สังคม

ครอบครัวเศร้ารับร่าง 'รองหรั่ง' ตำรวจ 10 สน.ตั้งแถวร่วมรับศพ-ลูก ผู้ก่อเหตุ เข้ากราบขอขมาแล้ว

โดย parichat_p

22 ก.ค. 2567

114 views

กรณีรองหรั่ง รองผู้กำกับการงานป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม โดนยิงเสียชีวิต ขณะพยายามเข้าช่วยเหลือหญิงสาว ที่ถูกพ่อจับเป็นตัวประกันอยู่ภายในบ้าน ล่าสุดวันนี้ครอบครัวของรองหรั่งมารับศพไปบำเพ็ญกุศล โดยมีตำรวจ 10 สน.ตั้งแถวร่วมรับศพ


ความสูญเสียครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 21.45 น. คืนวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อพันตำรวจโท กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ หรือ รองหรั่ง รองผู้กำกับการงานป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม พยายามวิ่งเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกพ่อแท้ๆ ใช้ปืนจี้จับเป็นตัวประกันอยู่ภายในบ้านพักที่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ที่หมู่บ้านดีเค ซอย 2 ถนนพระรามสอง แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพ แต่พลาดท่าโดน นาย บุญมา หรือ เฮียตุ้ง อายุ 49 ปี ยิงสวนออกมา 3 นัด กระสุนเข้าที่อกทุกนัด


ซึ่งการเข้าช่วยเหลือก็ทำได้ยาก เพราะผู้ก่อเหตุไม่ยอมวางปืน จนลูกน้องของรองหรั่งต้องใช้โล่ห์เหล็กบัง แล้วเจรจานานกว่า 3 นาที เพื่อขอนำตัวรองหรั่งไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน รองหรั่งเสียชีวิตในคืนนั้น เช่นเดียวกับผู้ก่อเหตุสุดท้ายก็ตัดสินใจใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าที่ขมับขวาของตัวเองเสียชีวิตอยู่บนเตียงชั้นลอยของบ้าน ซึ่งทั้ง 2 ศพถูกส่งมาชันสูตรที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21ก.ค.67)


เช้าวันนี้ (22ก.ค.67) พันตำรวจโทหญิง ชนม์ณกานต์ จันยะรมณ์ รอง ผู้กำกับการกองอัตรากำลัง สำนักงานกำลังพล และร้อยตำรวจโท วันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ภรรยาและลูกชายของรองหรั่ง เดินทางมารับสพด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า ท่ามกลางเพื่อนตำรวจที่มาร่วมรับศพจำนวนมาก


ทีมข่าวพยายามจะสอบถามภรรยาและลูกชายของรองหรั่ง เกี่ยวกับเรื่องราวประวัติชีวิตการทำงานของรองหรั่ง แต่ทั้งคู่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงปฏิเสธให้สัมภาษณ์


ด้านพันตำรวจโทหญิง จิราวรรณ ธัญญะเจริญ พี่สาวรองหรั่ง ที่เดินทางมารับศพด้วย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแทน พร้อมระบุว่า ภูมิใจในตัวน้องมากๆ เขารักงานและครอบครัวมาก ทุกวันจะต้องเปิดวิทยุสื่อสารเพื่อฟังเหตุ แม้ขนาดเฝ้าแม่ที่ป่วยก็ยังฟังวิทยุตลอด ไม่ยอมแจ้ง ผู้บังคับบัญชา เขาทำงานมาหลายพื้นที่ทั้งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ภาคอีสาน และทำทุกตำแหน่งโดยไม่เกี่ยงงาน เพราะที่ผ่านมาพ่อของเราปลูกฝังให้ทุกคนในครอบครัวเป็นตำรวจ ทำให้อาชีพตำรวจเป็นสายเลือดของครอบครัวเรา และอยากบอกน้องว่า ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว ถึงจะไปเกิดชาติภพไหน น้องก็จะไม่อายใครในอาชีพที่น้องผ่านมา


