สังคม

'ทนายตั้ม' แฉยับเส้นเงินส่วย 18 ธุรกิจถึง 'บิ๊ก ต.' ปัด 'บิ๊กโจ๊ก' อยู่เบื้องหลัง

โดย panwilai_c

26 มี.ค. 2567

92 views

ทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแฉเส้นทางการเงินส่วยถึงบิ๊กตำรวจ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกรับเงินจาก 2 กองบังคับการ และ 1 กองบัญชาการ เรียกเงินจากธุรกิจสีเทา สีดำ 18 ประเภท รวมแล้วได้เงินกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ทนายตั้มยืนยันไม่ได้รับงานใคร ประสาน "บิ๊กเต่า" เข้าแจ้งความ 28 มีนาคมนี้



การแถลงข่าวครั้งนี้ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับอีก 9 นาที โดยเริ่มแถลงในเวลา 11 โมงตรง ที่สำนักงานษิทรา ลอว์ เฟิร์ม โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ใส่เสื้อยืดสีขาวมานั่งแถลง พร้อมบอกว่า มาแถลงในฐานะของเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และก่อนแถลงได้ปรึกษาครอบครัวแล้ว เพราะเรื่องที่จะแถลงเกี่ยวกับนายตำรวจใหญ่ที่ไม่มีใครอยากยุ่ง หลายคนบอกว่า "โง่" รึเปล่า ยืนยัน "ยอมโง่" เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าท่านผู้พิพากษาดูอยู่ช่วยเห็นใจด้วย เพราะในอนาคตอาจจะถูกฟ้อง และการแถลงข่าววันนี้ไม่รู้ว่าจะช่วยให้ปัญหารับส่วยดีขึ้นไหม แต่อย่างน้อยให้ประชาชนได้รู้



การแถลงครั้งนี้มีตัวละครหลัก 3 คน คือ ดาบ ย. สังกัดคอมมานโด ทำหน้าที่รวบรวมเงินทุกทีมส่งข้างบน / รอง ฟ. คนสนิทของบิ๊ก ต. นรต.รุ่น 61 รุ่นเดียวกับพ่อบ้านของบิ๊ก จ. / และ บิ๊ก ต. นายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเชื่อว่าถ้าดูอยู่น่าจะโมโหแน่นอน แต่ตัดสินใจแล้วว่าจะทำ



จากนั้นเริ่มเล่าย้อนว่า เมื่อก่อน บิ๊ก ต. มีอำนาจดูแลเพียง 2 กองบังคับการ คือ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด ต่อมาพลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง หรือบิ๊กแจง ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ได้เลื่อนขึ้นไปเป็นตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. บิ๊ก ต. จึงส่งลูกน้องเข้าไปดูแลงานใน สอท.แทน ซึ่งมีผลประโยชน์มากมายมหาศาล เพราะดูแลเว็บไซต์พนันออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ



และ 3 หน่วยงานนี้ คือ หน่วยงานหลักที่เก็บส่วยให้กับนายตำรวจระดับสูง หรือที่เรียกว่า ตีตั๋วจาก 18 ธุรกิจสีเทาและสีดำ ได้แก่ 1.เว็บพนัน 2.บ่อนการพนัน-ไพ่ 3.เงินกู้ไทย-แขก 4. หวยใต้ดิน 5.สถานบันเทิง สถานบริการ ผับ 6.ร้านวดแฝงขายบริการ 7. อาบอบนวด 8.โรงซาวน่า 9. ร้านเหล้าที่มีพีอาร์ 10. บุหรี่ไฟฟ้า 11. บุหรี่หนีภาษี 12. ตลาดนัด 13.สถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว 14. จุดรับซื้อน้ำมันเถื่อน 15. น้ำมันเขียว 16. โต๊ะสนุ๊ก 17.แขกขายโรตี 18. คนขายยา และธุรกิจขายเซ็กซ์ออนไลน์



โดยมีทีมแม่บ้าน 5 ทีมทำหน้าที่ดูแลเรื่องเงิน แบ่งเป็นชุดที่เก็บเงินได้มากที่สุด คือ ชุดภาคตะวันออก มี "จ่า ก." เป็นหัวหน้าชุดแม่บ้าน ในทีมีดาบ ท. ดาบ พ. ดาบ ต. และดาบ จ. ส่งตั๋วเดือนละ 8-9 ล้านบาท



ชุดที่ 2 ดูแลภาค 3 ภาค 4 และภาค 7 หรือโซนอีสานตอนบนกับภาคใต้ตอนบน มี "ดาบ ช." เป็นแม่บ้าน ส่วน ชุดที่ 3 ดูแลภาค 1 หรือรอบกรุงเทพ และนครบาลบางพื้นที่ มี "ดาบ ส." เป็นแม่บ้าน



ชุดที่ 4 ดูแลภาค 5 และภาค 6 คือโซนภาคเหนือและอีสานตอนบน มี "ดาบ บ." เป็นแม่บ้าน และชุดที่ 5 ดูแลภาค 8-9 คือ โซนภาคใต้ พื้นที่นี้เก็บได้ไม่เยอะจึงใช้วิธีเหมาจ่าย เช่นเหมาเดือนละแสนเป็นต้น ที่เหลือเอาไป มี "ดาบ ย." เป็นแม่บ้าน



