ชายวัย 70 สุดเจ็บใจ สั่งตุ๊กตายางหวังแก้เหงาบั้นปลายชีวิต สุดท้ายโดนหลอกสูญเงินครึ่งแสน

อังเคิลวัย 70 เพิ่งกลับจากเมืองนอกได้ 3 เดือน สั่งตุ๊กตายางสาวสวยลูกครึ่ง หวังเอามาแก้เหงาบั้นปลายชีวิต สุดท้ายโดนหลอกสูญเงิน 5 หมื่นบาท สุดเจ็บใจไม่อยากไปทำกับคนอื่น เตรียมแจ้งความตำรวจไซเบอร์

วันนี้ (3 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงาน นายโทนี่ (นามสมมติ) อายุ 70 ปี ได้มาร้องกับนักข่าวที่ จ.อุดรธานี ซื้อตุ๊กตายางสาวสวยลูกครึ่งเอเชีย-ฝรั่งดันไม่ได้ เสียทั้งเงินทั้งความรู้สึก เชื่อว่าถูกหลอกแน่ อยากนำเรื่องราวมาเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อและหลงเชื่อสั่งของจากเพจนี้ต่อไป

นายโทนี่ บอกกับนักข่าวว่า แต่ก่อนตนเองทำงานเป็นผู้รับเหมาอยู่เมืองนอกหลายประเทศ อยู่เมืองนอกซะนานมากว่า 30 ปี ในช่วงบั้นปลายชีวิตเลยกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดที่ จ.อุดรธานี โดยซื้อบ้านจัดสรรเอาไว้ เพิ่งมาอยู่เมืองไทยด้วย 3 เดือน ด้วยที่เราเป็นคนโสดประกอบกับเลิกกับเมียมาเกือบ 22 ปี ก็มีบ้างที่เหงา เลยอยากสั่งตุ๊กตายางมาไว้ที่บ้าน

ก่อนที่ตนจะถูกหลอก ได้เข้าไปค้นหาเพื่อสั่งซื้อตุ๊กตายางในอินเทอร์เน็ต ก็มีเพจหนึ่งเด้งขึ้นมากดเข้าไปดูก็มีตุ๊กตายางหลายแบบหลายราคา ซึ่งตุ๊กตายางตัวที่ตนอยากได้ หุ่นดีหน้าตาเป็นลูกครึ่งเอเชีย-ฝรั่ง สเป็กตนด้วย เพจเขาตั้งราคาไว้ประมาณ 40,000 บาท ระบุเป็นของแท้นำเข้ามาจากญี่ปุ่นเป็นตุ๊กตายางซิลิโคนแท้ด้วย

ตนก็สนใจจึงทักไปหา แอดมินรีบตอบกลับมาทันที ทางเพจลดให้จาก 40,000 บาทเหลือ 20,000 บาท ลดให้ 50% เลยเพราะเป็นช่วงโปรโมชั่น ตนไม่รีรอตัดสินใจโอนเงินให้ทันที 20,000 บาทโดยโอนไปบัญชีคนชื่อนางละเมียด เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา หวังได้ตุ๊กตายางมาเก็บไว้ข้างกายยามเหงา

พอโอนเงินเสร็จ ทางเพจร้านค้าก็บอกว่าอีกประมาณ 3-4 วัน ของจะถูกส่งมาจากต่างประเทศและมาถึงประเทศไทย จะโทรบอกพอครบ 4 วัน ร้านค้าก็โทรมาบอกว่าของมาแล้วแต่ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าส่งอีก 2,000 บาท และค่าภาษีอีกท่าเรือ อีก 6,000 บาท ตนก็เอะในใจแต่ก็โอนเงินให้เพิ่ม พอถึงกำหนดจะส่งของอีกวันเขาก็โทรมาอีก ต้องจ่ายค่ากล่องและค่าประกันอีก 8,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีค่าประกัน ค่ากล่อง และค่าสบู่ ยิ่งแปลกใจไปกันใหญ่ ตนก็กลัวโดนโกง จึงทักแชททางร้านค้าไป เขาก็บอกว่ายืนยันไม่โกงแน่นอน พร้อมส่งบัตรประชาชนมาให้ดูน่าเชื่อถือ เป็นบัตรประชาชนของคนชื่อนายณัฐวุฒิ อายุ 29 ปี เขาอ้างว่าเป็นบัตรตัวจริง ก็ยิ่งทำให้ตนเชื่อ

