ตร.เกาหลีใต้ทลายแก๊งคอลฯ อ้างเป็น “ทหาร-ทีมงานประธานาธิบดี” ตุ๋น 155 ล้านบาท พบตั้งฐานในกัมพูชา

ตำรวจเกาหลีใต้ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ อ้างเป็น “ทหาร-ทีมงานประธานาธิบดี” ตุ๋นกว่า 155 ล้านบาท พบตั้งฐานในกัมพูชา รวบผู้ต้องหาได้ 114 คน

ตำรวจจังหวัดคังวอน เกาหลีใต้ ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ อ้างตัวเป็นนายทหารระดับสูง เจ้าหน้าที่พรรคการเมืองและหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี หลอกลวงเหยื่อทั่วประเทศกว่า 560 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 6,900 ล้านวอน (ราว 155 ล้านบาท) พร้อมรวบผู้ต้องหาทั้งชาวเกาหลีและต่างชาติได้ 114 คน พบฐานปฏิบัติการหลักตั้งอยู่ในเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา

ปฏิบัติการกวาดล้างครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากตำรวจพบว่าคดีหลอกลวงโดยอ้างตัวว่าเป็นนายทหารพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจเมื่อปีที่แล้ว จนสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องมอบหมายให้ตำรวจคังวอนเป็นหน่วยสืบสวนหลัก

จากการสอบสวนพบว่าแก๊งนี้มีโครงสร้างการทำงานที่เป็นระบบและซับซ้อน โดยมีหัวหน้าใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ “ซาจังดัน” (Sajangdan) หรือ “กลุ่มซีอีโอ” คอยสั่งการจากต่างประเทศ ควบคุมศูนย์คอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชาและเครือข่ายฟอกเงินระหว่างประเทศ

ขบวนการนี้แบ่งทีมทำงานชัดเจน ได้แก่ ทีมสวมรอย ซึ่งจะปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยงานรัฐ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ, ทีมหลอกขายของ ทำหน้าที่เสนอขายอุปกรณ์ทางการทหารปลอมให้แก่เหยื่อ, ทีมฟอกเงิน ทำหน้าที่โอนเงินที่ได้จากการฉ้อโกงผ่านตลาดคริปโตในเกาหลีใต้ส่งออกไปต่างประเทศ และทีมเทคนิค เพื่อทำหน้าที่คอยย้ายอุปกรณ์สื่อสารไปตามที่ต่างๆ ในกรุงโซลและจังหวัดคยองกี เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่

หนึ่งในกลอุบายที่แยบยลที่สุดของแก๊งนี้ คือการฉวยโอกาสช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง โทรไปหลอกให้เหยื่อจองที่พักหรือสั่งอาหารเลี้ยงทีมงาน ก่อนจะให้สมาชิกอีกคนที่ปลอมเป็นบริษัทส่งข้าวกล่องเข้าไปเก็บเงิน

ด้วยความร่วมมือระหว่างตำรวจเกาหลีใต้, ตำรวจสากล (Interpol) และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ทำให้สามารถบุกทลายศูนย์คอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา และจับกุมตัวการใหญ่พร้อมผู้ดูแลระบบได้ทั้งหมด ที่น่าตกใจคือ กว่า 80% ของผู้ต้องหาเป็นคนหนุ่มสาวอายุเพียง 20-30 ปี และมีเยาวชนรวมอยู่ด้วยถึง 4 คน

พล.ต.ชเว ฮยอนซอก ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดคังวอน ได้กล่าวเตือนประชาชนว่าหน่วยงานรัฐไม่มีนโยบายขอให้ประชาชนโอนเงินล่วงหน้าหรือซื้อของแทน หากได้รับการติดต่อในลักษณะนี้ ขอให้ตรวจสอบกับหมายเลขทางการของหน่วยงานนั้นๆ ทันที

พร้อมกันนี้ ยังได้ฝากเตือนไปยังกลุ่มคนหนุ่มสาวที่อาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ว่า คนหนุ่มสาวจำนวนมากถูกหลอกให้เข้าร่วมแก๊งด้วยข้อเสนองานต่างประเทศรายได้สูงระยะสั้น ซึ่งสุดท้ายอาจนำไปสู่การตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมซ้ำซ้อน เช่น ถูกลักพาตัวหรือกักขังหน่วงเหนี่ยว และผู้ที่เข้าร่วมขบวนการอาจต้องรับโทษหนักในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด