“ต๋อย The Impossibles-หัวหน้าวงพิงค์แพนเตอร์-ป้าเม้า สุดา” พบตำรวจชี้แจงเส้นเงินโยงวัดพระบาทน้ำพุ

“ต๋อย The Impossibles-หัวหน้าวงพิงค์แพนเตอร์-ป้าเม้า สุดา” เข้าให้ปากคำปมมีชื่อเอี่ยวเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ แจงเป็นเงินค่าจ้างเล่นคอนเสิร์ต มีหลักฐานชี้แจง “ป้าเม้า” ฉะ “ทิดอลงกต” ทุเรศกล่าวหาโกงวัด

นายวินัย พันธุรักษ์ หรือ อาต๋อย ศิลปินแห่งชาติและเป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งวง The Impossibles เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปราม หลังพบมีชื่อเกี่ยวข้องกับเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ และอดีตพระอลงกต โดยนายวินัยกล่าวว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาให้ปากคำ และชี้แจงด้วยปากเปล่าก่อน ในเรื่องของเส้นเงินทั้งหมด โดยเฉพาะยอดเงินที่เป็นประเด็น งานวันที่ได้ไปร่วมร้องเพลงคอนเสิร์ต “วันภาษาไทย” ทั้งหมด 5 เพลง ภายในหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นงานคอนเสิร์ตที่ตนได้ร่วมงานกับวัดพระบาทน้ำพุครั้งที่ 3

ส่วนหลักฐานเอกสารสเตทเม้นท์ต่างๆ มั่นใจว่าถ้าชี้แจงด้วยตัวเองวันนี้แล้ว หากตำรวจต้องการเพิ่มเติม ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลับไปเอามามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนต่อไปได้

โดยภายในงานวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งเป็นวันภาษาไทยนั้น ตนเองได้เจอเพื่อนศิลปินมากมายด้วย หนึ่งในนั้นมี “วงพิงค์แพนเตอร์” และเมื่อแสดงจบ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของทางผู้จัดงาน ก็โอนเงินให้ เป็นเงินค่าตอบแทน ยอด 3 หมื่นบาท ซึ่งจะมายืนยันว่าเงินยอดนี้เป็นเส้นเงินที่ทางวัดโอนมาให้ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการไปจัดงาน หรือเงินที่รับบริจาคอะไรทั้งสิ้น รวมไปถึงไม่ได้ไปรับงานเพื่อโปรโมตหรืออะไรให้กับทางวัด เพราะทุกงานเขาก็มีผู้จัดงานเอง เราไม่ได้ไปจัดแจงหรือบอกว่าเราต้องรับเงินเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าไม่รู้จริงๆ ว่ายอดเงินบริจาคปต่ละงานได้เท่าไหร่บ้าง

นายวินัยกล่าวยืนยันว่า “ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดวัตถุประสงค์ และไม่ได้ทำอะไรที่มันเกินเลย พวกเราศิลปิน พอจบงานแล้วก็คือจบ อย่างอื่นเราไม่ทราบ เพราะก็ทราบเหมือนทุกคน ไม่เคยจะไปยืมเงินวัดด้วย”

เมื่อนักข่าวถามว่าพอมาทราบว่าอดีตพระอลงกตมีพฤติกรรมแบบนี้ รู้สึกอย่างไรนั้น นายวินัย ยอมรับว่า “ก็อึ้ง” ส่วนการเปิดเผยชื่อศิลปิน ตนเองก็อยากจะชี้แจง เพราะพอมีชื่อ บางคนก็เข้าใจผิด ตนเองในฐานะศิลปินแห่งชาติ อยู่ในวงการนี้มานาน หลายคนรู้ดีว่าตนเองมีพฤติกรรม และความประพฤติอย่างไร วันนี้ก็แค่อยากอธิบายให้สังคมเข้าใจ มันก็ทำให้รู้สึกสบายใจไปด้วย

