าตนติดเชื้อ HIV และแจ้งประกาศไปถึงบุคคล 9 ชื่อ ที่มีความสัมพันธ์กับเธอ



โซเชียลในเฟซบุ๊กชื่อกลุ่มน้องใหม่ มมส 69 มีการโพสต์ข้อความโดยผู้โพสต์ไม่ระบุตัวตน บอกว่า ฝากถึงพี่บอมโจ้, ฟิลม์, เพชร, กัส, ตะวัน, พร้อม, น้องอาท, กล้า, ไผ่ และอีก 4-5 คน (จำชื่อไม่ได้) หนู(เดียร์) บัญชี ปี 2 ติด HIV แล้วนะ พึ่งไปตรวจมาวันนี้เลย ให้ทุกคนที่กล่าวถึงหรือคนที่เคยมีอะไรกับหนู ให้ตรวจและดูแลตัวเองด้วยนะคะ ไม่รู้หนูไปติดจากใครมา



โพสต์นี้มีการแชร์ และแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก ซึ่งในกลุ่มน้องใหม่ มมส 69 เป็นกลุ่มสาธารณะ ที่ใครสามารถโพสต์อะไรก็ได้ ซึ่งก็มีทั้งข่าวจริงและเฟคนิวส์ ซึ่งเรื่องนี้หลายคนมอองว่าเป็นเฟคนิวส์ หรือเป็นข่าวปลอม ที่มีการโพสต์ปั่นกระแส



ล่าสุดเพจ Mahaaarakham University Thailand ซึ่งเป็นเพจเฟซบุ๊ก ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โพสต์ชี้แจงข่าวบิดเบือน สร้างความเสียหายให้กับมหาวิทยาลัย พร้อมแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด



โดยข้อความระบุว่า มมส ชี้แจงกรณีเพจแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน ดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด



มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ขอชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก "น้องใหม่ มมส 69" ซึ่งแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านทันทีที่พบการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว



พร้อมยืนยันว่า เพจ "น้องใหม่ มมส 69" เป็นเพจที่จัดการโดยบุคคลภายนอก ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการแจ้งความไว้แล้วในข้อหาแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต และการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับผู้กระทำผิด เพื่อปกป้องชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อีก



ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.นิตยา วรรณกิตร์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและภาพลักษณ์องค์กร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระบุว่า "มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและสิทธิของนิสิต มหาวิทยาลัยจะไม่ยอมให้มีการแอบอ้างชื่อไปใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนที่สร้างความเสียหายต่อนิสิต บุคลากร และสถาบันอย่างเด็ดขาด"

พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนรับข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยเท่านั้น และใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการแชร์ข้อมูลสื่อออนไลน์



ขณะที่นายบัญชา นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม บอกว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้เชื่อซะทีเดียวว่าเป็นเรื่องจริง เราอยู่ที่นี่มาหลายปี ข่าวแบบนี้ก็มีมาเรื่อยๆ แต่ก็รู้สึกว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงที่อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะอยู่ในช่วงวัยอยากรู้อยากลอง การมีเพศสัมพันธ์กันหลายคู่ก็อาจจะไม่ได้ป้องกัน การติดเชื้อจึงติดง่าย บวกกับวัยคึกคะนองก็ทำให้คนไม่ป้องกัน ส่วนนักศึกษาสาว อีกคนมองว่ากระแสข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องจริง มีความน่าเชื่อถือน้อย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-XPOVnMVYKk