สังคม

ทลายแก๊งคอลฯ จับ 14 ชาวจีน ถือวีซานักท่องเที่ยว-นักศึกษา เช่าบ้านพูลวิลลาหลอกคนจีนด้วยกัน

โดย chutikan_o

1 ก.ค. 2568

327 views

บุกทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ รวบ 14 ชาวจีน - 3 เมียนมา ถือวีซานักท่องเที่ยว-นักศึกษา เช่าบ้านหรูพูลวิลลาในเชียงใหม่ หลอกคนจีนด้วยกัน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 500 ล้านบาท

วันที่ 1 ก.ค. 2568 เวลา 11.30 น. ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ทำลายกลุ่มเครือข่ายชาวต่างชาติ ต้องสงสัยกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.สราวุธ คนใหญ่ ผบก.ตม.5 ร่วมตรวจสอบการตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 13 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งบ้านเช่าพูลวิลล่าหรู ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่

ผลการตรวจค้น พบชาวต่างชาติสัญชาติจีน 15 คน, เมียนมา 2 คน ตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ 26 เครื่อง ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร”

พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรีธวัชชัย พงศ์วิวัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ตรวจสอบการจับกุมแก๊งชาวจีน ลักลอบตั้งฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านหรูพูลวิลลา 3 ชั้น โดยสามารถรวบตัวชาวจีน 14 คน แบ่งเป็นชาย 11 คนหญิง 3 คน และชาวเมียนมา 3 คน เป็นชาย 1 คนหญิง 2 คน อยู่ภายในบ้าน

นอกจากนี้พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค กว่า 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือเกือบ 30 เครื่อง จากการตรวจสอบทราบว่าทั้งหมด ทำหน้าที่เป็นแอดมินหลอกลวง คนจีนผ่านแอปพลิเคชันในหลายรูปแบบ ทั้งการหางาน หลอกซื้อสินค้า Romance Scan จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหาย ในบัญชีรายชื่อ ไม่น้อยกว่า 100,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ อยู่ในเกณฑ์อายุ 60 ปีขึ้นไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านบาท)

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า กลุ่มคนจีนที่ถูกจับกุมครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการของชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตร.ภาค 5 ซึ่งพบว่าได้ย้ายฐานมาจากแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และมาเช่าบ้านดังกล่าวเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท ซึ่งมีทั้งบอสและลูกจ้างทำงานกันเป็นระบบ แบ่งแยกหน้าที่หลอกลวงเป็นขั้นเป็นตอน โดนได้ค่าจ้าง 3,000 หยวนต่อเดือน ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น ทั้งนี้พบว่าชาวจีนมีทั้งวีซานักท่องเที่ยวและวีซานักศึกษา รวมทั้งวีซานักท่องเที่ยวหมดอายุและกำลังขอวีซาเป็นนักศึกษา ซึ่งจะดำเนินดำคดีในข้อหาซ่องโจรเพื่อฉ้อโกงประชาชน พร้อมประสานไปยังกงสุลจีน เพื่อดำเนินการรับตัวไปดำเนินคดี เนื่องจากมีรายชื่อผู้เสียหายชัดเจน นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยังกล่าวอีกว่าปัจจุบันมีคนจีนขอวีซานักศึกษาของมหาวิทยาลัยเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ รวมกว่า 13,000 คน ซึ่งได้กำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเร่งดำเนินการตรวจสอบเชิงรุก เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในพื้นที่ให้หมดไป

ชาวจีนกลุ่มนี้จะอาศัยการเช่าบ้านหรู เพื่อตบตาชาวบ้านว่ามาอยู่ในฐานะนักท่องเที่ยวหรือชาวจีนที่มีเงิน อำพรางการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้แล้วยังพบว่ามีชาวจีนที่อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย ไปสมัครเรียน ภาษา กับมหาวิทยาลัยบางแห่ง เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการขอวีซานักศึกษาเพื่ออาศัยอยู่ในพื้นที่ได้นาน

คุณอาจสนใจ

Related News