ลุงโทนี่ บอกอีกว่า แต่กว่าจะได้ตุ๊กตายางเงินที่ต้องจ่ายยังไม่จบแค่นี้ พอถึงวันนัดมาเรื่อยๆ เขาก็โทรมาอีกบอกว่าตอนนี้ถูกตำรวจจับไม่สามารถเอาสินค้าเอาออกมาได้ที่ท่าเรือขอเพิ่มอีก 7,000 บาท ซึ่งเขาก็อ้างอยู่ว่าถ้าไม่โอนมา เราต้อง 2 คนจะถูกดำเนินคดี จนกระทั่งจนอยากตัดรำคาญอีกก็เลยโอนเงินเข้าไปอีก ไม่ถึงชั่วโมงโทรมาอีกบอกตำรวจขอเพิ่ม 9,000 บาท และต้องเคลียร์กับนักข่าวอีก 15,000 บาท สรุปแล้วตนต้องจ่ายค่าตุ๊กยางจากราคาโปรโมชั่น 20,000 บาท ต้องจ่ายรวมแล้วจำนวน 51,000 บาท จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอนแล้ว จึงเอาเรื่องมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน

ตนกลับมานั่งคิดทบทวนในใจ หรือเขาจะหลอกเอาเงินตน สำหรับเงินที่เสียไปนั้นตนก็ไม่ได้ติดใจแต่ถ้าคิดถึงคนอื่นว่าถ้าถูกหลอกแบบเราจะเป็นยังไงจะรู้สึกยังไง สำหรับบัตรประชาชนที่คนร้ายถ่ายมาให้ดูนั้นก็ไม่ตรงกับบัญชีที่โอนให้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบัตรประชาชนของคนอื่น แน่นอน

ตอนท้ายลุงโทนี่ บอกว่า สาเหตุที่ตนต้องการตุ๊กตายางก็เพราะว่าเดิมทีตอนทำงานต่างประเทศมาอยู่เมืองไทยได้เพียง 3 เดือนก็อยากมีเก็บไว้ที่บ้านไว้แก้งา ตอนที่อยู่ต่างประเทศตรงก็มีเก็บไว้ใช้ 1 ตัว เพราะเรามีไว้เพื่อแก้ปัญหาทางสุขภาพ สำหรับตนเป็นคนไม่มีครอบครัวไม่มีภรรยา อีกทั้งเราก็ไม่อยากจะมีภาระกับผู้หญิงที่มีชีวิต จึงตัดสินใจซื้อตุ๊กตาเพื่อแก้ไขปัญหา

สำหรับตุ๊กตานั้นต่างชาติเขามองเป็นเรื่องปกติมีเพื่อนๆ หลายคนแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ทั้งนี้หากเราจะไปซื้อบริการผู้หญิงเราก็กลัวจะติดโรคทางเพศสัมพันธ์เพราะว่าตอนนี้มีโรคอันตรายมากๆ มีเงินกี่แสนกี่ล้านก็รักษาไม่หายช่วยไม่ได้ ตอนนี้ตุ๊กตายางสมัยนี้ทำได้ดีมากทั้งสวย Option ต่างๆ ก็ดีหมด ตนไม่อายที่มาเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่อยากให้คนอื่นโดนหลอก ซึ่งจริงๆ แล้วตุ๊กตายางในต่างประเทศเขามีช็อปซื้อขายเปิดเผยไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย

โดยพรุ่งนี้ลุงโทนี่จะนำเอกสารการโอนเงินและหลักฐานต่างๆ ไปแจ้งความกับตร.ไซเบอร์จ.อุดรธานี เพื่อให้ติดตามมิจฉาชีพมาดำเนินคดี และไม่ให้ไปหลอกคนอื่นอีกต่อไป