สังคม

นักศึกษาสาวร้อง ถูกหนุ่มไฮโซหื่นทักไอจี ก่อนลวงขึ้นรถขืนใจ พบผู้เสียหายอีกหลายราย

24 พ.ย. 2568

945 views

นักศึกษาสาวร้อง ถูกหนุ่มไฮโซหื่นทักไอจี ก่อนลวงขึ้นรถพาไปซอยเปลี่ยวขืนใจ ซ้ำโทรทวงค่าเรียกไรเดอร์ ขู่ห้ามแจ้งความ พบผู้เสียหายอีกหลายราย

วันที่ 24 พ.ย.2568 นางสาวเอ นักศึกษาสาว วัย 19 ปี พร้อมนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกชายไฮโซก่อเหตุลวงขึ้นรถไปซอยเปลี่ยวก่อนบังคับข่มขืนใจนรถ พบมีผู้เสียหายแล้วอย่างน้อย 4 ราย

ด้านนางสาวเอ (สงวนนามสกุล) นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้จักกับชายผู้ก่อเหตุผ่านอินสตาแกรม โดยเขาทักเข้ามาพูดคุยตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.68 หลังเห็นที่ตนลงสตอรี่ขณะออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อน และพยายามชวนให้ออกมาเจอ แต่ในวันนั้นอยู่ที่สนามกอล์ฟย่านรังสิตจึงไม่ได้ไปพบ

ต่อเนื่องวันที่ 22 พ.ย. ตนไปหาเพื่อนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน เวลาประมาณ 05.00 น. ซึ่งตอนนั้นร้านปิดแล้ว ชายผู้ก่อเหตุทักมาขอโลเคชั่นเพื่อมาขอเจอ ด้วยความรำคาญจึงส่งให้และชวนให้เข้ามาในร้านเพราะมีเพื่อนอยู่ด้วย แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเข้ามา เมื่อขับรถมาถึง ได้โทรบอกว่าอยากเจอเพียง 5 นาที เลยตัดสินใจเดินออกไปหาและพูดคุย แต่เขาบอกให้ขึ้นรถมาคุย ตนเห็นว่าคงไม่มีอะไรเพราะอยู่หน้าร้าน

แต่พอขึ้นรถไปชายผู้ก่อเหตุขับรถออกจากร้านไปโดยทันที ขณะอยู่บนรถเขาได้อวดอ้างว่าตนเป็นคนรวย ใช้เงินวันละ 800,000 บาท ก่อนพาไปจอดในซอยเปลี่ยว ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ลักษณะมืด ไม่มีรถผ่าน เมื่อจอดรถ ชายคนดังกล่าวพยายามถอดกางเกงของเธอ ก่อนดึงตัวไปด้านหลังรถและลงมือข่มขืน เธอเล่าว่าถูกบีบคอ ปิดปาก กระชากผม ขู่ไม่ให้ขัดขืน แม้จะพยายามดิ้นสู้แต่แรงผู้ชายมากกว่า เหตุการณ์กินเวลาประมาณ 40 นาที

เมื่อเสร็จความใคร่ ผู้ก่อเหตุได้พาไปส่งใกล้จุดเกิดเหตุ และเรียกไรเดอร์ให้ไปส่งที่หอพัก ต่อมาเขาโทรกลับมาทวงค่ารถ 336 บาท อีกทั้งยังโทรมาขู่ หากแจ้งความเขาจะฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาทและจะนำทนายความมาจัดการ

ผู้เสียหายระบุว่า หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน พร้อมตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ และส่งผลให้พนักงานสอบสวน ยืนยันว่ายังมีเหยื่อรายอื่นๆ อีก โดยหลังเพื่อนนำเรื่องราวของเธอโพสต์บนโซเชียล ได้มีคนติดต่อเข้ามาบอกว่าเคยถูกกระทำลักษณะเดียวกัน เชื่อว่ามีผู้เสียหายแล้วอย่างน้อย 4 ราย

สำหรับเคสแรก นางสาวบี เล่าว่า คืนวันที่ 21 พฤศจิกายน ตนไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน 4 คน ที่ผับแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ขณะนั่งดื่มได้สังเกตเห็นกลุ่มชาย 2–3 คนยืนดื่มอยู่ใกล้โต๊ะ สักพักมีรุ่นน้องในกลุ่มดังกล่าวมาขอชนแก้ว ก่อนที่ชายผู้ก่อเหตุจะเข้ามาพูดคุย โอ้อวดว่าทำธุรกิจหลายอย่าง

