แรงงานกัมพูชากลับประเทศ อดอยากไม่มีงานทำ ดิ้นรนเอาชีวิตรอดลอบเข้าไทยซ้ำสอง

แรงงานกัมพูชาถูกกดดันกลับประเทศ ลำบากไม่มีงานทำขาดรายได้ รัฐบาลไม่ช่วยตามที่ประกาศ ดิ้นรนเอาชีวิตรอดลอบเข้าไทยซ้ำสอง

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่าอาจจะมีการลักลอบข้ามแดน จึงได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตามแนวชายแดนเวลาประมาณ 11.30 น.

เจ้าหน้าที่ตรวจพบชายต้องสงสัย 1 คน กำลังเดินเท้าลัดเลาะมาตามเส้นทางไร่อ้อย ใกล้กับบ้านกุดหิน หมู่ 4 ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบทันที พบว่าชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา ไม่มีเอกสารแสดงตน ทราบชื่อภายหลังคือ นายเมา ดำ อายุ 34 ปี

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเมา ให้การว่าเคยถูกจับกุมและส่งกลับประเทศเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาที่จุดผ่านแดนถาวรคลองลึก - ปอยเปต หลังจากถูกส่งกลับและไม่มีงานทำ จึงตัดสินใจลอบเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งเพื่อหางานทำ

นายเมา อ้างว่าได้เดินทางมาถึงพื้นที่ชายแดนเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ และได้สอบถามเส้นทางจากชาวกัมพูชาตามแนวชายแดน จากนั้นจึงลอบเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานลาดตระเวนพบตัวและควบคุมตัวไว้ได้

นายเมา ให้การเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ต้องลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง เนื่องจากไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ จนไม่มีอะไรจะกิน แม้จะทราบดีว่าทางการไทยมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด แต่ก็จำเป็นต้องดิ้นรนออกมาหางานทำในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังให้การอีกว่าหลังจากถูกกดดันให้กลับประเทศ ทางรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดๆ ทำให้ต้องดิ้นรนหาทางเอาชีวิตรอดด้วยตนเอง

หลังจากควบคุมตัว นายเมา ดำ ได้ถูกนำตัวส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรคลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป