เตือนไต้ฝุ่น ‘คัลแมกี’ เข้าไทย 7 พ.ย. ย้ำ 9 จังหวัดอีสานใต้ เจอฝนหนัก เพิ่มความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

เมื่อวานนี้ (6 พ.ย.68) ที่ศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ  กองพยากรณ์อากาศ อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา  ดร.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงข่าวเปิดศูนย์ติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” พบว่าขณะนี้พายุมีความเร็วลมศูนย์กลางพายุอยู่ที่ 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เวียดนามตอนกลาง ในช่วงวันที่ 6–7 พฤศจิกายน 2568 ในสถานะที่ยังเป็นพายุไต้ฝุ่น จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ

หลังจากเข้าเวียดนามแล้ว พายุจะเคลื่อนเข้าประเทศลาวในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บางพื้นที่ของไทยจะเริ่มมีฝนตกจากอิทธิพลของพายุ จากนั้นในช่วงกลางคืนวันที่ 7 พฤศจิกายน พายุจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี จากการจำลองโมเดล พบว่าสถานะพายุในช่วงที่เคลื่อนเข้าไทย ยังคงมีสถานะเป็น “พายุดีเปรสชัน” ยังไม่สลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าพายุคัลแมกี เป็นพายุลูกแรกของปีนี้ที่เข้าไทยโดยตรง

ลักษณะดังกล่าว จะส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกหนักมากระหว่าง 100 – 150 มิลลิเมตร บริเวณพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และนครราชสีมา

นอกจากนี้ยังมีหลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับอิทธิพลของพายุด้วย ทำให้มีฝนตกหนักระหว่าง 35–90 มิลลิเมตร

สำหรับทะเลอันดามัน คลื่นมีกำลังค่อนข้างแรง สูง 2–3 เมตร และอาจสูงเกิน 3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรมอุตุนิยมวิทยาจึงขอให้ชาวเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6–7 พฤศจิกายนนี้

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ย้ำว่า การเกิดพายุในช่วงฤดูหนาวเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะปกติแล้วในช่วงนี้พายุจะเคลื่อนลงไปทางใต้แล้ว แต่ปีนี้กลับพบว่า ยังเกิดพายุบริเวณภาคอีสาน สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป และช่วงที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ลานีญา จึงทำให้เกิดความผิดปกติของสภาพภูมิอากาศ แม้พายุที่เกิดขึ้นช่วงนี้จะเป็นสิ่งที่ไม่ปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในอดีตไม่เคยเกิดพายุในช่วงนี้มาก่อน เพราะในอดีตก็เคยเกิดพายุในช่วงฤดูหนาว ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนมาแล้ว 3 ครั้ง เกิดขึ้นในปี 2527, 2539 และ 2557

ดังนั้น ขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อมล่วงหน้า และติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด กรมจะติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา ช่วยให้ประชาชนสามารถวางแผนและป้องกันความเสี่ยงจากสภาพอากาศได้อย่างเหมาะสม

พร้อมยืนยันว่า กระแสข่าวที่บอกว่าหลังพายุคัลแมกีผ่านไป จะมีพายุลูกใหม่เข้ามาไทยอีกนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนี้มีพายุที่จะเคลื่อนมาไทยมีเพียงพายุคัลแมกีลูกเดียว ส่วนการก่อตัวของพายุในมหาสมุทรแปซิฟิก ถือว่าอยู่ไกลมาก ยังไม่รู้ว่าพายุจะเคลื่อนไปทางไหน ดังนั้นขอให้ติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการกับกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น

https://youtu.be/hF5h7wmM6pY