เมื่อผับปิด ผู้ก่อเหตุยืนยันจะไปส่งตน ขณะที่เพื่อนของตนมีแฟนมารับ ทำให้ต่างแยกย้ายกัน ส่วนตนขึ้นรถของผู้ก่อเหตุ ในเวลาประมาณ 04.40 น. ตนสอบถามว่าผู้ก่อเหตุเมาแล้วยังขับไหวหรือไม่ แต่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่เป็นไร พร้อมโทรหาเพื่อตรวจเช็กด่าน ก่อนขับรถเข้าไปในซอยปรีดี พนมยงค์ ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยว มีป่าข้างทางและบ้านเรือนอยู่ประปราย

ผู้เสียหาย ระบุว่า ผู้ก่อเหตุจอดรถและพยายามขอจูบ ตนปฏิเสธและพยายามหาโอกาสหนี โดยส่งข้อความและโทรหาเพื่อน แต่ผู้ก่อเหตุยึดโทรศัพท์และไม่ยอมให้ติดต่อใคร ตนอาศัยจังหวะขอออกจากรถเพื่อติดต่อเพื่อน แต่ผู้ก่อเหตุตามลงมา

ต่อมา ผู้ก่อเหตุพาตนกลับขึ้นรถและไปจอดในอีกซอยหนึ่งไม่ไกลกัน จากนั้นเริ่มก่อเหตุลวนลาม ถอดกางเกง และสั่งให้ช่วยชักอวัยวะเพศ ขณะที่ตนพยายามปฏิเสธ ผู้ก่อเหตุยังขืนใจ ใช้นิ้วล่วงละเมิด และพยายามสอดใส่อวัยวะเพศ ทำให้ตนต้องเกร็งและแกล้งทำเป็นเจ็บเพื่อให้หยุด

ระหว่างนั้นมีรถคันหนึ่งมาจอดข้างหน้า ผู้ก่อเหตุคิดว่าเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย เธอจึงรีบลงจากรถไปขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงที่อยู่ในรถคันดังกล่าว ก่อนรีบขึ้นรถซึ่งเป็นรถไรเดอ์ คนขับอาสาพาไปส่งที่ร้านสะดวกซื้อย่านสุขุมวิท

เมื่อถึงร้านสะดวกซื้อ ตนโทรหาเพื่อนเพื่อเล่าเหตุการณ์ ทำให้พนักงานในร้านเห็นอาการหวาดกลัวและพยายามช่วยล็อกประตูร้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาตาม

จนถึงขณะนี้ตนเองยังไม่ได้เข้าแจ้งความ เนื่องจากยังไม่มีเวลา แต่ยอมรับว่าขยะแขยงผู้ก่อเหตุอย่างมาก ถึงขั้นต้องซื้อแอลกอฮอล์มาบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดตัวเอง

ผู้เสียหายฝากเตือนผู้หญิงให้ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง อย่าให้คนแปลกหน้าไปส่งกลับบ้าน และควรให้เพื่อนหรือผู้ที่ไว้ใจได้พากลับเพื่อความปลอดภัย

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า กรณีนี้มีผู้เสียหาย 19 ปี แจ้งความไว้แล้วที่ สน.พหลโยธิน ส่วนอีกเคสยังไม่ได้แจ้งความ จึงประสาน พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ รวมถึง สน.พหลโยธิน เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ยืนยันว่าพฤติกรรมชัดเจนเข้าข่ายความผิดฐานข่มขืน ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุก 20 ปี

นายเอกภพ ระบุว่า อยากเตือนผู้หญิงให้ระวังการไว้ใจคนแปลกหน้า แม้ผู้เสียหายในสองเหตุการณ์นี้ยังโชคดีที่ปลอดภัยกลับมาได้ แต่หลายกรณีไม่ได้รอดเช่นนี้ พร้อมฝากเตือนผู้ชายให้ยับยั้งชั่งใจ อย่าก่อเหตุล่วงละเมิดผู้อื่น เพราะเป็นอาชญากรรมร้ายแรงและมีโทษหนัก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ลวงข่มขืน ,ไฮโซหื่น

คุณอาจสนใจ