ส่วนก่อนหน้านี้ ก็มีรับงานกับทางวัดพระบาทน้ำพุบ้างนานๆ ครั้ง มีคนชักชวน ใกล้ชิดที่สุดก็คือ “วงพิงค์แพนเตอร์” เขาก็รับงานมา และได้เชิญไปร่วมงานกันมานานราวๆ 8-9 ปีได้แล้ว ก็ไปทั้งงานกุศล และบางงานก็ได้เป็นค่ารถ ค่ายานพาหนะเท่านั้น นอกจากนี้ที่ผ่านมา ยังเคยไปพบอดีตพระอลงกตบ้างตามงาน ก็เข้าไปกราบตามปกติ แต่ไม่ได้สนิทถึงขั้นมีเบอร์ส่วนตัวกัน เวลามีงานก็จะมีคนติดต่อผ่านมาว่าให้ไปงานวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งตนเองก็ไป และไปกันหลายคนด้วย

ขณะที่นายวิชัย ปุญญะยันต์ หรือ อาต๋อย หัวหน้าวงดนตรีพิงค์แพนเตอร์ (Pink Panther) และนางสุดา ชื่นบาน หรือ ป้าเม้า นักร้องและนักแสดง ก็ได้เดินทางเข้าชี้แจงกรณีวัดพระบาทน้ำพุจ้างเล่นคอนเสิร์ต โดยอาต๋อยกล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานการโอนเงินค่าใช้จ่ายที่ได้รับค่าจ้างจากวัดพระบาทน้ำพุ ในการแสดงคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง โดยตนเองได้จัดคอนเสิร์ตร่วมกับวัดพระบาทน้ำพุ 10 ปี จัดมาประมาณ 7 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะเล่น 30 เพลง และได้รับเงินค่าจ้างประมาณครั้งละกว่า 400,000 บาท ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะมีการกระจายรายได้ให้กับคนที่มาร่วมจัดคอนเสิร์ต ทั้งนักดนตรี นักร้อง และลูกจ้างต่างๆ โดยเฉพาะวงของตนเองเป็นวงออร์เคสตราที่มีเครื่องดนตรีประมาณ 40 ชิ้น เมื่อแบ่งค่าใช้จ่ายจะตกประมาณคนละ 8,000 แต่ตนเองเป็นคอนดักเตอร์และนักร้อง จึงได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท ซึ่งการรับเงินในแต่ละครั้งนั้นจะผ่านคนกลางก็คือนายหนุ่ย ที่วันนี้ก็จะเดินทางมาร่วมชี้แจงด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าตนเองไม่มีการรับเงินเพื่อบริจาคให้กับวัด เนื่องจากคอนเสิร์ตแต่ละครั้งเป็นคอนเสิร์ตการกุศล จัดให้ลูกศิษย์ของวัดชม โดยลูกศิษย์ของวัดหากมาร่วมงานแล้วบริจาคเงิน ก็จะบริจาคเงินโดยตรงให้กับทางวัดไม่ได้ผ่านในส่วนของตนเอง

ที่ผ่านมาตนเองได้บริจาคเงินให้กับทางวัดมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ไปเล่นคอนเสิร์ตอื่นๆ ก็จะหักรายได้ประมาณ 1 แสนบาทต่อครั้งให้กับทางวัด โดย 1 แสนบาท จะมีการตกลงกับทางวัดไว้ก่อนแล้ว หากรายได้ไม่ถึงก็จะต้องควักเนื้อให้ ยอมรับว่าตนเองศรัทธาในตัวทิดอลงกต ในช่วงแรกเป็นเหมือนพระเอกที่มาช่วยเหลือคนอื่น

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ทิดอลงกตให้การกับตำรวจว่าโดนศิลปินโกงเงิน 4 แสนบาท ป้าเม้าถึงกับอุทานขึ้นมาว่า “ทุเรศ” พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเงินวัด ส่วนอาต๋อยพูดเสริมว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวเรื่องนี้ออกมายอมรับว่าเสียใจ แต่เราไม่รู้ว่าเงินอะไรมาจากไหน ตนเองทำงานตรงนี้มาเป็นเวลานาน 57 ปี ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย เพียงแค่คนคนเดียวที่ออกมาพูดถึงตนเองไม่ดี ซึ่งที่ผ่านมาวัดพระบาทน้ำพุจัดคอนเสิร์ตกับวงอื่นๆ มาเยอะมาก ของตนเองมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น