รวบคาห้อง โจรชิงทอง 160 บาท พบเป็น "พ.จ.อ." กำลังดูคลิปวิธีหลอมทอง สารภาพเครียด เป็นหนี้ 5 แสน

ทหารชิงทองสารภาพ เครียดเป็นหนี้ครึ่งล้าน จึงวางแผนชิงทองน้ำหนัก 160 บาท ห้างดังย่านบางปะอิน ตำรวจแกะรอย 3 วัน ตามจับได้คาห้องพักย่านสายไหม กทม. สุดอึ้ง! กำลังดูวิธีหลอมทอง เตรียมแปรสภาพทองที่ขโมยมาก่อนนำไปขาย



กรณีคนร้ายเป็นชาย ควงปืนบุกชิงทองรูปพรรณ ห้างทองชื่อดัง ภายในห้างสรรพสินค้า ย่านบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้สร้อยคอทองคำ รวมทั้งสิ้นน้ำหนัก 160 บาท มูลค่าประมาณ 7.8 ล้านบาท หลังก่อเหตุได้นั่งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างหลบหนีไป เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา



ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แกะรอยจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานต่าง ๆ จนพบรถกระบะต้องสงสัย มาจอดไว้ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง ใกล้กับห้างสรรพสินค้า ก่อนก่อเหตุ 1 วัน เพื่อมาดูลาดเลา โดยในวันก่อเหตุได้มาจอดรถไว้ลานจอดรถที่เดิม แล้วเดินเท้าไปที่ห้างสรรพสินค้า ตรงเข้าไปชิงทอง แล้วเดินเท้าออกมาว่าจ้างวินรถมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งใกล้กับจุดที่จอดรถ ซึ่งมีกล้องหน้ารถจากรถบรรทุกที่วิ่งผ่าน เห็นตอนคนร้ายจ่ายเงินให้วินมอเตอร์ไซค์



ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของรถกระบะต้องสงสัย จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ พันจ่าอากาศเอก วรพจน์ อายุ 43 ปี ชาวอุบลราชธานี จึงตามไปจับกุมได้คาห้องพัก ย่านสายไหม กทม. ซึ่งตอนเข้าไปจับกุม ผู้ต้องหากำลังสืบค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เรื่องการหลอมทอง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการเตรียมหลอมทองเพื่อนำไปขาย จึงได้ยึดของกลางทองรูปพรรณ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใส่ในวันก่อเหตุ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.พระอินทร์ราชา



วันนี้ พลตำรวจโท สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการจับกุม พันจ่าอากาศเอก วรพจน์ พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ 12 เส้น ปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เสื้อผ้า รองเท้า และหมวกที่ใส่ก่อเหตุ รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน อุบลราชธานี



เบื้องต้นผู้ต้องหา ระบุว่า ก่อเหตุเนื่องจากมีหนี้สินประมาณ 5 แสนบาท จนเครียดหาทางออกไม่ได้ และเคยเข้ามาแวะเข้าห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ เห็นว่ามีร้านทองอยู่ในห้าง ใกล้กับทางเข้าออก จึงกลับไปวางแผน แล้วกลับมาทำทีซื้อของเพื่อดดูลาดเลาในวันที่ 22 มีนาคม



จากนั้นในวันที่ 23 มีนาคม ช่วงบ่าย 2 ก็กลับมาทำทีซื้อของอีกครั้ง เพื่อดูลาดเลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนขับรถกระบะไปจอดในลานดิน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งตรงนี้เป็นจุดอับ ไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเดินเท้าเข้ามาก่อเหตุ แล้วว่าจ้างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ให้ไปส่งที่บริเวณใกล้กับจุดที่จอดรถ ก่อนขับกระบะหลบหนี



เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่เห็นหรือจำหน้า ได้โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุม / และข้อหาพกพาปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งนี้ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ทำแผน



ขณะที่ พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เผยว่า เมื่อวานนี้ช่วง 2 ทุ่มครึ่ง กองทัพอากาศได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ขอรับการสนับสนุนในการเข้าร่วมปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างตำรวจ และสารวัตรทหารอากาศ ทำให้สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้ ซึ่งกองทัพอากาศขอยืนยันถึงความมุ่งมั่น ในการรักษาวินัย และมาตรฐานของกำลังพล และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เพื่อให้การดำเนินคดีไปเป็นอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/0MMtNFY0eAk