“กรุณพล” ซัด “กรมการข้าว” ใช้งบหลายหมื่นล้านแต่แก้ปัญหาชาวนาไม่ได้

“กรุณพล” ซัด “กรมการข้าว” ใช้งบหลายหมื่นล้านแต่แก้ปัญหาชาวนาไม่ได้ เหน็บ “สส.เพื่อไทย” ลักไก่เอาเมล็ดพันธุ์เก่ามาสีแจกจ่ายในนามตัวเอง ด้าน “สส.อุบล” โต้ทันที อย่ามัวจับผิด ยันแค่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐกับชาวนา ให้เข้าถึงพันธุ์ข้าว วอนอะไรดีๆ ก็ช่วยสนับสนุน

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 29 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า จากการใช้งบประมาณที่ผิดทิศผิดทางมาตลอด 2 ปีของรัฐบาลนี้ ตนเองขอเป็นตัวช่วยรัฐบาลหาเงินในโอกาสสุดท้ายก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะพังแบบจริงๆ จังๆ โดยเฉพาะกับเกษตรกรไทยกว่า 60% เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับข้าวในประเทศนี้คือ กรมการข้าว ที่ผ่านมาจะเห็นชาวนาออกมาเรียกร้องให้ช่วยพยุงราคาข้าว ให้ช่วยจัดการปัญหาของชาวนาอยู่ทุกปี เราใช้เงินแก้ปัญหาเรื่องนี้หลักหมื่นหลักแสนล้านบาท แต่ไม่เคยแก้ปัญหาได้อย่างเสร็จสรรพ ตลาดข้าวไทยถูกทุบจนเสียทรง เราไม่มีพันธุ์ข้าวชั้นดีที่สามารถให้ผลผลิตได้มากเทียบเท่ากับประเทศคู่แข่ง มีเกษตรกรตกหล่นจากการได้เมล็ดพันธุ์ชั้นดีกว่า 90% ของเกษตรกรทั้งประเทศ

นายกรุณพล ขึ้นภาพการแจกข้าวให้กับประชาชนของ สส.พรรคเพื่อไทย พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลใจอีกอย่างคือความโปร่งใสตามระเบียบผู้ที่จะได้รับแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ต้องลงทะเบียนและรับเมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าวเท่านั้น ซึ่งเมล็ดพันธุ์เก่าที่นำมาแลก กรมการข้าวจะนำไปทำอะไรก็ได้ แต่มีการแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ที่ดูน่าสงสัยว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองและพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาลหรือไม่ เพราะมี สส.นำข้าวไปสีแล้วแจกจ่ายประชาชนในนามตัวเอง

“ผมอยากตั้งคำถามไปที่กรมการข้าว สส.ว่าใช้สิทธิ์อะไรในการกระทำการแลกเปลี่ยนข้าวแทนกรมการข้าว ใช้สิทธิ์อะไรในการนำข้าวเก่าที่เกษตรกรเอามาแลก ไปสีและแจกจ่ายในนามของตัวเอง และใช้สิทธิ์อะไรถึงนำข้าวจากกรมการข้าวมาแลกเปลี่ยนที่ทำการที่มีชื่อและสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย” นายกรุณพลกล่าวและว่า ตามระเบียบของกรมการข้าว ผู้สามารถรับพันธุ์ข้าวต้องเป็นสมาชิกข้าวชุมชน หรือเป็นครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ และจะได้รับข้าวไม่เกิน 450 กิโลกรัมต่อครัวเรือน

นายกรุณพล กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีตัวชี้วัดว่าเกษตรกรในพื้นที่สามารถนำไปต่อ ยอดได้กี่ราย หากลงทุนจะคืนทุนภายในระยะเวลาเท่าไหร่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีไหน สุดท้ายแล้วงบประมาณ 200 กว่าล้านบาทที่ลงทุนไป ก็จะเป็นได้แค่โชว์รูมอัจฉริยะที่มีไว้เผางบประมาณและหาเงินเงินทอน

นายกรุณพล กล่าวว่า ความกังวลใจในเรื่องงบประมาณและโครงการที่ส่อทุจริต เป็นเรื่องที่สังคมไทยตั้งคำถามกับหน่วยงานภาครัฐมาตลอด และกับกรมการข้าว ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้ มีหลายโครงการที่น่าสงสัยว่ามีการล็อกสเปค หรือไม่มีหลายโครงการที่มีราคาครุภัณฑ์ที่สูงเกินกว่าราคาตลาดหลายเท่าและหลายโครงการไม่เห็นความจำเป็นของการตั้งโครงการเพื่อจัดซื้อจัดจ้างเรามา

“หากท่านรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลอยากเห็นความผิดปกติของการใช้งบประมาณของกรมนี้เข้าไปดูในเพจของกรมมีการโอนเปลี่ยนย้ายงบประมาณมั่วซั่วไปหมด เหมือนทำเอกสารของบประมาณไปแบบให้เสร็จๆ ไป แต่สุดท้ายก็ไปเล่นแร่แปรธาตุกันหลังจากได้งบประมาณไปแล้ว จนสงสัยว่า พวกคุณตั้งใจที่จะบริหารงบประมาณให้ถูกต้องตามที่ขอกับสภาหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วไร้ฝีมือไร้ความสามารถในการปฏิบัติตามแผนที่ตัวเองเป็นคนเขียนมา หรือจริงๆแล้วมีความสามารถมากซะจนมองเห็นช่องทางที่จะตักตวงผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง นี่ไม่ใช่คำกล่าวหาแต่เป็นข้อ สงสัยจากการได้ขุดคุ้ยประมาณของกรมการข้าวมาตลอดระยะเวลาหลายปีหากกรมการข้าวยังไม่เปลี่ยนยุทธศาสตร์จากการแจกจ่ายมาสู่การปฏิรูปโครงสร้าง และใช้งบประมาณแบบโปร่งใส ก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวนาให้ลืมตาอ้าปากได้อย่างยั่งยืน อย่าให้ชาวนาเป็นเพียงกระดูกสันหลังของชาติที่ถูกละเลยแต่ให้เขาได้ลืมตาอ้าปากมีชีวิตที่ดีขึ้นได้เป็นกระดูกสันหลังที่หล่อเลี้ยงประเทศไทยให้ยั่งยืนสืบต่อไป” นายกรุณพล กล่าว

ทำให้ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ชี้แจงทันทีว่า ขอบคุณที่ฝ่ายค้านติดตามการทำหน้าที่ของตัวเอง แค่คิดว่านายกรุณพลคงไม่เข้าใจการทำหน้าที่ สส.เขต ที่ต้องอยู่กับชาวบ้านตลอดเวลา สส.บัญชีรายชื่อ คงไม่เข้าใจ แต่ยืนยันว่าทำหน้าที่ สส.เขต เป็นคนกลางระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐให้เข้าถึงเมล็ดพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ที่ได้ผลผลิตดีขึ้น เพราะหากชาวนาไปหาซื้อเองก็จะยากลำบาก จึงขอประสานงาน ให้กรมการข้าวมาอำนวยความสะดวกให้ ชาวหน้าถึงที่ภายใต้โครงการของกรมการข้าว เพื่อให้เกษตรกร เข้าถึงเมล็ดพันธุ์ข้าว ด้วยการนำข้าวเปลือกที่เกษตรกรมีมาแลกกับพันธุ์ข้าวใหม่จากกรมการข้าว พร้อมย้ำ ในฐานะที่ทุกคนเป็นผู้แทนเหมือนกัน หากเห็นอะไรดีๆ ที่ทำให้ประชาชน ควรสนับสนุน อย่าหาทางจับผิดกันเลย ยืนยันนี่ไม่ใช่การแจก ก่อนที่จะทำอะไร คิดไตร่ตรองมาอย่างดี รอบคอบ เพราะกว่าจะได้เป็นผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เรื่องง่าย