สังคม
คลินิกนิรนาม 6 เดือนพบป่วย “ซิฟิลิส” 940 คน ห่วงผู้ป่วย HIV อายุน้อยลง
โดย nicharee_m
30 พ.ค. 2568
463 views
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อสภากาชาดไทย เผยสถานการณ์โรคซิฟิลิสแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง บางรายติดเชื้อไม่แสดงอาการ ขอผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรอง-สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์โอภาส พุทธเจริญ รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์และโรคติดเชื้อสภากาชาดไทย ระบุ ปัจจุบันพบว่าช่วงอายุที่พบการติดเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อายุเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ โดยข้อมูลสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่คลินิกนิรนามสภากาชาดไทยในช่วงปีที่ผ่านมา พบกลุ่มผู้ป่วยอยู่ในช่วงวัยอายุ 20 ถึง 49 ปี หากแยกเป็นหลายโรคสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ช่วงอายุที่พบมากสุดคือช่วงอายุ 30 ถึง 34 ปี รองลงมาคือ อายุ 25 ถึง 29 ปี ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นเยาวชน อายุ 15 ถึง 19 ปี พบการติดเชื้อ 8 ราย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ควรเฝ้าระวัง
ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อซิฟิลิสที่คลินิกนิรนามในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่พฤศจิกายน 2567 ถึงเมษายน 2568 พบผู้เข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อทั้งหมด 11,323 ครั้ง ให้ผลเป็นบวกจำนวน 940 คน คิดเป็นอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ร้อยละ 8.3 โดยกลุ่มอายุ 15-19 ปี พบติดเชื้อ 11 ราย / ช่วงอายุ 20 ถึง 24 ปี พบมีผู้ติดเชื้อ 93 ราย / อายุ 25 ถึง 29 ปี 179 ราย / อายุ 30 ถึง 34 ปี 227 ราย / อายุ 35 ถึง 39 ปี 155 ราย / อายุ 40 ถึง 44 ปี 108 ราย และพบผู้ป่วยเพิ่มในทุกกลุ่มทั้งคู่รักชายหญิงและกลุ่มคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ
สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่าทั่วโลกเริ่มมีผู้ป่วยที่อายุน้อยลงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13 ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่มักติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน และในกลุ่มเด็กเยาวชนยังขาดการยับยั้งช่างใจ มีการเข้าถึงสื่อโซเชียลที่ดึงดูดทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขในกลุ่มวัยรุ่นยังไม่ดีเท่าวัยผู้ใหญ่ และอีกปัจจัยที่สำคัญในปัจจุบันคือเรื่องยาเสพติดในวัยรุ่นที่มีการใช้ยาเสพติดที่ทำให้มีความรู้สึกทางเพศมากขึ้นและนานขึ้นเช่นกันใช้ยาไอซ์
และพบว่าในผู้ป่วยหนึ่งคนสามารถติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์มากกว่าหนึ่งโรค เช่น มีการติดเชื้อเอชไอวีและติดเชื้อซิฟิลิสพร้อมกัน เพราะช่องทางการแพร่กระจายโลกเป็นช่องทางเดียวกัน
สำหรับโรคซิฟิลิสเป็นโรคที่สามารถรักษาและป้องกันได้ โดยสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและยังพบว่าในผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจาย และสิ่งที่น่ากังวลคือพบในผู้หญิงตั้งครรภ์มีการส่งเชื้อให้กับลูกในครรภ์ ทำให้ทารกติดเชื้อตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจะส่งผลให้ทารกมีความผิดปกติ พิการใบหน้า
และในปัจจุบันยังพบว่าผู้ป่วยหลายรายมีการติดเชื้อซิฟิลิสซ้ำ ซึ่งในกรณีการติดเชื้อซ้ำอาการมักไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการแต่จะสามารถแพร่ให้บุคคลอื่นได้ หากผู้ป่วยไม่ได้เข้ารับการรักษาในระยะยาวจะส่งผลต่อระบบสมอง เช่น ทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองตีบหรืออาจทำให้ตาบอดได้
อย่างไรก็ตามสำหรับการป้องกันในปัจจุบัน อย่างกรณีโรคเอดส์หรือการติดเชื้อเอชไอวี มียาสำหรับป้องกันก่อนมีพฤติกรรมเสี่ยง ยาเพร็บ ทั้งชนิดกินและยาฉีดซึ่งสามารถเข้ารับได้จากสถานพยาบาลทุกแห่ง ควบคู่กับการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่สำหรับโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ยังไม่มียาป้องกัน แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการใส่ถุงยางอนามัยและเข้ารับการตรวจคัดกรองเมื่อมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือมีอาการป่วย
สำหรับพื้นที่เสี่ยงซึ่งพบผู้ป่วยเพิ่มมักเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว หรือมีสถานศึกษามหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวมไปถึงในจังหวัดซึ่งมีการจัดเทศกาล ซึ่งมีการรวมตัวของกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงจะพบว่าหลังการจัดเทศกาลต่างๆ จะมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพบว่าที่คลินิกนิรนามของสภากาชาดไทยเอง เมื่อใกล้ถึงช่วงเทศกาลหรือการจัดกิจกรรมบางอย่างจะมีกลุ่มผู้ที่รู้ว่าตนเองมีพฤติกรรมเสี่ยงจะเข้ามารับการฉีดวัคซีนและรับยาเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก่อนถึงช่วงวันงาน
และสำหรับพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นข่าวพบการระบาดของโรคซิฟิลิส รศ.นพ.โอภาส กล่าวว่าตามที่ได้ติดตามข้อมูลเข้าใจว่าเนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งมีมหาวิทยาลัย จึงมีการรวมตัวรวมกลุ่มของเยาวชนที่เข้ามาศึกษาและยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง และยังเข้าไม่ถึงองค์ความรู้หรือการป้องกันที่ถูกต้องจึงอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาด ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการคือนำองค์ความรู้เรื่องการป้องกัน ไปเผยแพร่ให้กลุ่มเสี่ยงได้รับทราบข้อมูลควบคู่กับการนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา จึงจะทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดสามารถควบคุมได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง โรคซิฟิลิส ,hiv ,โรคเอดส์ ,ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ,สภากาชาดไทย