ทีมข่าวสอบถามว่าวันนี้ลูกสาวของผู้ก่อเหตุจะไปร่วมงานศพของรองหรั่งด้วยทางครอบครัวจะว่าอย่างไร พี่สาวของรองหรั่งบอกว่า เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ลูกของผู้ก่อเหตุไม่ได้มีความคิดที่จะให้รองหรั่งต้องมาเสียชีวิต เป็นเหมือนโชคชะตามากกว่า ครอบครัวก็ทำใจแล้ว ไม่มีความโกรธแค้นอะไร เพราะสูญเสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย


จากนั้นราว 11.00 น. ศพของรองหรั่งก็ถุกเคลื่อนออกมาจากหน่วยนิติพญาธิ โรงพยาบาลศิริราช โดยมีผู้หมวด วันรัฐธ์ ลูกชาย ถือรูปพ่อซึ่งสวมชุดปกติขาวเดินนำออกมา ท่ามกลางตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 จำนวน 10 โรงพัก ที่มาตั้งแถวอยู่ด้านนอกเพื่อร่วมไว้อาลัยในความสูญเสียครั้งนี้


จากนั้นครอบครัวรองหรั่งได้ขับรถมาที่หน้าบ้านของเฮียตุ้ง จุดที่รองหรั่งโดนยิงพร้อมนำภาพถ่ายของรองหรั่ง มาตั้งบนโต๊ะ พร้อมนำอาหาร ขนม ที่เป็นของเซ่นไหว้มาวางไว้ จากนั้นนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ แล้วใช้กระดาษจุดไฟเผา ให้ญาติเรียกดวงวิญญาณกลับขึ้นรถ ไปที่วัดยางสุทธารามเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา


ขณะที่หน้าบ้านทีมข่าวไปสำรวจตั้งแต่เช้าพบว่าร้องรอยคราบเลือดของรองหรั่งยังปรากฎอยู่เหมือนเดิม แต่ประตูหน้าบ้านถูกล็อคด้วยแม่กุญแจ มีแค่ไฟ 1 ดวงที่เปิดไว้ และไม่มีใครอยู่ที่บ้านหลังนี้



ร่างของรองหรั่งถูกเคลื่อนมาถึงศาลา 3 วัดยางสุทธาราม ช่วงเที่ย 45 นาที โดยภรรยาและลูกชาย ได้นำรูปภาพและกระถางธูปขึ้นไปตั้งไว้ ทีมข่าวสังเกตว่า ลูกชายยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า และบอกว่าไม่สะดวกให้สัมภาษณ์


ขณะที่ พันตำรวจโท วันเผด็จ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ซึ่งเป็นหลานของพันตำรวจโท กิตติ์ชนม์ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจหลังจากทราบเหตุ แต่ส่วนตัวเข้าใจว่า ในวันเกิดเหตุอาคงคิดว่าเหตุเบาลงแล้ว เพราะตอนแรกเห็นอาใส่ชุดเกราะ และเจรจากับผู้ก่อเหตุแล้ว ประกอบกับภรรยาของผู้ก่อเหตุห่วงลูก อยากให้นำตัวลูกออกมาจากบ้าน อาจึงเข้าไปชาร์ต แต่ลูกผู้ก่อเหตุวิ่งสวนออกมาจึงทำให้อาเสียหลัก และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เชื่อว่าอาประเมินสถานการณ์มาแล้ว เพราะบ้านหลังนี้เกิดเหตุการณ์ประมาณนี้หลายครั้งแล้ว


แม้จะเป็นการสูญเสีย แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์ เพราะหากอาไม่ถูกยิง อาจจะเป็นเด็กที่ถูกยิงก็ได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่อยากโทษใคร เพราะมองว่าทุกชีวิตสำคัญเท่ากัน และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8RRMYAWeEY8

คุณอาจสนใจ

Related News