สังคม

“สนธิญา” บุกสำนักพุทธ ขอความเป็นธรรมให้ “หลวงพ่ออลงกต” ลั่นเชื่อในความดีของท่าน

โดย nicharee_m

19 ส.ค. 2568

134 views

“สนธิญา” บุกสำนักพุทธฯ ขอความเป็นธรรมให้ “หลวงพ่ออลงกต” ลั่นเชื่อในความดีของท่าน ชี้บริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ ย่อมมีข้อผิดพลาดได้เป็นธรรมดา ถามถ้าล้มหลวงพ่อได้ แล้วผู้ป่วยเอดส์จะไปอยู่ไหน

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมแก่พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี หลังจากมีข่าววิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการวัดและการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์

นายสนธิญาเปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปเยี่ยมชมวัดพระบาทน้ำพุเมื่อ 28-29 ปีที่แล้ว ขณะยังเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อทำรายงานเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งในยุคนั้นสังคมยังไม่ยอมรับผู้ป่วยโรคดังกล่าว และถูกกีดกันจากชุมชน แต่หลวงพ่ออลงกตและวัดพระบาทน้ำพุได้เป็นที่พึ่งสุดท้ายให้กับคนกลุ่มนี้มาโดยตลอด

“ผมไม่เคยรู้จักหลวงพ่ออลงกตเป็นการส่วนตัว แต่ผมเชื่อในความดีและการปฏิบัติของท่าน” นายสนธิญากล่าว พร้อมทั้งยอมรับว่าการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่อย่างวัดพระบาทน้ำพุเป็นเวลากว่า 30 ปี ย่อมมีข้อผิดพลาดได้เป็นธรรมดา

นายสนธิญายังได้ตั้งคำถามถึงบุคคลที่ออกมาโจมตีหลวงพ่ออลงกตว่า เคยเดินทางไปที่วัดเพื่อเห็นสภาพความเป็นจริงของผู้ป่วยหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 30 ปีที่แล้ว ซึ่งผู้ป่วยโรคเอดส์ไม่มีที่พึ่งและต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

“ผมถามว่า ถ้าสังคมล้มหลวงพ่ออลงกตได้ แล้วผู้ป่วยโรคเอดส์ที่สังคมไม่ยอมรับจะไปอยู่ที่ไหน” นายสนธิญากล่าว พร้อมทั้งย้ำว่าหากมีการตรวจสอบอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินบริจาคหรือประเด็นอื่น ๆ และพบว่าหลวงพ่ออลงกตมีความผิดจริง ตนก็พร้อมที่จะยอมรับ

นายสนธิญากล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีนี้ตนตั้งใจจะเดินทางไปที่วัดพระบาทน้ำพุเพื่อเป็นกำลังใจให้หลวงพ่ออลงกต และจะขอเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในทุกประเด็นที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งเรื่องการโอนที่ดินและการบริหารเงินบริจาค เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นธรรม

นายสนธิญายังได้ย้ำถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์ พร้อมทั้งกล่าวว่าการกระทำของตนเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ที่มุ่งพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวโทษผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ขอให้ทุกฝ่ายพิจารณาด้วยเหตุผลและความเป็นธรรม

คุณอาจสนใจ

Related News