ทั้ง 5 สายจะโอนเงินเข้าบัญชีม้า 3 บัญชีหลัก ได้แก่ บัญชีชื่อ นายณัฐพงค์ และบัญชีชื่อนายมงคล มี "ดาบ ย." เป็นผู้ดูแล บัญชีชื่อ นายคชาชาญ มี "รอง ฟ." เป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ยังมี "จ่า ก." ที่ถือบัญชีม้าอีก 4 บัญชี เป็นบัญชีของคนตาย 2 บัญชี และทั้งหมดต้องส่งเงินให้นายตำรวจใหญ่ทุกวันที่ 25 ของเดือน



โดยจุดรับเงินมี 2 แห่ง คือ ที่ สอท. เมืองทองธานี ในห้องทำงานของ รองผู้บัญชาการ ซึ่งมีห้องทำงานของ รอง ฟ. อยู่ อีกจุกเป็นอาคารคอมมานโด กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ บอกว่าอยู่ที่ชั้น 6 ห้องในสุด คือ จุดที่รับเงินมี ดาบ ย. คอย



อีก 1 หลักฐานสำคัญที่เอามาเปิด คือ ภาพแชทไลน์ของทีมเก็บเงินที่คุยกับ ดาบ ย. ส่งหลักฐานการโอนเงินไป ซึ่งสลิปที่นำมาแสดงอยู่ในช่วงปี 2565



หลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ดาบ ย. และรอง ฟ. เกี่ยวพันแน่นอน คือ วงจรปิดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่ปั้ม ปตท.แห่งหนึ่งจะเห็นชายคนหนึ่งที่ถูกระบุว่าเป็น "บัญชีม้า" ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่มีชื่อของ พ่อรอง ฟ. มากดเงิน และมีภาพของดาบ ย. มายืนกำกับด้วย



จากการตรวจสอบเส้นเงินพบว่า มีเส้นเงินของพิมพ์วิไล ผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน โอนเงินผ่านบัญชีม้าของตัวเอง ไปยังบัญชีของ "คชาชาญ" บัญชีม้าที่ "รอง ฟ." ถือ แล้วโอนต่อไปยัง พี่สาว ญาติ สมาคมนักข่าว และวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีด้วย และวัดแห่งนี้มีชื่อของ บิ๊ก ต. เป็นประธานทอดกฐินเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ด้วย



จากนั้นทนายตั้มถามคนในไลฟ์ว่าจะให้แจ้งความที่ไหนดี กับใครดี และมีความเห็นเสนอมาว่าให้ร้องเรียนไปที่ "บิ๊กเต่า" พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้ต่อสายโทรศัพท์ไปทันที บอกว่า จะนำเอกสารไปแจ้งความกับบิ๊กเต่าโดยตรง แต่บิ๊กเต่าบอกว่า วันนี้มาทำจิตอาสาที่ชะอำ ไม่สะดวก สามารถไปยื่นได้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งทนายบิ๊กโจ๊ก ปฏิเสธ พร้อมร้องขอว่า ต้องการจะยื่นกับบิ๊กเต่าโดยตรง จึงนัดหมายว่าจะไปยื่นวันพฤหัสบดีที่28 มีนาคมนี้ ประมาณ 11 โมง เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจที่ปรากฎว่าเกี่ยวข้องกับส่วย



หลังจากนั้นเปิดให้นักข่าวถาม ซึ่งนักข่าวหลายสำนักถามว่าข้อมูลเหล่านี้มีใครให้มา ทนายตั้ม บอกว่า หลายคนอาจสงสัยว่า "บิ๊กโจ๊ก" หรือไม่ เพราะเห็นว่าสนิทกัน ยืนยัน ไม่ใช่บิ๊กโจ๊ก แต่บิ๊กโจ๊กโทรศัพท์มาบอกว่าอย่าเปิด ถ้าเปิดไปเขาจะไม่ได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันข้อมูลที่นำมาเปิดเผยครั้งนี้ ไม่ได้รับงานใครมาและไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่ต้องการให้สังคมรับรู้ข้อมูล แม้จะรู้ว่าอาจได้รับอันตรายจากการออกมาเปิดเผย และยังบอกด้วยว่า ก่อนแถลงข่าว มีนายตำรวจใหญ่ที่เพิ่งรับตำแหน่งติดต่อมาเพื่อขอทราบข้อมูล ไม่ได้ขอให้ยกเลิกการแถลงข่าว



ทนายตั้มย้ำด้วยว่า ถ้าตำรวจจะโกรธควรไปโกรธนายตำรวจใหญ่ที่เอาชื่อขององค์กรมาแอบอ้างหาผลประโยชน์ หากนายเศรษฐา ทวีวิน นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เห็นการแถลงข่าวและเห็นว่าข้อมูลที่นำมาเปิดเผนมีประโยชน์ ต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติม ก็ยินดีจะเข้าไปพบด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/o2Q-z5mEpHU

คุณอาจสนใจ