สังคม

"บิ๊กเต่า" เผย "หมอเตย-สามี" ยังลอยหน้าลอยตา ไร้สำนึก ปฏิเสธทุกอย่าง อ้างทรัพย์สินได้มาจากการทำงาน

โดย panisa_p

30 พ.ค. 2568

148 views

ตำรวจ บก.ปปป.บุกจับ เตยและสามี ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง ทั้งคู่ยังปฏิเสธ อ้างทรัพย์สินทั้งหมดได้มาจากการทำงาน ไม่ได้ร่วมยักยอกเงินวัด



วานนี้ (29 พ.ค.68) ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมตำรวจกองปราบปราม บุกจับนาง พชรพร หรือ เตย อายุ 52 ปี และพันจ่าเอก ฉัตรชัย หรือจ่าชัย อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ขณะซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักซึ่งอยู่ในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม



ซึ่งตอนเข้าจับตำรวจพยายามตะโกนเรียกตรงรั้วบ้านอยู่นาน แต่ไม่มีใครมาเปิดประตู เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเดินอ้อมผ่านป่าหญ้าเข้าด้านข้างของค่ายลูกเสือ แล้ววิ่งบุกเข้าไปในบ้าน ซึ่งก็เจอทั้งคู่อยู่ในบ้านจริงๆ จึงคุมตัวมานั่งที่โต๊ะม้าหินหน้าบ้าน



จากนั้นอ่านหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ว่ามีความผิดในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันฟอกเงิน



ก่อนจะคุมตัวทั้งคู่ขึ้นรถกระบะสีน้ำเงินมาที่กองปราบ พร้อมยึดรถยนต์ และมอเตอร์ไซต์มาด้วย เพราะเป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นระหว่างที่เตยและจ่าชัยได้มาขณะรู้จักกับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงแล้ว ถือว่าเป็นของกลางในคดี



ตอนที่ลงจากรถจะเห็นว่านายตำรวจคนที่นั่งข้างทั้งคู่มาในรถกระบะ คือ ร้อยตำรวจเอก นิติธร ประชันกาญจนา หรือ ผู้กองธร สายลับวัดไร่ขิง ทันทีที่ลงจากรถนักข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงจากทั้งคู่ แต่ไม่มีใครตอบอะไร ทั้งคู่ลงมาจากรถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินเข้าไปในตึกกองปราบปราม



และจังหวะนี้เองที่ เตย โผเข้ากอดจ่าชัย แต่จ่าชัยกลับหันมากอดผู้กองธร สายลับวัดไร่ขิง แล้วพูดคุยกันสักพัก และสวมกอดกันอีกรอบ ก่อนจะคุมตัวทั้งคู่ขึ้นไปยังห้องสอบสวน



ส่วนการแกะรอยจนเจอเตยกับสามีนั้น มีรายงานว่า ชุดสืบสวนของกองปราบและ บก.ปปป. เจาะข้อมูลมาโดยตลอดแต่เตยปิดโทรศัพท์ ทีแรกคิดว่าหนีไปที่อื่นแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาทั้งสองใช้โทรศัพท์ของคนอื่น ติดต่อมาที่เด็กวัดคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่แกะรอยจากสัญญาณโทรศัพท์จนกระทั่งพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนหลบหนีมาอยู่ที่ค่ายลูกเสือฯ ดังกล่าว



กระทั่ง 3 ทุ่ม พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ บิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาเปิดเผยภายหลังสอบปากคำทั้งคู่ว่า ทั้งสองคนยังไม่ความร่วมมือ และปฏิเสธทุกเรื่อง จากการพูดคุยทั้งคู่ยังไม่สำนึกในสิ่งที่ตนเองทำ ส่วนทรัพย์สินทั้งหมดที่ตรวจสอบได้ทั้งบ้าน รถ อ้างว่ามาจากการทำงาน เป็นเงินของพวกเขาเอง



แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า ทั้งคู่ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร เปิดร้านกาแฟก็ไม่มีลูกค้า ค่ายเพลงก็มีรายได้เข้ามาแค่หลักหมื่น แต่รายจ่ายเป็นแสน หากรวมเงินหมุนเวียนในบัญชีและทรัพย์สินต่างๆ ของเตย ก็จะมีประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งมันสวนทางกับรายรับที่เข้ามา พอเจ้าหน้าที่จึงเอาพยานหลักฐานต่างๆ ให้เตยและจ่าชัยดู แต่เตยยังปฏิเสธและลอยหน้าลอยตาไม่ยอมรับ



มีรายงานว่า เตย มีชื่อครอบครองรถยนต์ทั้งหมด 23 คัน มีชื่อครอบครองโฉนดที่ดินในจังหวัดมุกดาหาร เชียงใหม่ กำแพงเพชร ขอนแก่น และร้านกาแฟในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และอีกหลายจังหวัด รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ตำรวจเตรียมเข้าอายัดทรัพย์ทั้งหมดในสัปดาห์หน้า



สำหรับความสัมพันธ์ของเตยกับทิดแย้ม ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ปี 2551 เตยจะตามทิดแย้มไปทุกที่ และนำเงินที่ทิดแย้มให้มาไปซื้อที่ดินสร้างศูนย์วิปัสสนาไว้หลายที่ โดยอ้างตัวว่าเป็นเพียงลูกศิษย์ไม่มีเรื่องชู้สาวมาเกี่ยวข้อง ส่วนจ่าชัยจะทำตามคำสั่งของเตยทุกอย่าง



ดังนั้นพนักงานสอบสวนต้องไปสอบปากคำทิดแย้มอีกครั้งว่า ทำไมถึงเชื่อเตยขนาดนั้น บางคนบอกว่าทิศแย้มโดนของ แต่ส่วนตัวมองว่า ก่อนหน้านี้ทิดแย้มคงเป็นพระที่ดี แต่อาจจะมาเจอเตยพูดจาหว่านล้อมหลอกทิดแย้มหรือไม่



นอกจากเตยและสามีที่โดนออกหมายจับแล้ว นาย เอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ก็ถูกดำเนินคดีด้วยในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ จัดการทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์เป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน เช่นกัน เพราะมีเส้นเงินที่โอนไปให้กับนางสาว อรัญญาวรรณ โดยตรง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ



เช่นเดียวกับทิดแย้ม และนางสาวอรัญญาวรรณ พนักงานสอบสวนจะเข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ หมายถึง ตรวจพบการยักยอกและโอนเงินให้กันกี่ครั้ง ก็จะแจ้งแยกเป็นรายคดี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gG1DrPbW47Q

แท็กที่เกี่ยวข้อง  หมอเตย ,ทิดแย้ม ,บิ๊กเต่า

คุณอาจสนใจ

Related News