จ่อฝากขัง "ทิดแย้ม-สาวคนสนิท" พรุ่งนี้ ด้าน ผบ.ตร.ยันเส้นเงินชัด มัดตัวยักยอกเงินวัด

ความคืบหน้าคดีของ "ทิดแย้ม" หรือ อดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และอดีตเจ้าคณะ 14 กับหญิงสาวคนสนิท ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดไร่ขิงกว่า 300 ล้านบาท ตำรวจเตรียมคุมตัวทั้งคู่ฝากขังพรุ่งนี้ แต่เราจะไปย้อนดูวินาที ลาสิกขาของทิดแย้มอีกครั้ง



ราว 1 ทุ่มกว่าของเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปรามอุ้มพระพุทธรูปปางสมาธิสีดำ เข้ามาในห้องสอบสวน บก.ปปป. ซึ่งมีอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 นั่งห่มจีวรให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอยู่



ซึ่งช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นหลังจาก สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลาง มีหนังสือคำสั่งให้ อดีตเจ้าคุณแย้ม "พัก" จากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ทำให้เมื่อคืนนี้ ราว 1 ทุ่ม 40 นาที อดีตเจ้าคุณแย้ม ยอมเปล่งวาจาลาสิกขาต่อหน้าพระพุทธรูปด้วยความเต็มใจ พร้อมกับนำชุดขาวมาให้เปลี่ยนสวมใส่แทน และกลายเป็น "ทิดแย้ม"



จากการสอบปากคำ "ทิดแย้ม" อ้างว่าถูก น.ส.อรัญญาวรรณ หญิงสาวคนสนิท ที่ทิดแย้มโอนเงินให้หลายร้อยล้านแบล็กเมล์ รวมทั้งมีเรื่องการยืมเงินอีกด้วย ก่อนจะถูกคุมตัวเข้าไปในห้องขังกองปราบปราม



มีรายงานว่า "ทิดแย้ม" นอนกับพื้นมีผ้าขนหนูคลุมหน้า ไม่ได้พุดคุยหรือเรียกร้องอะไร เป็นพิเศษ เช่นเดียวกับ นางสาว อรัญญาวรรณ ถูกคุมตัวในห้องขังกองปราบปรามเช่นกัน แต่อยู่คนละห้อง มีอาการเครียดเล็กน้อย เมื่อคืนนีั้เจ้าตัวยอมรับว่า รู้จักกับ "ทิดแย้ม" อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงจริง ตั้งแต่เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง



ต่อมาในปี 2564 ขอยืมเงิน 40 ล้านบาทจากทิดแย้มมาลงทุน หลังจากนั้นก็เริ่มสนิทกัน โทรศัพท์ และวิดีโอคอลพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนชักชวนเล่นพนันออนไลน์ และในโทรศัพท์ยังพบคลิปอาบน้ำที่เธอส่งให้ "ทิดแย้ม" ด้วย นอกจากนี้ในแชทยังพบการทวงเงินกัน 4 ครั้ง ครั้งละ 5 แสนบาท



ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนบอกว่า จะคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตฝากขังพรุ่งนี้ (17 พ.ค. 68) ก่อน 10 โมง



พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีนี้ที่ บก.ปปป. ด้วย พร้อมบอกว่า คดีนี้มีความชัดเจนมาเรื่องของเส้นเงินจากวัดเข้าบัญชีส่วนตัว และโอนจากบัญชีส่วนตัวไปยังบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่กิจของวัดหรือกิจของสงฆ์ ซึ่งจะขยายผลเพื่อเป็นองค์ประกอบพิสูจน์ทราบการกระทำความผิด พ.ร.บ.สงฆ์ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในการทุจริต ซึ่ง ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องนี้กลับมาให้ตำรวจตรวจสอบ ว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง และร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่



ผบ.ตร.ย้ำด้วยว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ การเอาเงินวัดไปใช้ส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์ กับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเว็บพนันออนไลน์ จะขยายผลหลังจากนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SeZVtYN7GSA